บขส.สยายปีกสู่ธุรกิจขนส่งสินค้า เพิ่มความสะดวกบริการ-รายได้

บขส.สยายปีกสู่ธุรกิจขนส่งสินค้า  เพิ่มความสะดวกบริการ-รายได้

ข้อมูลจากวิจัยกรุงศรี ระบุว่า การขนส่งสินค้าของไทยใช้รูปแบบการขนส่งทางถนนในสัดส่วนสูงเกือบ 80% ของปริมาณขนส่งสินค้ารวม (ข้อมูลล่าสุดปี 2565)

เป็นผลจากที่ผ่านมา การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางถนนส่งผลให้โครงข่ายระยะทางของถนนครอบคลุมถึง 98.9% ของเส้นทางขนส่งทั้งหมดของประเทศ

ด้วยลักษณะของการขนส่งทางถนนที่สามารถส่งตรงจากผู้ส่ง (หรือต้นทาง) ถึงผู้รับ(ปลายทาง) (Door to Door Transport) และเชื่อมโยงการขนส่งรูปแบบอื่นที่ไม่สามารถให้บริการขนส่งจากต้นทางถึงปลายทางได้อย่างสมบูรณ์ เช่น การขนส่งสินค้าทางราง น้ำ และอากาศ จะต้องใช้รถบรรทุกเป็น Feeder ขนถ่ายสินค้าต่อไปยังผู้รับปลายทาง ทำให้การขนส่งทางถนนมีบทบาทสูงต่อภาคขนส่งรวมของประเทศ

  "วิจัยกรุงศรีประเมินว่า ปี 2567-2569 ธุรกิจบริการขนส่งสินค้าทางถนนมีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ย 2.0-3.0% ต่อปีโดยมีปัจจัยหนุนจากการทยอยฟื้นตัวของกิจกรรมในภาคการผลิต การค้า และการลงทุน รวมถึงภาคท่องเที่ยวที่เติบโตต่อเนื่อง นอกจากนี้ ธุรกิจยังได้อานิสงส์จากการค้าชายแดนและผ่านแดน รวมถึงธุรกรรมการค้าออนไลน์ ซึ่งหนุนความต้องการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าอุตสาหกรรม วัสดุก่อสร้างและเครื่องจักรกลต่างๆW

นายชัชวาล พรอมรธรรม กรรมการฯ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า บขส. ได้ดำเนินการพัฒนาแผนธุรกิจรับ - ส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ เพื่อเพิ่มศักยภาพของสถานีเดินรถส่วนภูมิภาค รองรับความต้องการจัดส่งพัสดุภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นของประชาชนให้ได้รับความสะดวกในการใช้บริการ และสร้างรายได้ให้กับ บขส. ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม

 ปัจจุบัน บขส. มีศูนย์รับ - ส่งพัสดุภัณฑ์ในภูมิภาค 16 แห่ง ได้แก่ 1. ศูนย์รับ - ส่งพัสดุภัณฑ์ (จตุจักร) 2. ศูนย์ฯ สายใต้ (บรมราชชนนี) 3. ศูนย์ฯ รังสิต 4. ศูนย์ฯ จังหวัดเชียงราย 5. ศูนย์ฯ จังหวัดเชียงใหม่ 6. ศูนย์ฯ จังหวัดนครพนม 7. ศูนย์ฯ จังหวัดหนองคาย 8.3ศูนย์ฯ จังหวัดมุกดาหาร 9. ศูนย์ฯ หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 10. ศูนย์ฯ จังหวัดภูเก็ต 11. ศูนย์ฯ จังหวัดเพชรบุรี 12. ศูนย์ฯ จังหวัดสุราษฎร์ธานี 13. ศูนย์ฯ จังหวัดปัตตานี 14. ศูนย์ฯ จังหวัดนครสวรรค์ 15. ศูนย์ฯ จังหวัดสกลนคร 16. ศูนย์ฯ จังหวัดนครราชสีมา และสามารถใช้บริการรับ - ส่งพัสดุภัณฑ์ที่สถานีเดินรถ บขส. อีก 93 แห่งทั่วประเทศ 

นอกจากนี้ บขส. ให้บริการรถพัสดุภัณฑ์ 6 เส้นทาง ประกอบด้วย เส้นทางกรุงเทพฯ - เชียงใหม่ กรุงเทพฯ - แม่สาย กรุงเทพฯ - หนองคาย กรุงเทพฯ - นครพนม กรุงเทพฯ - อุบลราชธานี และกรุงเทพฯ - หาดใหญ่ โดยจากผลการดำเนินงาน พบว่า มีประชาชนใช้บริการรับ - ส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง และใช้บริการขนส่งสินค้าทุกประเภท โดยส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าเกษตร สินค้าอุปโภคบริโภค เพื่อส่งให้ผู้ประกอบการรายย่อยในพื้นที่ต่างจังหวัด และขนม เป็นต้น

ทั้งนี้ เพื่อยกระดับการให้บริการจัดส่งพัสดุทั่วไทย บขส. เตรียมประสานความร่วมมือกับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดให้บริการ “Hub to Door” โดย บขส. จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางรวบรวมและขนส่งพัสดุขนาดใหญ่ จากสถานีขนส่งผู้โดยสารทั่วประเทศไปยังศูนย์ไปรษณีย์ปลายทาง ก่อนที่ไปรษณีย์ไทยจะดำเนินการจัดส่งพัสดุถึงมือผู้รับทั่วประเทศ ความร่วมมือนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ความสะดวก รวดเร็ว และตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการและประชาชนในการขนส่งพัสดุได้อย่างทั่วถึงยิ่งขึ้น

สำหรับอัตราค่าบริการรับ - ส่งพัสดุภัณฑ์ เช่น ขนาดเล็กสุด กล่อง A ไม่เกิน 50 เซนติเมตร (ซม.) น้ำหนักไม่เกิน 5 กิโลกรัม (กก.) ค่าบริการเริ่มต้นที่ 30 บาท ส่วนการขนส่งรถจักรยานยนต์ คิดราคาตามขนาดเครื่องยนต์ เช่น เครื่องยนต์ไม่เกิน 110 ซีซี ค่าบริการเริ่มต้นที่ 1,300 บาท ขณะที่รถจักรยานทุกชนิด คิดตามขนาด เช่น ขนาดเล็กสุด ไม่เกิน 14 นิ้ว ค่าบริการเริ่มต้นที่ 200 บาท ส่วนเงื่อนไขการให้บริการรับ - ส่งพัสดุภัณฑ์ เช่น พัสดุต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 50 กก. ไม่รับฝากวัตถุอันตราย วัตถุไวไฟทุกชนิด สิ่งของผิดกฎหมาย สารเสพติด และมีประกันความเสียหายตามมูลค่าของที่ฝากส่งแต่ไม่เกิน 1,000 บาท