พาณิชย์ เดินหน้า ล้างบางธุรกิจนอมินีจำนวน 46,918 ราย ขีดเส้นต้องเสร็จใน 1 ปี

“พิชัย”ประชุมกก.แก้ไขปัญหาสินค้าด้อยคุณภาพ-นอมินี สั่งเดินหน้าจับกุมสินค้าผิดกฎหมาย กว่า 57,739 คดี-ปราบธุรกิจนอมินี ลุยตรวจนิติบุคคลกลุ่มเสี่ยง 46,918 ราย เริ่ม 4 จังหวัดเป้าหมาย “ชลบุรี-กรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี-ภูเก็ต” ขีดเส้นต้องจบใน 1 ปี
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ว่า ได้ติดตามความคืบหน้าการดำเนินการตามข้อสั่งการท่านนายกรัฐมนตรี พร้อมรับฟังปัญหาและอุปสรรคจากหน่วยงานต่างๆ
โดยการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับสินค้าผิดกฎหมายตั้งแต่เดือนก.ย. 2567 ถึงพ.ค. 2568 มีจำนวย57,739 คดี รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 2,287 ล้านบาท สามารถจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท ได้ถึง 1,875 ล้านบาท และดำเนินการ Notice and Takedown เพื่อลบสินค้าผิดกฎหมายออกจากแพลตฟอร์มออนไลน์มากกว่า 14,976 รายการ พร้อมปราบปรามธุรกิจนอมินีแล้ว 861 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 15,296 ล้านบาท
นายพิชัย กล่าวว่า นอกจากนี้ในการป้องกันการแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้าและการบิดเบือนข้อมูลการนำเข้า ได้สั่งการให้กรมการค้าต่างประเทศร่วมมือกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม ร่วมพัฒนาระบบตรวจสอบและเชื่อมโยงข้อมูลสินค้านำเข้า โดยสำนักงาน ปปง. อยู่ระหว่างเสนอร่างแก้ไขกฎหมายฟอกเงิน เพื่อให้การประกอบธุรกิจโดยฝ่าฝืนกฎหมายเป็นความผิดมูลฐาน ได้หารือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางปรับปรุงกฎหมายของแต่ละหน่วยงาน และกรมศุลกากรอยู่ระหว่างพิจารณาปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ Transshipment เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบ
นายพิชัย กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ยังร่วมกับกระทรวงมหาดไทยลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับการถือครองที่ดินของคนต่างด้าว และจัดตั้งคณะทำงานระดับจังหวัด โดยกระทรวงมหาดไทยมีหนังสือแจ้งสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศตั้งคณะทำงานเพื่อปฏิบัติการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจที่ฝ่าฝืนกฎหมาย(นอมินี) ภายในวันที่ 18 มิ.ย. 2568 เพื่อตรวจสอบสืบสวน สอบสวน จับกุมและดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด
"จากการตรวจสอบเบื้องต้นมีนิติบุคคลกลุ่มเสี่ยงที่อาจมีลักษณะนอมินี จำนวน 46,918 ราย ที่มีคนต่างด้าวถือหุ้นตั้งแต่ 0.001-49.99% จึงสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ ให้แล้วเสร็จตั้งแต่ 1 เดือน ไปจนถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับจำนวนนิติบุคคลที่มีอยู่ในแต่ละจังหวัด โดยในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมร่วมกับรองผู้ว่าฯในการมอบหมายตรวจสอบเรื่องนอมินี พร้อมกับพาณิชย์จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน” นายพิชัย กล่าว
ด้านนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การตรวจสอบธุรกิจนอมินี กระทรวงฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบบริษัทที่มีชาวต่างชาติเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 0.0001–49.99% ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 46,918 ราย โดยมีการตั้งคณะทำงานระดับจังหวัด นำโดยรองผู้ว่าราชการจังหวัด และประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด สรรพากรพื้นที่ จัดหางานจังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด โดยมีพาณิชย์จังหวัดทำหน้าที่เลขานุการ
พร้อมกำหนดไทม์ไลน์อย่างชัดเจน คาดว่าจะตรวจสอบแล้วเสร็จทั้งหมดภายใน 1 ปี โดยในช่วง 6 เดือนแรกจะสามารถดำเนินการครอบคลุมได้ถึง 69 จังหวัด ส่วนอีก 7 จังหวัดที่มีจำนวนบริษัทมาก จะมีทีมจากส่วนกลางลงไปสนับสนุนเป็นพิเศษ
ในส่วนของการป้องกันไม่ให้มีบริษัทนอมินีรายใหม่เข้ามาจดทะเบียนในประเทศไทยอีก รัฐบาลมีแผนปรับปรุงกฎหมาย โดยเสนอให้เพิ่มความผิดฐาน “นอมินี” เข้าไปเป็นหนึ่งในความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ซึ่งจะเปิดทางให้สามารถยึดหรือริบทรัพย์สินของบริษัทที่กระทำผิดได้
ขณะนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวได้ผ่านการรับฟังความคิดเห็นเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ก่อนเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งตนเองและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จะเร่งผลักดันให้ ครม. มีมติส่งต่อร่างกฎหมายเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้สามารถพิจารณาได้ทั้ง 3 วาระรวด
โดยจะใช้กลไกของกรรมาธิการและการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อผลักดันให้กฎหมายฉบับนี้ออกโดยเร็ว คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี และเมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้ จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดบริษัทนอมินีรายใหม่ในประเทศไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ