ขุมทรัพย์ฮาลาล 2.1 ล้านล้านดอลลาร์ โอกาสทองผู้ประกอบการไทยบุกตลาดโลก

ขุมทรัพย์ฮาลาล 2.1 ล้านล้านดอลลาร์ โอกาสทองผู้ประกอบการไทยบุกตลาดโลก

‘ตลาดสินค้าฮาลาล’ เป็นหนึ่งในเมกะเทรนด์ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในหลายประเทศทั่วโลก ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในประเทศมุสลิมเท่านั้น โดยเฉพาะยิ่งในกลุ่มผู้บริโภคที่มองหาสินค้าและบริการที่มีคุณภาพและมาตรฐานสูง

ทั้งนี้ สินค้าฮาลาล คือ สินค้าที่มีการผลิตที่ไม่ขัดต่อบทบัญญัติของศาสนาอิสลาม ซึ่งไม่ใช่แค่อาหารและเครื่องดื่ม แต่ยังรวมไปถึงเครื่องสำอาง, ยา, เสื้อผ้า, บริการทางการเงิน, การท่องเที่ยว ฯลฯ ซึ่งประเทศที่เป็นผู้ผลิตและส่งออกหลักของโลก ได้แก่ จีน, อินเดีย, บราซิล, ตุรกี และสวิตเซอร์แลนด์

โดยประเทศไทยตั้งเป้าที่จะก้าวขึ้นเป็น ‘ฮับฮาลาลของภูมิภาค’ และติด 1 ใน 10 ผู้ส่งออกอาหารฮาลาลโลกภายในปี 2570 และเพื่อไปสู่เป้าหมายดังกล่าว รัฐบาลจึงได้จัดตั้ง ‘ศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทย’ ขึ้นมาเพื่อให้บริการผู้ประกอบการไทยอย่างครบวงจร

ภาสกร ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ให้สัมภาษณ์กับรายการ Deep talk ของกรุงเทพธุรกิจว่า ในปีที่ผ่านมาตลาดสินค้าฮาลาลโลกมีมูลค่ารวมกว่า 2.1 ล้านล้านดอลลาร์ ถือเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพและมีโอกาสรออยู่อีกมาก ด้วยจำนวนประชากรมุสลิมทั่วโลกที่มีอยู่ราว 2,000 ล้านคน หรือคิดเป็นประมาณ 25% ของประชากรทั้งโลก

และคาดการณ์ว่าจะเพิ่มเป็น 30% หรือราว 2,800 ล้านคน ภายในปี 2570 ซึ่งคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยที่ 1.2% ต่อปี สูงกว่าประชากรโลกที่เติบโตเฉลี่ย 0.3% ต่อปี

โดยปัจจุบันตลาดฮาลาลไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในประเทศมุสลิมเท่านั้น แต่ยังขยายตัวอย่างรวดเร็วในกลุ่มประเทศที่ไม่ใช่มุสลิม โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลัก ทั้งจีน, อินเดีย, สหรัฐ และยุโรป นับเป็นโอกาสใหม่ที่ยังเติบโตได้อีกมาก

ขุมทรัพย์ฮาลาล 2.1 ล้านล้านดอลลาร์ โอกาสทองผู้ประกอบการไทยบุกตลาดโลก ภาสกร ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ให้สัมภาษณ์กับรายการ Deep talk ของกรุงเทพธุรกิจ

สำหรับประเทศไทยมีส่วนแบ่งในตลาดฮาลาลโลกประมาณ 2.6% ซึ่งถือว่ายังน้อยมาก โดยสินค้าส่งออกหลัก คือ อาหารฮาลาล ซึ่งในปี 2567 ไทยส่งออกอาหารฮาลาลคิดเป็นมูลค่ารวม 6,783 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 5.9% จากปีก่อน ขณะที่รัฐบาลมีเป้าหมายผลักดันให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็น 1 ใน 10 ผู้ส่งออกสินค้าฮาลาลชั้นนำของโลกภายในปี 2570

ปัจจุบันตลาดส่งออกหลักของไทย ได้แก่ มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, บรูไน, ซาอุดีอาระเบีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และจีน ส่วนตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูงและจะเร่งทำตลาดต่อไป ได้แก่ โมร็อกโก, คาซัคสถาน, ตุรกี และโอมาน

ทั้งนี้ มองว่าประเทศไทยมีจุดแข็งที่โดดเด่นในการช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดฮาลาลโลก ทั้งความอุดมสมบูรณ์ของสินค้าเกษตร ซึ่งสามารถนำมาแปรรูปและเพิ่มมูลค่าเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดโลกได้เป็นอย่างดี รวมทั้งประเทศไทยมีชื่อเสียงด้านอาหาร เราได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘ครัวของโลก’ และได้รับการยอมรับในฐานะผู้ผลิตอาหารพร้อมรับประทาน (Ready to Eat) และอาหารกระป๋องชั้นนำ

นอกจากสินค้ากลุ่มอาหาร ไทยยังมีความสามารถในการพัฒนาสินค้ากลุ่มแฟชั่นเครื่องแต่งกาย, เครื่องสำอาง, ยาสมุนไพร รวมทั้งบริการฮาลาล ทั้งร้านอาหารและโรงแรม ทั้งนี้ อีกหนึ่งจุดเด่นของสินค้าและบริการฮาลาลไทย คือ การนำซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) ความเป็นไทยมาผสมผสานกับวัฒนธรรมมุสลิม ช่วยสร้างเอกลักษณ์และความแตกต่างได้เป็นอย่างดี

ขุมทรัพย์ฮาลาล 2.1 ล้านล้านดอลลาร์ โอกาสทองผู้ประกอบการไทยบุกตลาดโลก ภาสกร ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.)

อย่างไรก็ตาม สินค้าฮาลาลไทยยังมีข้อจำกัดที่จะต้องแก้ไข ทั้งปัญหาขาดแคลนแรงงานมุสสิม โดยเฉพาะในบางขั้นตอนการผลิตอาหาร เช่น การแล่เนื้อสัตว์ต้องใช้ชาวมุสลิมเท่านั้น

นอกจากนี้ การที่ไทยไม่ใช่ประเทศมุสลิม อาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือในด้านมาตรฐานฮาลาลเมื่อเทียบกับประเทศมุสลิม ที่สำคัญผู้ประกอบการไทยบางรายอาจยังไม่เข้าใจวัฒนธรรมและขั้นตอนที่ค่อนข้างซับซ้อนตามหลักศาสนาอิสลามอย่างถ่องแท้

ดังนั้น เพื่อเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมฮาลาลไทยและช่วยเหลือผู้ประกอบการในประเทศ รัฐบาลจึงได้จัดตั้ง ‘คณะกรรมการฮาลาลแห่งชาติ’ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อกำหนดนโยบายและมาตรฐานฮาลาลของประเทศ โดยมอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เป็นฝ่ายเลขานุการดำเนินการจัดตั้ง ‘ศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทย’ เพื่อเป็นหน่วยงานกลางที่รับผิดชอบเกี่ยวกับอุตสาหกรรมฮาลาลของประเทศอย่างครบวงจร โดยรวบรวมบริการจากหน่วยงานต่างๆ เข้ามาไว้ในที่เดียว

ทั้งช่วยพัฒนาผู้ประกอบการให้สามารถปฏิบัติตามมาตรฐานฮาลาลได้อย่างถูกต้อง ให้คำปรึกษาแนะนำเกี่ยวกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิตให้ได้มาตรฐาน ช่วยหาช่องทางการตลาดใหม่ๆ ในต่างประเทศ และเป็นคนกลางคอยประสานงานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยและสถาบันฮาลาลในต่างประเทศ

โดยขณะนี้ ‘ศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทย’ ยังไม่ได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ แต่เบื้องต้นผู้ประกอบการที่สนใจสามารถติดต่อผ่านสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ได้ก่อน โดยศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทยพร้อมเปิดให้บริการได้อย่างเป็นทางการเต็มรูปแบบในเดือน ก.ย. 2568

ขุมทรัพย์ฮาลาล 2.1 ล้านล้านดอลลาร์ โอกาสทองผู้ประกอบการไทยบุกตลาดโลก งาน Mega Halal Bangkok 2025

ทั้งนี้ เตรียมพบกับบริการจากศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทยในรูปแบบหน่วยให้บริการเคลื่อนที่ (Mobile Unit) ได้ที่งาน Mega Halal Bangkok 2025 ระหว่างวันที่ 16-18 ก.ค. 2568 ที่ศูนย์การแสดงสินค้าไบเทค บางนา