‘นบข.’ ยื้อจ่ายชาวนาไร่ละพัน หลังงบฯพุ่งทะลุ 7 พันล้าน

นบข. ตีกลับช่วยชาวนาไร่ละพันให้อนุการผลิตไปทำข้อมูลใหม่หลังยอดลงทะเบียนชาวนาเพิ่มเป็น 8 แสนรายใช้งบเพิ่มจาก 2,700 ล้าน เป็น 7,500 ล้าน ตัวแทนชาวนาวอนเร่งช่วยเหลือ
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ที่ทำเนียบรัฐบาล วันนี้ (26 มิ.ย.) ว่าที่ประชุมรับทราบแนวทางการช่วยเหลือชาวนาทั้งเงินช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 10 ไร่ ในส่วนของปีการผลิตข้าวนาปรังปีการผลิต 2568
โดยได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการ นบข.ด้านการผลิต ที่มีอธิบดีกรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานกลับไปจัดทำรายละเอียดมาเสนอใหม่ เนื่องจากมีจำนวนเกษตรกรชาวนาที่ลงทะเบียนเพิ่มเติมเป็นจำนวนมาก
ส่วนเรื่องของการช่วยเหลือปัจจัยการผลิตให้กับชาวนาที่ประชุมก็เห็นชอบในหลักการในการช่วยเหลือเช่นกัน โดยในการช่วยเหลือส่วนนี้จะเป็นไร่ละ 500 บาทโดยจะช่วยเหลือต่อเนื่องไปอีก 2 ปี แต่ในส่วนของการช่วยเหลือที่เป็นเงินต่อไร่ที่เป็นเงินสดนั้นจะเป็นการช่วยเหลือปีนี้ปีเดียว โดยในการประชุมครั้งนี้ยังมีการอนุมัติการประกันภัยพืชผลด้วย
ด้านนายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย กล่าวว่าในวันนี้ที่ประชุม นบข.ยังไม่ได้อนุมัติโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรังปีการผลิต 2568 ไร่ละ 1,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 10 ไร่ โดยที่ประชุมมอบหมายให้ อนุกรรมการ นบข.ด้านการผลิต ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงเกษตรฯ
โดยประเด็นที่ให้มีการนัดหมายประชุมและทำข้อมูลมาใหม่คือในส่วนที่จำนวนชาวนาที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรเพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ 3 แสนครัวเรือน เพิ่มเป็นประมาณ 8.5 แสนครัวเรือน ทำให้งบประมาณที่จะต้องใช้เพิ่มจากประมาณ 2,867 ล้านบาท มาเป็นประมาณ 7,500 ล้านบาท
ทั้งนี้การที่ชาวนาเข้ามาลงทะเบียนในโครงการนี้เป็นจำนวนมากเนื่องจากที่ผ่านมารัฐบาลมีการช่วยเหลือเฉพาะชาวนาที่ทำข้าวนาปี แต่เมื่อมีการเปิดโครงการช่วยเหลือในส่วนของข้าวนาปรังทำให้มีชาวนาเข้ามาขอรับความช่วยเหลือจากรัฐบาลเป็นจำนวนมาก ประกอบกับราคาข้าวขณะนี้ตกต่ำมากเหลือตันละ 5,000 – 6,000 บาทเท่านั้น เงินช่วยเหลือในโครงการนี้ของรัฐบาลจึงมีความจำเป็นต่อชาวนามาก
“รองนายกฯพิชัยยืนยันว่าต้องช่วยเหลือชาวนาในส่วนนี้ แต่ตอนนี้ถือว่ายังไม่รู้ว่าชาวนาจะได้เงินจากโครงการนี้เมื่อไหร่ อาจจะต้องรออีกหลายเดือน เพราะขั้นตอนต้องไปตั้งต้นที่อนุการผลิต และกลับมาที่ นบข.แล้วไปที่ ครม.อีก แต่ตอนนี้ใกล้จะถึงเวลาเก็บเกี่ยวของชาวนาแล้ว จึงอยากจะวอนให้รัฐบาลช่วยดำเนินการในเรื่องนี้ ”นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย กล่าว







