นักกม.ชี้เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไม่ใช่จุดรวม 'ธุรกิจสีเทา'

นักกม.ชี้เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไม่ใช่จุดรวม 'ธุรกิจสีเทา'

"วีรพัฒน์ ปริยวงศ์" ที่ปรึกษากมธ.การคลังฯ ชี้โมเดล Entertainment Complex ของไทยไม่ใช่ศูนย์รวมธุรกิจสีเทา เป็นเครื่องมือดึงลงทุน พัฒนาท่องเที่ยว แก้ปัญหาเงินนอกระบบ

วันนี้ (5 มิ.ย.68) นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักกฎหมาย และที่ปรึกษากรรมาธิการการเงิน การคลังฯ สภาผู้แทนราษฎร และผู้ก่อตั้งสำนักกฎหมาย VLA ให้สัมภาษณ์ในงานเสวนาโต๊ะกลมว่าด้วยสถานบันเทิงครบวงจรของไทย หรือ Thailand Entertainment Complex (TECR) ถึงโครงการสถานบันเทิงครบวงจรของรัฐบาลที่กำลังจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวาระแรกในเดือน ก.ค.นี้

 

นายวีรพัฒน์ กล่าวว่า การตรวจสอบแก้ไขร่างกฎหมายที่มีการเสนอในครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องที่ไทยมีประสบการณ์มาก่อน แต่เป็นเรื่องที่ประเทศเพื่อนบ้านและประเทศอื่นๆ มีประสบการณ์มาแล้วจึงต้องมีการเรียนรู้จากเพื่อนบ้านและรับฟังความเห็นจากส่วนต่างๆมากที่สุด

โดยกรอบกฎหมายที่พิจารณากันไม่ได้ใช้คำว่า "กาสิโน" แต่ใช้คำว่า "สถานบันเทิงครบวงจร" หรือ Entertainment Complex ซึ่งไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถเข้ามาเปิดหรือมาลงทุนได้ เพราะเงื่อนไขที่วางไว้ค่อนข้างที่สูง จะต้องลงทุนเป็นมูลค่ามหาศาล และพื้นที่ที่เป็นกาสิโนตามหลักการก็คือไม่เกิน 10% ของพื้นที่ ส่วนอีก 90% ของพื้นที่จะทำอะไร จะสร้างสวนสนุก สวนน้ำ โรงละคร สนามกีฬา หรือว่าจะมีทัศนียภาพที่สวยงามเป็น Man-Made Destination

โดยโครงการนี้มี 3 เป้าหมายหลัก

1. การพัฒนาเศรษฐกิจ  เพื่อดึงเม็ดเงินลงทุนเข้าประเทศ โดยเฉพาะจากนักลงทุนต่างชาติ

2. การพัฒนาการท่องเที่ยว เพราะการท่องเที่ยวของไทยก็ดังอยู่แล้ว แต่ถ้าเราอยู่เฉยๆ ไม่พัฒนาการท่องเที่ยวของเรา เพื่อนบ้านเขาก็พร้อมที่จะขึ้นมา

 และ 3. การจัดการปัญหาบ่อนใต้ดิน  เพราะบ่อนใต้ดินที่มีอยู่มานมนาน มันเป็นระบบที่ทำให้เกิดการหมุนเวียนเงินนอกระบบ และเงินนอกระบบนี้มันก็จะโยงกันหลายอย่าง การค้าประเวณี ยาเสพติด อิทธิพล สินบน เจ้าหน้าที่ของรัฐ

 นายวีรพัฒน์ ย้ำว่า กระบวนการตอนนี้เรายังไม่ทันจะได้เข้าสู่วาระการพิจารณาร่างกฎหมายอย่างเป็นทางการสิ่งที่เรามีตอนนี้คือการพูดคุยในสังคม มีร่างการศึกษาของคณะกรรมาธิการในสภา ซึ่งก็เป็นแค่ร่างการศึกษา ยังไม่ได้เป็นการพิจารณาผ่านกฎหมาย ข้อกังวลใจใดๆ ที่ภาคสังคม ภาควิชาการมี คิดว่าสำคัญและต้องรับฟัง แล้วก็เอาข้อพิจารณาเหล่านี้มาใช้แก้ไข

“เชื่อว่าไม่ใช่การเปิดกาสิโนอย่างที่เข้าใจกัน แต่เป็นการสร้าง Entertainment Complex เพื่อดึงเม็ดเงินเข้าประเทศและแก้ปัญหาบ่อนใต้ดินที่มีมานานเรียนรู้จากประสบการณ์ประเทศเพื่อนบ้าน ผมกลับมองว่าเป็นข้อดีที่เรามาทีหลังเขา ในแง่ที่ว่าเราสามารถเรียนรู้ได้ว่าเขาประสบความสำเร็จตรงไหน เขาผิดพลาดอะไร และเราจะทำให้ดีกว่าเขายังไง”

 เมื่อถูกถามเรื่องความกังวลว่าจะเป็นศูนย์รวมธุรกิจสีเทาและแหล่งฟอกเงิน นายวีรพัฒน์ ตอบว่า ธุรกิจสีเทา เงินนอกระบบมันมีมาอยู่แล้ว ยังไม่ต้องมีกาสิโน ไม่ต้องมี Entertainment Complex ก็มีเงินนอกระบบ  แต่ถ้าเราไม่ดึงเม็ดเงินกลับเข้ามาสู่ระบบ เราจะแก้ยังไง ถ้าเราบอกว่าเราก็จะไปตามจับเรื่อยๆ แล้วเราตามจับมากี่ปีแล้ว

 

 “จากประสบการณ์ที่อยู่ประเทศอังกฤษมาเกือบ 10 ปี สังเกตว่า กาสิโนมันเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด แต่ก็เห็นผู้คนเขาก็ตื่นเช้าทำงาน ขึ้นรถเมล์ไปทำงานกัน ไม่เห็นมีใครต้องวิ่งเข้ากาสิโนกันทั้งวัน ส่วนใหญ่ถ้าเข้าไปก็จะเจอแต่นักท่องเที่ยวเป็นหลัก”นายวีรพัฒน์ กล่าว