สศค. มองครึ่งปีหลังเศรษฐกิจรับปัจจัยหนุน เม็ดเงินลงระบบ ส่งออกเร่งตัว

สศค. ระบุครึ่งหลังของปีเศรษฐกิจรับปัจจัยหนุน เม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.1 แสนล้าน เพิ่มจ้างงานหนุนภาคผลิต ชี้แบงก์ชาติเพิ่มประมาณการจีดีพีให้น้ำหนักส่งออกเร่งตัว ก่อนครบกำหนดมาตรการภาษีสหรัฐ 90 วัน
นายพรชัย ฐีรเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สศค. คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 จะได้รับแรงหนุนสำคัญจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินกว่า 115,000 ล้านบาท ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ให้ความเห็นชอบเมื่อวานนี้ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลต่อเศรษฐกิจประมาณ 0.4% โดยจะสร้างการจ้างงานได้กว่า 7 ล้านคน และก่อให้เกิดเม็ดเงินในรูปรายได้จากการจ้างงานกว่า 34,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในปัจจัยการผลิตและปัจจัยการก่อสร้างต่างๆ ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนการหมุนเวียนในห่วงโซ่อุปทาน (supply chain) ทั้งระบบ
"อย่างไรก็ตาม สศค. อยู่ระหว่างการพิจารณาและอาจมีการปรับประมาณการเศรษฐกิจในรอบถัดไป โดยจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 ก.ค.2568"
ทั้งนี้ ปัจจัยบวกสำคัญที่สนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ได้แก่ 1.การส่งออก การส่งออกในเดือนพ.ค. ขยายตัวสูงถึง 18.4% 2.ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (เบื้องต้น) เพิ่มขึ้น 1.9%
3.รถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ การจดทะเบียนรถยนต์นั่งใหม่เพิ่มขึ้น 8.7% และ 4.ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) แม้ตัวเลข VAT ยังไม่ออกมา แต่คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้น
สำหรับข้อสังเกตว่าการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจในปีนี้จาก 2.0% เป็น 2.3% นั้น น่าจะมาจากปัจจัยการส่งออกเป็นหลัก เนื่องจากมีการเร่งส่งออกเป็นเดือนสุดท้ายก่อนครบระยะเวลา 90 วัน หรือประมาณวันที่ 7 ก.ค.นี้






