‘รัฐบาล’ รับมือเศรษฐกิจขาลง เตรียมงบกระตุ้น – ซอฟต์โลนพยุงเศรษฐกิจ

‘รัฐบาล’ รับมือเศรษฐกิจขาลง  เตรียมงบกระตุ้น – ซอฟต์โลนพยุงเศรษฐกิจ

เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลัง 2568 ส่อชะลอตัว ธนาคารโลกหั่นจีดีพีไทยเหลือ 1.8% รัฐบาลเตรียมงบ 1.57 แสนล้านบาท เร่งอนุมัติโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 4 ด้าน พร้อมซอฟต์โลน

KEY

POINTS

  • เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลัง 2568 ส่อชะลอตัว ธนาคารโลกหั่นจีดีพีไทยเหลือ 1.8%
  • รัฐบาลเตรียมรับมือเตรียมงบ 1.57 แสนล้านบาท เร่งอนุมัติโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 4 ด้าน
  • เร่งใช้งบประมาณปี 2569 ที่จะผ่านสภาฯ เพื่อให้เม็ดเงินลงสู่เศรษฐกิจช่วงปลายปี 2568
  • พร้อมเดินหน้าซอฟต์โลนขั้นต่ำ 1 แสนล้านบาท หวังช่วยผู้ส่งออก-เอสเอ็มอี รับมือสงครามการค้าโลก

เศรษฐกิจไทยในครึ่งหลังของปี 2568 ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2569 ถือว่าอยู่ในสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง เพราะแม้ว่าเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีแรกจะขยายตัวได้ 3.1% จากการส่งออก และการลงทุนภาครัฐที่ขยายตัวได้ดี แต่ในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มที่เครื่องมือเศรษฐกิจจะชะลอตัวลง

ล่าสุดธนาคารโลก (World Bank) ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทาง เศรษฐกิจประเทศไทย สำหรับปี 2568 ลงเหลือ 1.8% จากที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 2.9% เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังปรับลดการคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 2569 เหลือ 1.7% ซึ่งสาเหตุหลักมาจากผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีศุลกากรของสหรัฐกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ทำให้เศรษฐกิจโลกจะขยายตัวได้ลดลง ทำให้ประเทศไทยต้องเร่งการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเตรียมมาตรการอื่นๆ ไว้รองรับ

ทั้งนี้การกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในช่วงครึ่งหลังปี 2568 รัฐบาลไทยได้เตรียมการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยใช้งบประมาณจากงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2568 ที่มีวงเงินเหลืออยู่ประมาณ 1.57 แสนล้านบาท รวมกับงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วงเงิน 3,780,600 ล้านบาท ที่จะผ่านการพิจารณาของสภาฯ และประกาศใช้ในเดือนต.ค.นี้ ซึ่งจะมีวงเงินบางส่วนของวงเงินงบประมาณปี 2569 ลงสู่ระบบเศรษฐกิจช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้

ในส่วนของวงเงิน 1.57 แสนล้านบาท รัฐบาลได้มีการตัดสินใจปรับเปลี่ยนงบประมาณที่จะใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต หรือการแจกเงิน 10,000 บาทในเฟสที่ 3 โดยเลื่อนโครงการนี้ออกไปเพื่อทำโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจใน 4 ประเภท ได้แก่ การบริหารจัดการน้ำ คมนาคม พัฒนาท่องเที่ยว และยกระดับเศรษฐกิจชุมชน โดยอยู่ระหว่างพิจารณากลั่นกรองโครงการโดยละเอียดเพื่อเสนอที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ที่มีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมในวันที่ 18 มิ.ย.ที่จะถึงนี้

นอกจากนี้กระทรวงการคลังได้ประสานกับธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ และธนาคารแห่งประเทศไทยในการเตรียมสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำพิเศษ (ซอฟต์โลน) เพื่อเติมสภาพคล่องช่วยเหลือผู้ประกอบการส่งออก และซัพพลายเชนที่เกี่ยวข้องซึ่งได้รับผลกระทบจากนโยบายภาษีตอบโต้ของทรัมป์ โดยจะมีการพิจารณาปรับเกณฑ์การขอสินเชื่อเพื่อให้ธนาคารลดความเข้มงวด และปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการได้มากขึ้น ทั้งนี้ จะมีการกำหนดกรอบวงเงินซอฟต์โลนเท่าไร ยังต้องรอประเมินผลกระทบภายหลังการเจรจาระหว่างไทย-สหรัฐ แต่เบื้องต้นนั้นธนาคารออมสินได้มีการเตรียมวงเงินสำหรับโครงการซอฟต์โลนวงเงินรวม 100,000 ล้านบาท โดยมีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายผู้

ประกอบการที่จะได้รับความช่วยเหลืออย่างชัดเจน 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1. ผู้ประกอบการธุรกิจส่งออกสินค้าไปยังตลาดประเทศสหรัฐอเมริกา 2. ผู้ประกอบการในธุรกิจ Supply Chain ที่เกี่ยวข้องกับภาคการส่งออก ผู้ประกอบการที่เป็นผู้ผลิตสินค้าที่มีการแข่งขันสูงกับสินค้านำเข้าราคาถูกจากต่างประเทศ รวมทั้งจะครอบคลุมผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในภาพรวมด้วย

ด้าน นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การประเมินเศรษฐกิจของธนาคารโลกเป็นเรื่องปกติของหน่วยงานที่ทำการประเมินจากข้อมูลที่ดีที่สุดในขณะนั้น และข้อมูลดังกล่าวอาจยังไม่นิ่ง เนื่องจากประเทศไทยกำลังเข้าสู่กระบวนการเจรจากับสหรัฐอเมริกา ซึ่งคาดว่าผลการเจรจาน่าจะมีแนวโน้มที่ดี และเป็นข้อมูลที่มีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย

นอกจากนี้ รัฐบาลยังคงมีมาตรการต่างๆ เพื่อประคองสถานการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการขับเคลื่อน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับเศรษฐกิจของประเทศ

สำหรับความคืบหน้าเรื่องของมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจนายเผ่าภูมิ กล่าวว่า คณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งมี นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณากลั่นกรองโครงการที่หน่วยงานราชการต่างๆ ได้เสนอเข้ามา

โดยคณะอนุกรรมการได้พิจารณากลั่นกรองโครงการที่ส่วนราชการเสนอมาโดยยึดหลักเกณฑ์ที่ ครม. กำหนดไว้ ได้แก่ 

1.การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ด้านน้ำ และคมนาคม 

2.การลงทุนด้านการท่องเที่ยว

3.การลดผลกระทบภาคการส่งออก หรือการเพิ่มผลิตภาพเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน 

4.การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์