ยอดผลิตรถเดือนพ.ค. 68 พลิกบวกครั้งแรกรอบ 21 เดือน ที่ 1.39 แสนคัน

ยอดผลิตรถเดือนพ.ค. 68 พลิกบวกครั้งแรกรอบ 21 เดือน ที่ 1.39 แสนคัน

ส.อ.ท. ยอดผลิตรถเดือนพ.ค. 2568 รวม 139,186 คัน ผลิตเพิ่มขึ้นเป็นเดือนแรกในรอบ 21 เดือน ที่ 10.32% ยอดขายเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ยอดส่งออกลดลง ส่วนยอดผลิต EV และยอดขายเช่นกัน 

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนพ.ค. 2568 แบ่งเป็น

การผลิต โดยจำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนพ.ค. 2568 รวม 139,186 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 33.51% และเพิ่มขึ้นจากเดือนพ.ค. 2567 ที่ 10.32% เพิ่มขึ้นเป็นเดือนแรกในรอบ 21 เดือน จากการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า BEV และ PHEV เพิ่มขึ้น 641.16% และ 130.49% ตามลำดับ ส่งผลให้การผลิตรถยนต์นั่งเพื่อขายในประเทศเพิ่มขึ้น 63.88% รวมทั้งผลิตรถ PPV เพื่อขายในประเทศเพิ่มขึ้น 138.65% 

จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนม.ค. - พ.ค. 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 594,492 คัน ลดลงจากเดือนม.ค. - พ.ค. 2567 ที่ 7.82 ผลิตเพื่อส่งออก เดือนพ.ค. 2568 ผลิตได้ 87,297 คัน เท่ากับ 62.72% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนพ.ค. 2567 ที่ 1.70 ส่วนเดือนม.ค. - พ.ค. 2568 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 390,095 คัน เท่ากับ 65.62% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากปี 2567 ระยะเวลาเดียวกัน 10.20%

ยอดขาย โดยรถยนต์ภายในประเทศของเดือนพฤษภาคม 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 52,229 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2568 ร้อยละ 10.67 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2567 ร้อยละ 4.73 เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ต่อจากเดือนเมษายน 2568 จากการขายรถยนต์ไฟฟ้า BEV  PHEV และรถยนต์นั่งเครื่องยนต์สันดาปภายในเพิ่มขึ้น 118.64% 234.68% และ 3.19% ตามลำดับจากราคาที่จับต้องได้มากขึ้น แต่ยอดขายรถกระบะยังคงลดลง 24.84% จากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงินเพราะหนี้ครัวเรือนสูงและเศรษฐกิจในประเทศที่ยังอ่อนแอจากการลงทุนภาคเอกชนที่ยังต่ำรวมทั้งค่าครองชีพที่สูงขึ้น 

อีกทั้งการท่องเที่ยวที่ชะลอตัวลงจากนักท่องเที่ยวจีนที่กังวลเรื่องความปลอดภัย กังวลเรื่องงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ที่จะไม่ได้ใช้ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้จากปัญหาการเมืองที่ขัดแย้งกันซึ่งจะซ้ำเติมเศรษฐกิจของประเทศที่ทรุดอยู่แล้วทรุดลงมากขึ้นไปอีก ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนม.ค. - พ.ค. 2568 รถยนต์มียอดขาย 252,615 คัน ลดลงจากปี 2567 ในระยะเวลาเดียวกัน 2.98%

การส่งออก แบ่งเป็น รถยนต์สำเร็จรูป เดือนพ.ค. 2568 ส่งออกได้ 81,071 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้ว 23.34% แต่ลดลงจากเดือนพ.ค. 2567 ที่ 9.20% ลดลงจากการหยุดผลิตรถยนต์นั่งบางรุ่นที่เลิกส่งออกไปสหรัฐฯ และยุโรปจากการเข้มงวดเรื่องอุปกรณ์ช่วยเหลือในการขับ จึงไม่มีรถยนต์นั่งส่งออกไปในตลาดยุโรป แต่ส่งออกรถกระบะเพิ่มขึ้นตามจำนวนการผลิตรถกระบะส่งออกมากขึ้นในเดือนพ.ค. และส่งออกเพิ่มขึ้นในตลาดออสเตรเลีย ตะวันออกกลางด้วย 

นอกจากนี้ รถยนต์ HEV ยังส่งออกเพิ่มขึ้น 17.48% การส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนยังคงมีความไม่แน่นอนทั้งภาษีนำเข้าของอเมริกา ความขัดแย้งในภูมิภาคต่างๆ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจและการค้าโลกชะลอตัวลง

ทั้งนี้ มูลค่าการส่งออกรถยนต์ที่ 55,163.36 ล้านบาท ลดลงจากเดือนพ.ค. 2567 ที่ 12.54%

ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนพ.ค. 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 13,935 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพ.ค.ปีที่แล้ว 70.65% โดยแบ่งเป็น รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 12,054 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพ.ค. 2567 ที่ 120.97%

ส่วนเดือนม.ค. - พ.ค. 2568 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 53,955 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนม.ค. - พ.ค. ปีที่แล้ว 22.85% โดยรถ EV จดทะเบียนสะสมประเภท BEV ณ วันที่ 31 พ.ค. 2568 รวมทั้งสิ้น 280,600 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 60.05%