บี.กริม ชูโซลูชั่นประหยัดพลังงาน Data Center รับมือค่าไฟไทย

บี.กริม ชูโซลูชั่นประหยัดพลังงาน Data Center รับมือค่าไฟไทย

บี.กริมฯ เผยดาต้าเซ็นเตอร์ไทยใช้ไฟพุ่งกว่า 3% ของประเทศ! ชี้ระบบระบายความร้อนหัวใจสำคัญ พร้อมหนุนรัฐเปิดทางไฟฟ้าสะอาดดึงลงทุนแสนล้าน

"ซีเมนส์" ร่วมกับ "กรุงเทพธุรกิจ" จัดงานสัมมนา "Siemens Data Center Conference 2025 : Redefining Data Center Infrastructure" เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจกับเทรนด์การใช้ดาต้าเซ็นเตอร์ในอนาคต 

นายอานนท์ กุลวงษ์วาณิชย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บี.กริม เทคโนโลยี จำกัด กล่าวในหัวข้อ "Empowering Data Center Infrastructure with innovative solutions for efficiency, resilience and sustainability" ว่า ปัจจุบันบริษัทฯ มีความร่วมมือกับซีเมนส์ด้านดาต้าเซ็นเตอร์ เพื่อตอบสนองโซลูชั่นด้านพลังงานให้กับลูกค้า โดยให้บริการโซลูชั่นลดการใช้พลังงานของดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งปัจจุบันมีการใช้ไฟฟ้ามากกว่า 3% ของการใช้พลังงานในไทย และมีแนวโน้มจะเติบโตเกือบ 10% ต่อปี

บี.กริม ชูโซลูชั่นประหยัดพลังงาน Data Center รับมือค่าไฟไทย

ดังนั้น ลูกค้าจึงต้องการโซลูชั่นด้านการประหยัดพลังงาน การพัฒนาระบบระบายความร้อนซึ่งเป็นระบบหลักที่ใช้พลังงานเป็นอย่างมากในดาต้าเซ็นเตอร์ การเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ HVAC (Heating, Ventilation, and Air Conditioning) จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน (Power Usage Effectiveness – PUE)

"เราเป็นพาร์ทเนอร์ทั้ง แคเรียร์ และ ซีเมนส์ โดยร่วมมือออกแบบโซลูชั่นเพื่อไม่ให้กินไฟมาก อาจจะมีระบบพัดลมเป่าไปโดยตรง หรือการนำระบบลิควิดคูลลิ่ง (Liquid Cooling) ซึ่งเป็นการระบายความร้อนด้วยของเหลวที่เป็นตัวกลางในการนำพาความร้อนออกจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น CPU, GPU ซึ่งถือเป็นโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ตั้งแต่การออกแบบตามหลักเทคโนโลยีระดับโลก"

บี.กริม ชูโซลูชั่นประหยัดพลังงาน Data Center รับมือค่าไฟไทย

อย่างไรก็ตาม หากเราเป็นผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ สิ่งที่เราต้องการคือระบบจะต้องไม่ขัดข้อง ไม่ต้องเชื่อมต่อกับระบบอื่นที่หลากหลาย ซึ่งบริษัทฯ ตอบโจทย์ด้วยระบบที่มีความปลอดภัยสูง มีแรงดันที่ดี ทำให้มั่นใจว่าระบบไม่ล่ม และสามารถเชื่อมต่อเข้ากับระบบต่างๆ ได้อย่างราบรื่น ดังนั้น ความแข็งแกร่งของบริษัทฯ คือการมีพันธมิตรที่ดี

สำหรับ ค่าไฟฟ้าในประเทศไทย ถือเป็นปัจจัยท้าทายสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ จึงจำเป็นต้องมีนโยบายที่ชัดเจนว่าจะสามารถเข้าถึง ระบบไฟฟ้าสะอาด ได้อย่างไร ซึ่งจำนวนนำร่อง Direct PPA (Private Power Purchase Agreement) เพียง 2 พันเมกะวัตต์ นั้นไม่เพียงพอต่อการลงทุนหลักแสนล้านบาท อย่างแน่นอน

แม้ว่าค่าไฟฟ้าในไทยจะอยู่กลางๆ เมื่อเทียบกับประเทศในอาเซียน (สิงคโปร์และฟิลิปปินส์แพงที่สุด ส่วนไทยอยู่ที่ 4 บาทกว่าต่อหน่วย) ทำให้ไทยยังน่าสนใจในการลงทุน แต่ปัญหาหลักคือ ความยากในการดึงดาต้าเซ็นเตอร์เข้าสู่ระบบไฟฟ้าสะอาด รัฐบาลจึงจำเป็นต้องบริหารจัดการระบบนี้ให้ดีขึ้น
"การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นหน่วยงานที่เปิด Third Party Access (TPA) จึงต้องเปิดทางให้มีการเชื่อมต่อ เพราะต้นทุนพลังงานหมุนเวียนถูกกว่าค่าไฟจากโรงไฟฟ้า และอีกเรื่องนอกจากไฟสะอาดแล้ว หรือแม้กระทั่งค่าไฟที่ชวนลงทุน ระบบที่ทำให้ดาต้าเซ็นเตอร์กินไฟน้อยลงจะเข้ามาช่วยดึงการลงทุน ดังนั้น ทุกคนต้องช่วยกันให้การลงทุนคุ้มค่า เพื่อให้นักลงทุนมีต้นทุนระยะยาวลดลง"