ราคาน้ำมันดิบ ร่วงลงรุนแรงสุดในรอบ 3 ปี ขณะที่ความเสี่ยงลดลง

ราคาน้ำมันดิบ ปรับตัวสูงขึ้นในวันศุกร์ แต่ในรอบสัปดาห์ปรับตัวลดลงรุนแรงที่สุดในรอบ 3 ปี เนื่องจากไม่มีอุปทานหยุดชะงัก หลังสงครามอิสราเอล-อิหร่านยุติลง
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นในวันศุกร์(27มิ.ย.) แต่ราคาในรอบสัปดาห์ปรับตัวลดลงรุนแรงที่สุดในรอบ 3 ปี เนื่องจากไม่มีอุปทานหยุดชะงัก หลังสงครามระหว่างอิหร่านและอิสราเอล หยุดลง
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 4 เซ็นต์ ปิดที่ 67.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียต (WTI) พิ่มขึ้น 28 เซ็นต์ หรือ 0.43% ปิดที่ 65.52 ดอลลาร์
ในช่วงสงคราม 12 วันที่เริ่มขึ้นหลังจากอิสราเอลโจมตีโรงงานนิวเคลียร์อิหร่านเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ราคาน้ำมันเบรนท์พุ่งขึ้นเหนือ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วงหนึ่ง ก่อนจะร่วงลงมาที่ 67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ประกาศหยุดยิงสงครามอิสราเอล-อิหร่าน
ราคาน้ำมันเบรนท์ปิดตลาดสัปดาห์นี้ร่วงลงแรง 12% ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2022 ส่วนราคาน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ร่วงลงประมาณ 11% ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2023
“ตลาดแทบจะไม่ต้องคำนึงถึงความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์จากเมื่อเกือบสัปดาห์ที่แล้วเลย เนื่องจากเรากลับสู่ตลาดที่ขับเคลื่อนโดยปัจจัยพื้นฐาน” จานีฟ ชาห์ นักวิเคราะห์ของบริษัท Rystad กล่าว
เขากล่าวว่าตลาดยังจับตาดูการประชุมของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันโอเปกพลัส (OPEC+) ในวันที่ 6 กรกฎาคม ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับเพิ่มปริมาณการผลิตอีก 411,000 บาร์เรลต่อวัน พร้อมทั้งเสริมว่าตัวบ่งชี้อุปสงค์ในช่วงฤดูร้อนก็มีความสำคัญเช่นกัน
ฟิล ฟลินน์ นักวิเคราะห์อาวุโสของ Price Futures Group กล่าวว่าความคาดหวังถึงอุปสงค์ที่สูงขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้ายังส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นในวันศุกร์ด้วย
ฟลินน์ กล่าวว่า “เรากำลังได้รับแรงหนุนราคาจากอุปสงค์น้ำมัน”
“หากเราสามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากับจีนได้ เราก็จะอยู่ในสถานะที่ดี” ฟลินน์กล่าว
คลังสำรองน้ำมันลดลง
ราคายังได้รับการสนับสนุนจากรายงานสต็อกน้ำมันหลายฉบับที่แสดงให้เห็นว่ามีการดึงน้ำมันดิบจากโรงกลั่นกลางเพิ่มขึ้น ทามาส วาร์กา นักวิเคราะห์ของ PVM Oil Associates กล่าว
เมื่อวันพุธ ข้อมูลจากสำนักงานสารสนเทศพลังงานของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่าสต็อกน้ำมันดิบและเชื้อเพลิงลดลงหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านั้น โดยกิจกรรมการกลั่นและความต้องการเพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกัน ข้อมูลเมื่อวันพฤหัสบดีแสดงให้เห็นว่าคลังสำรองน้ำมันดีเซลที่ศูนย์กลางการกลั่นและจัดเก็บน้ำมันอัมสเตอร์ดัม-รอตเตอร์ดัม-แอนต์เวิร์ป (ARA) ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่าหนึ่งปี ขณะที่สำรองน้ำมันดิบจากโรงกลั่นกลางของสิงคโปร์ลดลง เนื่องจากการส่งออกสุทธิเพิ่มขึ้นทุกสัปดาห์
จีนนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ การนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านของจีนยังเพิ่มขึ้นในเดือนมิถุนายน เนื่องจากการขนส่งเร่งตัวขึ้นก่อนเกิดความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน และความต้องการจากโรงกลั่นอิสระก็เพิ่มขึ้น นักวิเคราะห์กล่าว
จีนเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกและเป็นผู้ซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านรายใหญ่ที่สุด โดยจีนซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านมากกว่า 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวันระหว่างวันที่ 1-20 มิถุนายน ตามข้อมูลของบริษัท Vortexa ซึ่งเป็นบริษัทติดตามการเดินเรือ การซื้อน้ำมันอิหร่านของจีนรอบนี้ถือเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ตามข้อมูลของบริษัท







