'ดร.รุ่ง' มาแรงแซงโค้ง จ่อนั่งเก้าอี้ ‘ผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่’

เปิด 3 เหตุผลหนุน ดร.รุ่ง นั่งเก้าอี้ผู้ว่าการแบงก์ชาติคนใหม่ รมว.คลังจ่อส่งชื่อเข้า ครม.มีแนวคิดทำงานสอดคล้องรัฐบาล แปลงนโยบายสู่ปฏิบัติการเมืองหนุน
KEY
POINTS
- กระบวนการคัดเลือกผู้ว่าฯ ธปท.คนใหม่คืบหน้า เตรียมเสนอ ครม.โดยจะเสนอชื่อให้ รมว.คลัง พิจารณาก่อนนำเข้าที่ประชุม ครม.ต้นเดือนก.ค.
- “ดร.รุ่ง” เป็นตัวเต็ง ด้วยวิสัยทัศน์ชัด-แนวนโยบายสอดรับรัฐบาล ส่งผ่านนโยบายการเงินสู่ภาคปฏิบัติได้จริง โดยเฉพาะเรื่องการกำกับแบงก์พาณิชย์ให้ตอบสนองต่อการลดดอกเบี้ย ชูค่านิยม “ยื่นมือ” ของแบงก์ชาติเข้าช่วยเหลือเศรษฐกิจในยามวิกฤติ
- เผยมีแรงสนับสนุนจากฝ่ายการเมือง และมีจุดแข็งเรื่องประสบการณ์ทั้งใน แบงก์ชาติ และธนาคารพาณิชย์ อีกทั้งนโยบายยังสอดคล้องกับทิศทางรัฐบาล เช่น Virtual Bank, กลไกค้ำประกัน NaCGA และแนวทางแก้หนี้ครัวเรือน
- ดร.รุ่งยังมีภาพลักษณ์ระดับสากล รองรับบทบาทเวทีการเงินโลกมี ประวัติการศึกษาจาก Harvard และ MIT จะช่วยเสริมภาพลักษณ์ไทยในเวทีระดับโลก โดยเฉพาะเมื่อไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุม IMF-World Bank ในปี 2569
การคัดเลือกผู้สมัครผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่ผ่านการแสดงวิสัยทัศน์ และสัมภาษณ์ผู้สมัครไปเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.68 ที่ผ่านมา โดยคณะกรรมการคัดเลือกผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ที่มีนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ เป็นประธานได้คัดเลือกผู้สมัครเหลือ 2 รายชื่อเพื่อเสนอให้กับนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง พิจารณา และเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในช่วงต้นเดือนก.ค.นี้
2 รายชื่อที่เข้าสู่การพิจารณาในรอบสุดท้ายคือ 1.นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน และ 2.ดร.รุ่ง โปษยานนท์ มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธปท.
ทั้งนี้รายงานข่าวระบุว่าในการสัมภาษณ์แสดงวิสัยทัศน์ผู้สมัครทั้ง 6 คนที่ผ่านเข้ารอบสัมภาษณ์มีการนำเสนอข้อมูล ปัญหาเศรษฐกิจ และความท้าทายของเศรษฐกิจไทย ทั้งเรื่องของหนี้ครัวเรือน และสงครามการค้าที่ประเทศไทย ต้องมีการเตรียมนโยบายทางการเงินไว้รองรับได้ค่อนข้างดี แต่ผู้สมัคร 2 คนที่โดดเด่นได้พูดถึงแนวทางการแก้ปัญหาที่ค่อนข้างเป็นรูปธรรม โดย ดร.รุ่งได้ให้น้ำหนักในการผลักดันให้ ธปท.ทำหน้าที่ในการกำกับดูแลสถาบันการเงิน เพื่อให้ส่งจากนโยบายการเงินลงไปสู่ภาคปฏิบัติ
ส่วนนายวิทัยนั้นสร้างความประทับใจ และดึงคะแนนจากกรรมการที่สัมภาษณ์ได้ด้วยนโยบายของธนาคารที่ใช้สำเร็จกับธนาคารออมสินมาแล้ว ด้วยการผลักดันให้เป็น Social Bank ที่เน้นการแก้ปัญหาหนี้สิน และการผลักดัน การปล่อยกู้ให้กับประชาชนรายย่อยมากขึ้น
เปิด 3 เหตุผลหนุน ดร.รุ่ง นั่งผู้ว่าฯ ธปท.คนใหม่
อย่างไรก็ตามเมื่อทั้งสองรายชื่อถึงมือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชื่อที่มีภาษี และมีโอกาสจะได้เป็นผู้ว่าฯ ธปท.คนใหม่ ณ นาทีนี้คือชื่อของ “ดร.รุ่ง” โดยมีเหตุผลสนับสนุน 3 ข้อหลักดังนี้
1.การนำเสนอนโยบายที่ ธปท.ต้องมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรม โดย ดร.รุ่งได้นำเสนอกับคณะกรรมการคัดเลือกว่าปัญหาที่ผ่านมาการส่งผ่านนโยบายการเงินจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ไปยังสถาบันการเงินยังไม่เห็นผลมากนัก แม้จะมีการลดดอกเบี้ยลงมาหลายครั้ง แต่สถาบันการเงิน โดยเฉพาะแบงก์พาณิชย์นั้นตอบสนองช้า หรือลดดอกเบี้ยน้อยกว่าที่ควรจะเป็น จนทำให้เกิดช่องว่างระหว่างดอกเบี้ยเงินกู้ และเงินฝากมาก ซึ่งปัญหานี้แบงก์ชาติต้องลงไปแก้ปัญหาโดยเน้นในส่วนของการกำกับสถาบันการเงินมากขึ้น ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาในส่วนนี้ได้
นอกจากนี้ ดร.รุ่งยังเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าถึงเวลาที่การทำงานของ ธปท.จะต้องกลับมาที่ค่านิยมของแบงก์ชาติคือ "ยืนตรง มองไกล ยื่นมือ ติดดิน" คือค่านิยมทั้งสี่ที่คน ธปท.ยึดมั่น โดยในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้แบงก์ชาติต้องทำหน้าที่ในการ “ยื่นมือ” ลงมาช่วยแก้ปัญหาของประเทศมากขึ้น
2.แรงสนับสนุนจากทางการเมือง ในช่วงก่อนที่จะมีการสอบสัมภาษณ์ มีรายงานข่าวระบุว่า ดร.รุ่งได้พบกับบุคคลสำคัญในฟากฝั่งของรัฐบาล เพื่อชี้แจงแนวคิด นโยบายการทำงานหากได้เป็นผู้ว่าการแบงก์ชาติคนใหม่ว่ามีนโยบายที่สามารถปรับจูนเข้ากันกับรัฐบาลได้อย่างไรบ้าง และจะประสานการทำงานกันได้อย่างไรบ้างในสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งในส่วนนี้ทำให้ “กำแพง” ที่ฝ่ายการเมืองมองผู้สมัครผู้ว่าการแบงก์ชาติที่เป็น “คนใน” นั้นหายไป
ประกอบกับทางฝ่ายการเมืองนั้นก็เข้าใจว่า ดร.รุ่งนั้นมีประสบการณ์ในการทำงานกับธนาคารเอกชน คือ เคยนั่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Global Business and Strategy ธนาคารกรุงไทยในช่วงปี 2560-2562 มาก่อนจึงมีความเข้าใจ และยืดหยุ่นในการทำงานได้เป็นอย่างดี
ส่วนในเรื่องนโยบายอื่นๆ ที่ ดร.รุ่งเคยสนับสนุนล้วนแต่ไปในทิศทางเดียวกับรัฐบาล เช่น การจัดตั้งธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank) รวมถึงการยกระดับกลไกการค้ำประกันเครดิต (NaCGA) ให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานของไทย อีกทั้งมีส่วนร่วมผลักดัน “แนวทางการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ฝ่ายการเมืองพรรคเพื่อไทยเองก็ระมัดระวังเช่นกัน หากเลือกผู้สมัครที่มาจากฝ่ายการเมืองชัดเจนเกินไปเช่นมีนามสกุลเดียวกับรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย หรือเลือกคนที่มีข่าวว่าการเมืองทาบทามมาตั้งแต่ต้น ก็จะทำให้เกิดแรงต่อต้านทั้งจากคนใน ธปท.และแรงต้านจากสังคมได้
และ 3.การที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลก (World Bank) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในช่วงเดือนตุลาคม 2569 ณ กรุงเทพมหานคร ซึ่งถือว่าเป็นการประชุมใหญ่ของแวดวงเงินของโลก การที่ประเทศไทยมี “ผู้ว่าธนาคารกลาง” ที่เป็นคนที่อยู่ในแบงก์ชาติมายาวนานนั้นจะช่วยเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทย
นอกจากนั้น ในเรื่องของการศึกษา ดร.รุ่งยังจบจากสถาบันชั้นนำของโลก โดยในระดับปริญญาตรีจบด้านเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา และระดับปริญญาเอก จบด้านเศรษฐศาสตร์ จากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) ซึ่งได้รับการยอมรับสูง จึงเป็นอีกเหตุผลที่ รมว.คลังจะตัดสินใจเลือกให้ ดร.รุ่งเป็นผู้ว่าฯ ธปท.คนใหม่
ประวัติว่าที่ผู้ว่าการแบงก์ชาติคนใหม่
สำหรับประวัติของ ดร.รุ่ง ปัจจุบันอายุ 57 ปี ประวัติการศึกษา ปริญญาเอก เศรษฐศาสตร์ Massachusetts Institute of Technology (MIT) ปริญญาตรี เศรษฐศาสตร์ Harvard University
ประวัติการทำงาน ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย
ทำงานที่ ธปท. มานานกว่า 20 ปี เคยเป็นกรรมการในคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) รองผู้ว่าการ ด้านบริหาร ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงิน และผู้ช่วยผู้ว่าการ สายเสถียรภาพการเงินและยุทธศาสตร์องค์กร ซึ่งมีส่วนร่วมสำคัญในการวางกลยุทธ์ของ ธปท. ผ่านมาตรการตลาดการเงินและการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจการเงินทั้งในภาวะปกติและภาวะวิกฤติ
เคยนั่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Global Business and Strategy ธนาคารกรุงไทยในช่วงปี 2560-2562
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







