กรมประมง เผย ยอดรับซื้อปลาหมอคางดำ 1 เดือน ทะลุ 2.2 ล้านกิโลกรัม

กรมประมง ซื้อจริง จับจริง นำไปใช้ประโยชน์จริง ใช้งบกลาง รับซื้อปลาหมอคางดำ 1 เดือน 2,298,422 กิโลกรัม ย้ำความเชื่อมั่น การแก้ไขปัญหาดอย่างต่อเนื่องทุกมิติ
นายสุวัฐน์ วงศ์สุวัฒน์ รองอธิบดีกรมประมง ในฐานะโฆษกกรมประมง เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอัครา พรหมเผ่า ผลักดันให้รัฐบาลจัดงบประมาณ งบกลางเร่งด่วน เพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ สำนักงบประมาณได้พิจารณาจัดสรรงบประมาณ จำนวน 97,817,400 บาท ให้แก่กรมประมง เพื่อให้เร่งแก้ไขปัญหา ภายใต้ 2 มาตรการหลัก ดังนี้
มาตรการที่ 1 การควบคุมและกำจัดปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำทุกแห่งที่พบการแพร่ระบาด จำนวน 92,004,056 บาท และมาตรการที่ 3 การนำปลาหมอคางดำที่กำจัดออกจากระบบนิเวศไปใช้ประโยชน์ จำนวน 5,813,344 บาท โดยกรมประมงได้ดำเนินการรับซื้อปลาหมอคางดำตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2568 ผ่านจุดรับซื้อในพื้นที่ 14 จังหวัด ได้แก่
จันทบุรี ระยอง กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ราชบุรี นครปฐม เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานีนครศรีธรรมราช และสงขลา แบ่งเป็น ราคารับซื้อปลาหมอคางดำ 15 บาท/กิโลกรัม (จ่ายให้กับชาวประมงหรือผู้จับปลามาขาย) และราคาค่าขนส่งและค่าบริหารจัดการรวบรวม 5 บาท/กิโลกรัม (จ่ายให้กับผู้รวบรวมหรือแพปลาที่เข้าร่วมโครงการฯ)
ปัจจุบันกรมประมงได้รับซื้อปลาหมอคางดำจากบ่อเพาะเลี้ยงของเกษตรกรและจากธรรมชาติ และได้จัดส่งให้กรมพัฒนาที่ดินและการยางแห่งประเทศไทยนำไปผลิตเป็นปุ๋ยหมักชีวภาพ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อในภาคเกษตร รวมแล้วกว่า 2,298,422 กิโลกรัม จากเป้าหมาย 3,000,000 กิโลกรัม (ข้อมูล ณ วันที่ 20 มิถุนายน 2568) และนอกจากการรับซื้อปลาหมอคางดำเพื่อนำไปผลิตเป็นปุ๋ยหมักชีวภาพแล้ว กรมประมงได้ดำเนินการสนับสนุนปัจจัยในการกำจัดปลาหมอคางดำออกจากบ่อเพาะเลี้ยง อาทิ กากชา ปลาผู้ล่า และเครื่องมือประมงต่าง ๆ ที่ใช้ในการกำจัดปลาหมอคางดำ เพื่อช่วยเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงเตรียมบ่อ ภายหลังจากนำปลาจากบ่อมาขาย รวมถึงยังได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องเพื่อทำความเข้าใจและแนะนำวิธีการเตรียมบ่อเพื่อเพาะเลี้ยง ตลอดจนการให้ข้อมูลและนวัตกรรมต่าง ๆ ในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทางเลือก
รวมถึงรณรงค์ให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ด้วยการเปิดจุดรับซื้อปลาหมอคางดำแล้ว กรมประมง โดยสำนักงานประมงจังหวัดที่พบการแพร่ระบาดยังได้ร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนในพื้นที่ทำกิจกรรมลงแขกลงคลองอย่างต่อเนื่อง และสนับสนุนปัจจัย อาทิ เครื่องมือการทำประมงให้ชุมชน เพื่อเป็นอุปกรณ์ในการจับปลาหมอคางดำออกจากแหล่งน้ำธรรมชาติต่อไป







