คลัง ปลุกเชื่อมั่น ‘ตลาดหุ้น’ ดึงทุนนอกขอ BOI พร้อมจดทะเบียน ตลท.

คลัง ปลุกเชื่อมั่น ‘ตลาดหุ้น’ ดึงทุนนอกขอ BOI พร้อมจดทะเบียน ตลท.

“คลัง” ปลุกเชื่อมั่นเศรษฐกิจ ตลาดหุ้น ดึงบริษัทใหญ่ต่างประเทศขอบีโอไอลงทุนไทย พร้อมจดทะเบียนในตลาดหุ้นเพิ่ม แก้กฎหมายต่างชาติเช่าที่ดินระยะยาว

KEY

POINTS

  • “คลัง” ปลุกเชื่อมั่นเศรษฐกิจ ตลาดหุ้น ดึงบริษัทใหญ่ต่างประเทศขอบีโอไอลงทุนไทย พร้อมจดทะเบียนในตลาดหุ้นเพิ่ม
  • เร่งปรับปรุงกฎหมายต่างชาติเช่าที่ดินระยะยาว พร้อมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพิ่ม  
  • ประธานบอร์ด ตลท.เร่ง 4 แผน รื้อครั้งใหญ่แก้กฎหมาย ปลดล็อกดึงต่างชาติลงทุนไทย
  • ปลุกเชื่อมั่นตลาดทุน “เอ็มเอไอ” ชี้โอกาสซ่อนท่ามกลางตลาดผันผวน

กรุงเทพธุรกิจ ฐานเศรษฐกิจ และโพสต์ทูเดย์ จัดงานสัมมนา Thailand Investment Forum 2025: Great Depression พลิกเกมฝ่าวิกฤติ โดยมีผู้แทนภาครัฐ และภาคเอกชนนำเสนอทิศทางเศรษฐกิจ การลงทุน และการสร้างความเชื่อมั่นให้ตลาดทุน

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาหัวข้อ “มาตรการการคลังฟื้นเศรษฐกิจปลุกเชื่อมั่นตลาดทุน” ว่า เศรษฐกิจไทย 30-40 ปีที่ผ่านมา ขนาด GDP อยู่ที่ 10 ล้านล้านบาท แต่การลงทุนอยู่ที่ 40% ของ GDP ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวปีละ 6-10% ทำให้หมุนเวียนทางเศรษฐกิจสูง เกิดการจ้างงาน การบริโภคเติบโต และส่งผลต่อตลาดหุ้นเติบโต

ทั้งนี้ หลังวิกฤติต้มยำกุ้งปี 2540 เศรษฐกิจไทยไม่โตเหมือนเดิม ส่วนสำคัญมาจากการลงทุนลดลงเมื่อเทียบ GDP โดยเศรษฐกิจช่วงหลังโตเฉลี่ย 2% ขณะที่การลงทุนลดเหลือ 20% ของ GDP คิดเป็นเม็ดเงินลงทุนอยู่ที่ปีละ 3 ล้านล้านบาทเท่านั้น ทำให้ GDP มีข้อจำกัดในการขยายตัว ส่วนประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใกล้เคียงไทยอยู่ที่ 34% หรือ 6 ล้านล้านบาท เท่ากับการลงทุนไทยต่ำกว่าที่ควรจะเป็นมาก

คลัง ปลุกเชื่อมั่น ‘ตลาดหุ้น’ ดึงทุนนอกขอ BOI พร้อมจดทะเบียน ตลท.

“เป็นความท้าทายของรัฐบาลที่จะต้องสร้างความเชื่อมั่นเพื่อดึงการลงทุนกลับมาให้ได้เพื่อสร้างโอกาสที่เศรษฐกิจจะเติบโต ซึ่งการลงทุนถือเป็นหัวใจสำคัญที่สุดที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งการจ้างงาน การบริโภค ที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์เติบโตขึ้นได้” นายพิชัย กล่าว

สำหรับการขับเคลื่อนการลงทุนรัฐบาลได้วางแผนในการขับเคลื่อนหลายนโยบาย ดังนี้

1.การสร้างการลงทุนอุตสาหกรรมใหม่ โดยคำขอรับส่งเสริมการลงทุนกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ตั้งแต่ปี 2566 เพิ่มต่อเนื่องจาก 7 แสนล้านบาทในปี 2566 เป็น 1.2 ล้านล้านบาท ในปี 2567 ส่วนปี 2568 ช่วง 4 เดือนแรก รวม 4 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ คำขอส่งเสริมการลงทุนจำนวนไม่น้อยลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ เช่น ดาต้าเซนเตอร์ ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) รถยนต์ไฟฟ้า EV ไบโอเทคโนโลยี ซึ่งให้นักลงทุนรายใหญ่ต่างประเทศมาลงทุน และจดทะเบียนใน ตลท.

“บีโอไอจะมีหลักเกณฑ์การลงทุนใหม่ที่ระบุถึงการใช้วัตถุดิบในประเทศ และการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่จะสนับสนุนการลงทุนของต่างชาติมากขึ้น”

2.การสร้างความโปร่งใสในตลาดหุ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญเพื่อสร้างความมั่นใจให้นักลงทุน โดยออก พ.ร.ก.เพื่อเพิ่มอำนาจให้หน่วยงานกำกับดูแลเพื่อติดตามผู้กระทำผิดมาลงโทษ ซึ่งกฎหมายได้ให้อำนาจไว้ทั้งการติดตามผู้กระทำผิดมาลงโทษแม้ว่าจะอยู่ในต่างประเทศ

รวมทั้งที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยมีเหตุการณ์กระทบความเชื่อมั่น และความน่าเชื่อถืออย่างมีนัยสำคัญ เช่น บริษัทหลักทรัพย์ขายหลักทรัพย์โดยที่ยังไม่มีหลักทรัพย์นั้นอยู่ในครอบครอง (การขายชอร์ต) ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดเนื่องจากใช้วิธีการ การขายหุ้นออกไปโดยที่นักลงทุนรายนั้นไม่ได้ถือหุ้นอยู่จริง (naked short sale) ซึ่งมีส่วนทำให้ดัชนีหุ้นไทยลดลงจากระดับ 1,600 จุดมาอยู่ในระดับปัจจุบัน

3.การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่ต่อยอดจากข้อได้เปรียบภูมิศาสตร์ที่เชื่อมการขนส่งทางรางไปถึงจีน และเอเชียเหนือได้ รวมทั้งมีทางออกทะเลทั้ง 2 ฝั่ง โดยให้ความสำคัญกับการลงทุนโลจิสติกส์คมนาคม และให้เอกชนร่วมลงทุนกับภาครัฐเพราะรัฐบาลมีข้อจำกัดงบประมาณที่มีงบลงทุนปีละ 6-7 แสนล้านบาท 

ส่วนโครงสร้างพื้นฐานเรื่องน้ำที่เป็นการลงทุนที่รัฐบาลมีแผนอยู่ จะเป็นการลงทุนโดยรัฐบาล โดยแยกเป็นน้ำเพื่อการบริโภค น้ำเพื่อการเกษตร และน้ำเพื่ออุตสาหกรรมที่ต้องเตรียมความพร้อมให้พอรองรับการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)

สำหรับโครงสร้างพื้นฐานเรื่องไฟฟ้าต้องสนับสนุนให้เกิดการลงทุนสำหรับไฟฟ้าสีเขียว และอัตราค่าไฟฟ้าต้องเหมาะสม ไม่เกิน 3.5 บาทต่อหน่วย ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ต้องผลักดันให้เอกชนลงทุนเช่นกัน

4.การปรับปรุงกฎหมายที่ล้าสมัย และออกกฎหมายที่จำเป็นเพื่อสนับสนุนการลงทุน โดยกำลังแก้ปัญหาที่ดินนักลงทุนต่างชาติเพื่อเช่าใช้ที่ดินระยะยาวของต่างชาติ เพื่อให้ต่างชาติใช้ประโยชน์ที่ดินระยะยาว โดยกรรมสิทธิ์ยังเป็นของไทย

นายพิชัย กล่าวว่า ไทยต้องให้ความสำคัญกับการปรับโครงสร้างการผลิตภายในประเทศเพิ่มขึ้นเพราะอุตสาหกรรมในไทยส่วนใหญ่เป็นการลงทุนอุตสาหกรรมกลางน้ำ ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มแค่ 10-15% เท่านั้น 

คลัง ปลุกเชื่อมั่น ‘ตลาดหุ้น’ ดึงทุนนอกขอ BOI พร้อมจดทะเบียน ตลท.

เปิด 4 ยุทธศาสตร์ปลุกเชื่อมั่นตลาดทุน

ศาสตราจารย์พิเศษ กิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ตลาดทุนประสบปัญหาหลายด้านทั้งปัจจัยภายใน และภายนอก เช่น สงครามการค้า สงครามความขัดแย้ง และความตึงเครียดจากทางการเมือง โดยวิกฤติเชื่อว่ามีโอกาส โดย ตลท.มีแผนดำเนินการผ่านยุทธศาสตร์ 4 ดังนี้

1.การสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ลงทุนทุกภาคส่วนทั้งการสร้างความเชื่อมั่น และธรรมาภิบาล Trust and Confidence ที่ ตลท.ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อธรรมาภิบาล และการจัดการปัญหาการฉ้อฉลในตลาดทุน และมีการดำเนินงานอย่างรวดเร็วในหลายกรณี เช่น การเอาผิดจากบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ที่เพิ่งประกาศให้เห็นต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ตลท.ออกมาตรการควบคุมการซื้อขายเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่น อาทิ การพิจารณากำหนดโทษอาญาสำหรับผู้ทำ Short Sell ในต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้อยู่ในร่างกฎหมาย และปรับปรุงกฎเกณฑ์ Dynamic Price Band และการจัดการ High-Frequency Trading (HFT) เพื่อลดความเหลื่อมล้ำของนักลงทุน

ดึงต่างชาติรายใหญ่จดทะเบียน ตลท.

2.การเพิ่มความน่าสนใจในตลาดทุนไทย ตลท.พิจารณาแนวทางดึงนักลงทุนมาลงทุน และบริษัทให้มาจดทะเบียนมากขึ้น โดยเห็นโอกาสจากบริษัทเอสเอ็มอีกว่า 3.25 ล้านราย และบริษัทที่เสียภาษี 200,000 ราย และ ตลท.ปรับปรุงเกณฑ์การจดทะเบียน กำลังทบทวนเกณฑ์สำหรับ Live Platform, Live Exchange เพื่อสนับสนุนบริษัทหรือสตาร์ตอัปลงทุนในตลาดทุน

รวมถึงปรับเกณฑ์ Market Cap เปิดโอกาสให้บริษัทขนาดใหญ่หรือบริษัทในกลุ่ม Economy เข้ามาจดทะเบียนได้ แม้อยู่ช่วงเริ่มต้น และยังไม่มีกำไรครบ 3 ปี เช่นเดียวกันการดึงบริษัทต่างชาติเข้ามาจดทะเบียนใน ตลท.มากขึ้น ซึ่งมีบริษัทต่างชาติ 3-4 แห่ง สนใจ

นอกจากนี้ ยังมีบริษัทต่างชาติกว่า 600 ราย ยื่นความสนใจ (EOI) มูลค่ากว่า 267,000 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องนโยบายรัฐบาล ซึ่งร่วมมือกับ BOI กำหนดกฎเกณฑ์สนับสนุนการลงทุน และการจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงการแก้ไขกฎหมายหุ้น 2 ประเภท

3.การผลักดันกฎหมายให้เท่าเทียม โดยมีกฎหมายที่ติดขัดจำนวนมากจึงพยายามออกกฎหมายเกี่ยวข้องกับการแก้ไขการเข้าจดทะเบียน และสิทธิของบริษัททั้งพยายามสร้างกฎเกณฑ์ยกเลิก และแก้ไขกฎหมายอย่างรวดเร็ว รวมถึงการเพิ่มอำนาจ ก.ล.ต.ที่ออกเป็น พ.ร.ก.เพื่อให้ ก.ล.ต. มีอำนาจในการสอบสวนคดีที่มีความสำคัญของตลาดทุนไทย

คลัง ปลุกเชื่อมั่น ‘ตลาดหุ้น’ ดึงทุนนอกขอ BOI พร้อมจดทะเบียน ตลท.

4.การขับเคลื่อนเพื่อความยั่งยืน (ESG) ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และบริษัทจดทะเบียนไม่ควรหยุดนิ่ง แม้ผู้นำบางประเทศไม่สนใจสิ่งแวดล้อม แต่ ESG อยู่คู่โลกทั้งการสนับสนุนผ่านตลาดคาร์บอนเครดิต โดยให้บริษัทจดทะเบียนรายงานการปล่อยคาร์บอนของ Supply Chain เพื่อเตรียมพร้อมการนำคาร์บอนเครดิตมาซื้อขายในตลาดทุน

“ตลาด mai” โอกาสช่วงตลาดผันผวน

นายวิรัฐ สุขชัย นายกสมาคมบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) กล่าวว่า สตาร์ตอัปสนใจจดทะเบียนใน ตลท.เพื่อระดมทุน ซึ่งในอดีตการเข้า ตลท.มีเกณฑ์เข้าง่าย แต่เมื่อวันที่ 1 ม.ค.2568 เปลี่ยนเกณฑ์ต้องมีกำไร 75 ล้านในปี 2-3 ปีรวมกัน

อย่างไรก็ตาม ภาพของตลาด mai ตลอด 25 ปีที่ผ่านมา ได้บ่มเพาะบริษัทกว่า 63 แห่งให้เติบโต และย้ายไปจดทะเบียนในตลาด SET คิดเป็นประมาณ 10% ของบริษัททั้งหมดใน SET สะท้อนบทบาทสำคัญในการเป็นบันไดสู่ความสำเร็จของธุรกิจไทย แม้ดัชนี mai จะลดลงจากเกือบ 700 จุด เหลือเพียง 238-240 จุด แต่ผลประกอบการของบริษัทใน mai กลับเติบโตสวนทาง

ขณะที่ การสนับสนุนจากภาครัฐสามารถเร่งการเติบโตของบริษัทขนาดเล็กได้ เช่น การให้สินเชื่อระยะยาว (Term Loan) แก่ SMEs เป็นเวลา 15 ปีแทน 7 ปี เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง และการยกเว้นภาษีเงินปันผลหรือดอกเบี้ยสำหรับหุ้นกู้ของ SMEs การสนับสนุนเหล่านี้จะช่วยดึงดูดนักลงทุนรายใหญ่เข้ามาร่วมลงทุน

นายพรพุทธ ริจิรวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท บริษัท ฟินน์คอร์ป แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า การปรับเกณฑ์การเข้าจดทะเบียนใน ตลท.มีเป้าหมายให้นักลงทุนมั่นใจว่าจะได้ลงทุนในบริษัทที่มีโอกาสเติบโตสูง

อย่างไรก็ตาม แม้เกณฑ์ที่เข้มงวดขึ้นอาจทำให้บริษัทขนาดเล็ก และสตาร์ตอัปบางรายมองว่าการเข้าถึงตลาดทุนยากขึ้น แต่ ตลท.เตรียม “Live Exchange” หรือ “กระดานที่ 3” รองรับสตาร์ตอัป และบริษัทขนาดเล็กที่ต้องการระดมทุน 

ทั้งนี้ ปัจจุบัน Live Exchange เปิดให้เฉพาะนักลงทุนรายใหญ่เข้าลงทุน โดยบริษัทที่จดทะเบียนใน Live Exchange มีโอกาสที่จะเติบโตขึ้นสู่การจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai หรือ SET ได้ในอนาคต

 

คลัง ปลุกเชื่อมั่น ‘ตลาดหุ้น’ ดึงทุนนอกขอ BOI พร้อมจดทะเบียน ตลท.

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์