BCPG ผนึก NT ปั้น Data Center ยกระดับดิจิทัลไทยอย่างยั่งยืน

BCPG ผนึก NT ปั้น Data Center ยกระดับดิจิทัลไทยอย่างยั่งยืน

BCPG ร่วมกับ NT ผนึกกำลังสร้าง Data Center แห่งอนาคต หวังยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลไทยสู่ความยั่งยืน ดันเป้าหมาย Net Zero

บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้าด้านพลังงานหมุนเวียนของประเทศไทย ประกาศความร่วมมือกับบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ในการเป็นพันธมิตรเพื่อลงทุนและพัฒนา Sustainable Data Center รองรับความต้องการใช้งานด้านคลาวด์ภาครัฐและเอกชน รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในอนาคต

ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นการผสานจุดแข็งของทั้งสององค์กรอย่างลงตัว โดย NT มีความพร้อมด้านโครงข่ายโทรคมนาคมระดับประเทศ ศูนย์ข้อมูลพื้นฐาน และความเชี่ยวชาญในฐานะผู้ให้บริการดิจิทัลภาครัฐ ส่วนบีซีพีจีพีจีมีความเชี่ยวชาญในการผลิตพลังงานสะอาดจากหลากหลายเทคโนโลยี ทั้งพลังงานแสงอาทิตย์ พลังน้ำ และพลังงานลมครอบคลุมทั้งในประเทศและระดับภูมิภาค และเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการลงทุนในนวัตกรรมพลังงานสีเขียวเพื่อสร้างโลกให้ยั่งยืนเสมอมา

นายรวี บุญสินสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มุ่งมันสร้างนวัตกรรมพลังงานสะอาดมาโดยตลอด ทั้งนวัตกรรมการผลิตไฟฟ้า โครงสร้างพื้นฐานและโชลูชัน

สำหรับพลังงานอัจฉริยะ ความร่วมมือกับ NT ในครั้งนี้ถือเป็น New s-Cunve ของบริษัทฯ ในการเข้าสู่ธุรกิจการให้บริการ Sustainable Data Center ซึ่งมุ่งมุ่งเน้นการให้บริการคลาวด์แก่ภาครัฐ (Government Cloud) ที่มีศักยภาพ

ในการเติบโตสูง และมีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ ซึ่งทางบีชีพีจีเองมีความพร้อมในการต่อยอดพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าของเราเพื่อรองรับการเติบโตของ Data Center ในอนาคต

พันเอก สรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ NT เปิดเผยว่า ในฐานะผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของชาติ NT เชื่อว่า Sustainable Data Center คือก้าวสำคัญในการต่อยออดการให้บริการด้านโทรคมนาคมและดิจิทัล สู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลที่ยังยืน เรามีความพร้อมทั้งโครงข่ายอินเทอร์เน็ตทั่วประเทศ ศูนย์ข้อมูลระบบเกตเวย์ และโครงข่ายเคเบิลใต้น้ำ ซึ่งสามารถต่อยอดสู่บริการด้าน AI และ ESG Solutions ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้เต็มรูปแบบ การมีศูนย์ข้อมูลที่ใช้พลังงานสะอาดไม่ใช่เป็นแค่ทางเลือก แต่เป็นความจำเป็นในการรองรับข้อมูลภาครัฐและองค์กรที่ต้องการเดินหน้าสู่ Net Zero

นอกจากนี้ ความร่วมมือดังกล่าว จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อภาครัฐและประเทศด้านความมันคงปลอดภัยของข้อมูลในการจัดเก็บข้อมูลสำคัญของรัฐภายในประเทศนนระบบที่ได้มาตรฐานระดับสากล ทั้งยังสอดรับนโยบาย ESG ภาครัฐสามารถใช้บริการที่สอดคล้องกับเป้าหมาย Net Zero ช่วยเพิ่มขีดความสามารถของชาติ และ Digital Economy อย่างเป็นรูปธรรม