กรมพัฒนาที่ดินยกระดับห้องLAB มาตรฐาน ISO/IEC ปูขึ้น Smart Lab

กรมพัฒนาที่ดินยกระดับห้องLAB มาตรฐาน ISO/IEC ปูขึ้น Smart Lab

การยกระดับห้องปฏิบัติการเพื่อวิเคราะห์ดิน จะช่วยสร้างความมั่นใจให้เกษตรกร และนำไปสู่เป้าหมาย เป็นศูนย์กลางข้อมูลวิเคราะห์ดินที่มีมาตรฐานระดับนานาชาติ เร็วขึ้น

ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน เปิดเผยว่า  กรมพัฒนาที่ดินให้ความสำคัญกับการใช้ข้อมูลดินอย่างถูกต้องแม่นยำ เพื่อให้เกษตรกรสามารถวางแผนการปลูกพืช เลือกใช้ปุ๋ยและวัสดุปรับปรุงดินได้เหมาะสมกับพื้นที่จริง การยกระดับห้องปฏิบัติการ(Lab)จึงเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนเกษตรแม่นยำและเกษตรยั่งยืนของประเทศ การวิเคราะห์ดินที่ได้มาตรฐาน จะช่วยให้เกษตรกรมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการเลือกชนิดพืช และการจัดการธาตุอาหารอย่างเหมาะสม ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตและรักษาสมดุลทรัพยากรดินในระยะยาว

กรมพัฒนาที่ดินยกระดับห้องLAB มาตรฐาน ISO/IEC ปูขึ้น Smart Lab

ทั้งนี้Lab  ถือเป็นผู้นำด้านห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ดิน โดยได้รับการรับรองตามมาตรฐาน ISO/IEC 17025 ตั้งแต่ปี 2558 เป็นมาตรฐานระดับสากลด้านความสามารถในการทดสอบ 7 ด้าน แยกเป็น 2 ส่วนคือ ดิน คือ ความเป็นกรด-ด่าง (pH)  ค่าการนำไฟฟ้า (EC)  อินทรีย์คาร์บอน (OC)  คาร์บอนทั้งหมด (Total carbon) ความหนาแน่นรวมของดิน (Bulk density)  ปรอท (Hg) และปุ๋ยอินทรีย์คือ ปรอท (Hg) เป็นการยกระดับทั้งด้านคุณภาพและความปลอดภัย ด้วยเป้าหมายให้เกษตรกรไทยเข้าถึงบริการวิเคราะห์ดินที่แม่นยำ ได้ผลจริง ใช้ประโยชน์ได้จริง

" ในอนาคต กรมพัฒนาที่ดินมีแผนพัฒนาห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ดินของประเทศให้ก้าวสู่ห้องปฏิบัติการอัจฉริยะ(Smart Laboratory หรือSmart Lab) โดยบูรณาการเทคโนโลยีดิจิทัลและระบบอัตโนมัติ เพื่อยกระดับความรวดเร็ว ความแม่นยำ และการเข้าถึงของบริการวิเคราะห์ดินให้ทันต่อความต้องการของเกษตรกรไทย ภายใต้แนวคิด “รวดเร็ว แม่นยำ โปร่งใส เชื่อมโยงได้”

กรมพัฒนาที่ดินยกระดับห้องLAB มาตรฐาน ISO/IEC ปูขึ้น Smart Lab

 โดยมีแนวทางพัฒนาหลัก ได้แก่ การใช้ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ (Automation & Robotics) ในการเตรียมตัวอย่างและวิเคราะห์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดภาระงานของเจ้าหน้าที่ และลดระยะเวลา  การพัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูลวิเคราะห์ดินแบบเรียลไทม์ (Real-Time Data Integration) ให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงผลวิเคราะห์ผ่านระบบ e-Service ได้สะดวกยิ่งขึ้น  สร้างเครือข่ายห้องปฏิบัติการในระดับประเทศและภูมิภาค (Lab Network Integration) เพื่อสนับสนุนการแลกเปลี่ยนข้อมูล วิเคราะห์ข้ามพื้นที่ และยกระดับศักยภาพร่วมกัน

ขยายขีดความสามารถด้านการวิเคราะห์ธาตุอาหารรองและสารปนเปื้อนในดิน เพื่อรองรับปัญหาดินในอนาคตและการวางแผนพื้นที่เกษตรที่ปลอดภัย  พัฒนาศักยภาพบุคลากร อย่างต่อเนื่องผ่านหลักสูตรเฉพาะทางทั้งในและต่างประเทศ พร้อมสนับสนุนการวิจัยเพื่อสร้างนวัตกรรมในงานวิเคราะห์ดิน

การได้รับการรับรองตามมาตรฐาน ISO/IEC 17025:2017 ไม่เพียงแค่เป็นเครื่องยืนยันถึงความสามารถในการดำเนินการทดสอบที่ถูกต้องแม่นยำเท่านั้น แต่ยังเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับเกษตรกรและผู้ใช้งานข้อมูลว่าได้ผลวิเคราะห์มีความถูกต้อง น่าเชื่อถือ และตรวจสอบย้อนกลับได้ยกระดับภาพลักษณ์องค์กร เนื่องจากหน่วยงานที่ผ่านการรับรองจะแสดงถึงความเป็นมืออาชีพ และมาตรฐานการดำเนินงานที่เทียบเท่าสากล รองรับการตัดสินใจเชิงนโยบาย เพราะข้อมูลที่ได้จากห้องปฏิบัติการที่มีมาตรฐานสามารถนำไปใช้กำหนดนโยบายด้านการเกษตร การจัดการที่ดิน และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กรมพัฒนาที่ดินยกระดับห้องLAB มาตรฐาน ISO/IEC ปูขึ้น Smart Lab

 อีกทั้งยังช่วยลดข้อผิดพลาดและความเสี่ยง การดำเนินการตามระบบคุณภาพช่วยลดความผิดพลาดในการทดสอบ และเพิ่มความปลอดภัยในการใช้ผลวิเคราะห์  เพิ่มโอกาสความร่วมมือระหว่างประเทศ การได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากลทำให้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านดิน และร่วมมือกับห้องปฏิบัติการในระดับภูมิภาคและนานาชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นการพัฒนาองค์ความรู้และศักยภาพบุคลากร โดยกระบวนการดำเนินงานตามมาตรฐาน ISO ส่งเสริมให้เกิดการฝึกอบรมและการพัฒนาทักษะของเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง

"การวิเคราะห์ดินเป็นส่วนหนึ่งที่จะบอกให้ทราบว่าในดินมีธาตุอาหารอะไรบ้าง ซึ่งวิธีที่รวดเร็วเพื่อให้ได้ผลที่ประเมินสถานะธาตุอาหารในรูปที่เป็นประโยชน์ต่อพีช (plant available nutrient) และความเป็นพิษของธาตุบางชนิดในดิน ทั้งนี้ห้องปฏิบัติการจึงเป็นส่วนสำคัญในการวิเคราะห์ตัวอย่างดิน น้ำ พืช ปุ๋ย และสิ่งปรับปรุงดิน เพื่อให้ได้ข้อมูลซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการที่จะใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงที่มีความน่าเชื่อถือมากที่สุด" 

กรมพัฒนาที่ดินยกระดับห้องLAB มาตรฐาน ISO/IEC ปูขึ้น Smart Lab นอกจากนี้ยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในด้านการเกษตร ฐานข้อมูลดิน การสำรวจดิน และจัดทำแผนที่ดิน และอื่นๆ ซึ่งงานต่างๆ เหล่านี้จำเป็นต้องใช้ข้อมูลจากการวิเคราะห์ดินในห้องปฏิบัติการที่มีมาตรฐาน สำนักวิทยาศาสตร์เพื่อการพัฒนาที่ดิน และกลุ่มวิเคราะห์ดินสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต(สพข.)ทั้ง 12 เขต ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดปทุมธานี ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ฉะเชิงเทรา นครราชสีมา ร้อยเอ็ด ขอนแก่น เชียงใหม่ น่าน พิษณุโลก นครสวรรค์ราชบุรี  สุราษฎร์ธานี  และศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ นราธิวาส 

ห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ดินของกรมพัฒนาที่ดิน มีสำนักวิทยาศาสตร์เพื่อการพัฒนาที่ดินขับเคลื่อนงานด้านการพัฒนามาตรฐานห้องปฏิบัติการของกลุ่มวิเคราะห์ดิน สพข.1-12 ให้มีมาตรฐานเดียวกัน มีนักวิทยาศาสตร์ และเครื่องมือวิทยาศาสตร์ที่สามารถวิเคราะห์สมบัติพื้นฐานของดินได้มากขึ้น  กรมพัฒนาที่ดินยกระดับห้องLAB มาตรฐาน ISO/IEC ปูขึ้น Smart Lab อย่างไรก็ตามการให้ได้ข้อมูลวิเคราะห์ดินที่ถูกต้อง น่าเชื่อถือนั้น จึงต้องตรวจสอบเครื่องมือวิทยาศาสตร์ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์พร้อมใช้งาน มีนักวิทยาศาสตร์ที่มีความรู้ความสามารถ รวมทั้งวิธีการวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการที่เป็นมาตรฐานสากล พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายความร่วมมือ ทั้งในระดับภูมิภาคและนานาชาติ ทั้งกับหน่วยงานของรัฐและหน่วยงานเอกชน เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในเวทีเทคโนโลยีการวิเคราะห์ดินของโลก 

โดยเน้นความเป็นหุ้นส่วนในการกำหนดมาตรฐาน และวางระบบงานเทคโนโลยีการวิเคราะห์ดิน และการแบ่งปันความรู้ร่วมกัน เพื่อให้งานวิเคราะห์ดินของส่วนกลางและกลุ่มวิเคราะห์ดิน สพข.1-12 มีทักษะสูงขึ้น ช่วยให้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมีเป้าหมายระยะยาวในการเป็น “ศูนย์กลางข้อมูลวิเคราะห์ดินที่มีมาตรฐานระดับนานาชาติ” ห้องปฏิบัติการของกรมพัฒนาที่ดินจะไม่หยุดเพียงแค่ความถูกต้องของผลวิเคราะห์เท่านั้น แต่จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายเกษตรแม่นยำ และยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทยอย่างแท้จริง