ราคาน้ำมันดิบลดลง นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าจีน-สหรัฐ

ราคาน้ำมันดิบลดลง นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าจีน-สหรัฐ

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงในวันอังคาร ขณะนักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซัพพลายน้ำมัน เจรจานิวเคลียร์อิหร่าน สหภาพยุโรปคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานภาวะตลาดน้ำมันดิบวันอังคาร (10 มิ.ย.) หรือเมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทยว่า ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงในวันอังคาร ขณะที่นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน อุปทานนำ้มัน เจรจานิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐและอิหร่าน และยุโรปคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ล่วงหน้าลดลง 17 เซ็นต์ หรือ 0.25% ปิดที่ 66.87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียต(WTI) ลดลง 31 เซ็นต์ หรือ 0.47% ปิดที่ 64.98 ดอลลาร์

นายฮาวเวิร์ด ลัทนิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ กล่าวว่า การเจรจาการค้ากับจีนดำเนินไปด้วยดี โดยทั้งสองฝ่ายพบกันเป็นวันที่สองในกรุงลอนดอน โดยหวังว่าจะบรรลุข้อตกลงควบคุมการส่งออก ซึ่งเป็นประเด็นร้อนที่อาจทำให้มหาอำนาจทั้งสองแตกแยกกันอีกครั้ง

แฮร์รี ทชิลกิเรียน หัวหน้ากลุ่มวิจัยของ Onyx Capital กล่าวว่า "การเจรจาการค้าครั้งนี้สร้างความหวัง ตลาดกำลังรอคอยที่จะดูว่าการเจรจาจะส่งผลอย่างไร ซึ่งจะช่วยหนุนราคาน้ำมัน" 

ในด้านอุปทาน การจัดสรรให้กับโรงกลั่นน้ำมันในจีนแสดงให้เห็นว่าบริษัทน้ำมันของรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย Saudi Aramco จะส่งน้ำมันประมาณ 47 ล้านบาร์เรลไปยังจีนในเดือนกรกฎาคม ซึ่งน้อยกว่าปริมาณที่จัดสรรไว้ในเดือนมิถุนายน 1 ล้านบาร์เรล สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน

ทชิลกิเรียน กล่าวว่าการจัดสรรให้กับซาอุดีอาระเบียอาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นว่าการยกเลิกการลดการผลิตของกลุ่มโอเปกพลัส (OPEC+) อาจไม่ส่งผลให้มีอุปทานเพิ่มขึ้นมากนัก

กลุ่ม OPEC+ ซึ่งผลิตน้ำมันประมาณครึ่งหนึ่งของโลกประกอบด้วยกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) และพันธมิตรอย่างรัสเซีย ได้เสนอแผนเพิ่มปริมาณการผลิต 411,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนกรกฎาคม เนื่องจากกำลังมองหาวิธีเพิ่มการผลิตเป็นเดือนที่สี่ติดต่อกัน

ผลสำรวจของรอยเตอร์พบว่าการเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันของโอเปกในเดือนพฤษภาคมมีจำกัด โดยอิรัก ซึ่งเป็นผู้ผลิตโอเปกรายใหญ่เป็นอันดับสองรองจากซาอุดีอาระเบีย เร่งผลิตน้ำมันต่ำกว่าเป้าหมายเพื่อชดเชยการผลิตที่มากเกินไปก่อนหน้านี้ ขณะที่ซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เพิ่มปริมาณการผลิตน้อยกว่าที่ตกลงกันไว้

เจรจานิวเคลียร์อิหร่านยังไม่คืบหน้า

อิหร่านกล่าวว่าในไม่ช้านี้ อิหร่านจะเสนอข้อเสนอร่างข้อตกลงนิวเคลียร์เพื่อตอบโต้ข้อเสนอของสหรัฐฯ ที่เตหะรานถือว่า "ไม่สามารถยอมรับได้" ในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ยอมรับว่า ทั้งสองฝ่ายยังคงมีความเห็นไม่ลงรอยกันว่าเตหะรานจะได้รับอนุญาตให้เสริมสมรรถนะยูเรเนียมบนแผ่นดินอิหร่านต่อไปหรือไม่

อิหร่านเป็นผู้ผลิตนำมันในกลุ่มโอเปกรายใหญ่เป็นอันดับสาม การผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรเตหะรานของสหรัฐฯ จะทำให้อิหร่านส่งออกน้ำมันได้มากขึ้น ซึ่งน่าจะทำให้ราคาน้ำมันดิบลดลง

ในยุโรป คณะกรรมาธิการยุโรปเสนอมาตรการคว่ำบาตรชุดที่ 18 ต่อรัสเซียกรณีรุกรานยูเครน โดยมุ่งเป้าไปที่รายได้จากพลังงาน ธนาคาร และอุตสาหกรรมการทหารของมอสโก

รัสเซียเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่เป็นอันดับสองของโลกในปี 2024 รองจากสหรัฐอเมริกา และการเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรใดๆ ก็ตามอาจจะทำให้ปริมาณน้ำมันดิบดังกล่าวไม่เข้าสู่ตลาดโลกมากขึ้น ซึ่งอาจช่วยหนุนราคาน้ำมันได้

กลุ่มการค้าของสถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริกา (API) และสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) มีกำหนดจะเปิดเผยข้อมูลสต็อกน้ำมันของสหรัฐฯ ในวันอังคารและวันพุธตามลำดับ

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าบริษัทพลังงานจะเพิ่มปริมาณน้ำมันในสต็อกของสหรัฐฯ ประมาณ 0.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 6 มิถุนายน

หากเป็นจริง ก็จะเป็นการเพิ่มปริมาณสำรองน้ำมันครั้งแรกในรอบสามสัปดาห์ เปรียบเทียบกับการเพิ่มขึ้น 3.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์เดียวกันของปีก่อน และเทียบกับการเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 2.8 ล้านบาร์เรลในช่วงห้าปีที่ผ่านมา (2020-2024)