รถไฟ“ไฮเปอร์ลูป”เทคโนโลยีแห่งอนาคตจีน-อินเดียชิงเบอร์หนึ่ง

การคมนาคมขนส่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของทุกประเทศ ซึ่งระบบขนส่งแห่งอนาคตอย่างไฮเปอร์ลูป (Hyperloop) กำลังเป็นทางเลือกใหม่ของการลงทุนด้านการขนส่ง
ก่อนอื่นทำความรู้จักกับ ไฮเปอร์ลูป(Hyperloop) ว่าคืออะไร สมาคมฟิสิกส์ไทย อธิบายไว้ว่า เป็นการเดินทางโดยรถไฟ แต่พิเศษกว่ารถไฟ เพราะโบกี้ที่ใช้จะมีรูปร่างที่เรียกว่า พอต(Pod) ที่เดินทางผ่านท่อสุญญากาศ หรือ ใกล้เคียงสุญญากาศโดยตัวพอตจะลอยอยู่เหนือแม่เหล็กที่เรียกว่า แรงแม่เหล็ก(Magnetic Levitation)
“โดยที่ตัวพอตนั้นจะไม่สัมผัสกับส่วนใดๆภายในท่อเลย ซึ่งสิ่งนี้เป็นอีกประการนึงที่ทำให้ไฮเปอร์ลูปเคลื่อนที่ไปได้อย่างรวดเร็วประมาณ 1200กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเร็วกว่าเครื่องบินในปัจจุบัน”
เทคโนโลยีขนส่งนี้แม้จะล้ำสมัยแต่พบว่า บริษัท Hyperloop One ของสหรัฐได้ปิดกิจการขายทรัพย์สิน ปิดสำนักงาน และเลิกจ้างพนักงานที่มีอยู่ทั้งหมดเมื่อ 31 ธ.ค. 2566 เนื่องจากไม่สามารถคว้าสัญญาในการสร้างไฮเปอร์ลูปได้แม้แต่ครั้งเดียว เพราะยังม่ีข้อสงสัยว่า สามารถขนส่งคนได้ครั้งละจำนวนน้อยไม่เหมือนเครื่องบินหรือรถไฟ
วิศวกรชาวจีนได้สร้างรางรถไฟสุญญากาศยาว 2 กิโลเมตรที่ศูนย์ทดสอบในเขตหยางเกา มณฑลซานซี เพื่อทดลองใช้เทคโนโลยีนี้ ภายในรางรถไฟดังกล่าว รถไฟ T-Flight ที่พัฒนาโดย China Aerospace Science and Industry Corporation (CASIC) สามารถทำความเร็วได้ 623 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งถือเป็นสถิติโลกใหม่สำหรับยานพาหนะภาคพื้นดินที่เคลื่อนที่ในท่อสุญญากาศ
ข้อมูลจากเวบไซด์ ESCAPE ที่อ้างอิงข้อมูลสื่อท้องถิ่นระบุว่า จีนกำลังทำการทดสอบรถไฟไฮเปอร์ลูป หลังให้วิศวกรชาวจีนสร้างรางรถไฟสุญญากาศยาว 2 กิโลเมตรที่ศูนย์ทดสอบในเขตหยางเกา มณฑลซานซี เพื่อทดลองใช้เทคโนโลยีนี้ ภายในรางรถไฟดังกล่าว รถไฟ T-Flight ที่พัฒนาโดย China Aerospace Science and Industry Corporation (CASIC) สามารถทำความเร็วได้ 623 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งถือเป็นสถิติโลกใหม่สำหรับยานพาหนะภาคพื้นดินที่เคลื่อนที่ในท่อสุญญากาศ
ขณะที่ข้อมูลจากสื่อท้องถิ่นของจีน South China Morning Post (SCMP) ระบุว่า นักวิทยาศาสตร์พยายามแก้ไขข้อบกพร่องของการขนส่งระบบนี้ หลังการจำลองแบบละเอียดโดยใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์พบว่าความเร็วสูง โดยเฉพาะที่ความเร็วประมาณ 249 ไมล์ต่อชั่วโมง (400 กม./ชม.) และ 373 ไมล์ต่อชั่วโมง (600 กม./ชม.) พ็อดจะเผชิญกับแรงสั่นสะเทือนที่เป็นอันตราย
โดยใช้ดัชนี Sperling ในยุคปี ค.ศ. 1940 ซึ่งเป็นมาตราส่วนสำหรับความสะดวกสบายในการขับขี่ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก ทีมงานได้วัดความไม่สบายที่ผู้โดยสารจะรู้สึก ที่ความเร็ว 249 ไมล์ต่อชั่วโมง แรงสั่นสะเทือนนั้นไปถึงระดับที่ระบุว่า “ไม่พึงประสงค์อย่างยิ่ง” ส่วนที่ความเร็ว 373 ไมล์ต่อชั่วโมง ค่าที่อ่านได้นั้นอยู่ที่ 4.2 ตามดัชนี Sperling ซึ่งรุนแรงมากจนการสัมผัสเป็นเวลานานอาจเป็นอันตรายต่อมนุษย์ได้
อย่างไรก็ตาม ที่ความเร็วสูงสุดที่กำหนดไว้ที่ 612 ไมล์ต่อชั่วโมง (1,000 กม./ชม.) แรงสั่นสะเทือนนั้นลดลงเหลือดัชนี Sperling ที่ 3.1 ซึ่งจัดอยู่ในประเภท “แทบจะทนไม่ไหว”
“ต้นตอของปัญหาอยู่ที่การขาดการสัมผัสทางกายภาพระหว่างรถไฟกับราง เนื่องจากรถไฟแม่เหล็กลอยตัวด้วยแรงแม่เหล็ก ความไม่สมบูรณ์แบบใดๆ ในโครงสร้างพื้นฐานอาจกระตุ้นให้เกิดการสั่นพ้องในห้องโดยสาร ผลลัพธ์ที่ได้คือ “ความไม่เสถียรในระดับที่รุนแรง””
ดังนั้นทีมวิจัยจึงใช้ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เพื่อลดความปั่นป่วน ซึ่งกลยุทธ์หนึ่งเรียกว่าการหน่วงแบบ “sky-hook” ใช้ข้อมูลความเร็วแบบเรียลไทม์เพื่อต่อสู้กับแรงสั่นสะเทือนความถี่ต่ำ ซึ่งยังต้องทำการทดสองอย่างต่อเนื่องต่อไปก่อนนำมาใช้จริง
การพัฒนาระบบขนส่งไฮเปอร์ลูป ก็กำลังทำอย่างแข็งขันในฝั่งของ“อินเดีย” ข้อมูลจากเว็บไซด์ The Wire ระบุว่า อินเดียดำเนินโครงการไฮเปอร์ลูปที่กำลังพัฒนาอยู่ที่สถาบันเทคโนโลยีแห่งอินเดีย (IIT) มัทราส ซึ่งมีแผนจะเป็นโครงการที่ยาวที่สุดในเอเชียและจะกลายเป็นโครงการไฮเปอร์ลูปที่ยาวที่สุดในโลก
แม้ว่าการพัฒนาเทคโนโลยี “ไฮเปอร์ลูป” ถูกพยายามและถูกยกเลิกไปหลายครั้งทั่วโลกเนื่องจากไม่สามารถทำได้จริงและมีต้นทุนสูง บริษัทต่างๆ ต่างปิดตัวลงหรือเปลี่ยนโฟกัสหลังจากเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง หลังในปี 2013
โดยปี 2017 บริษัท Hyperloop TT ทำข้อตกลงกับสภาเมืองตูลูสเพื่อสร้างรางทดสอบความยาว 320 เมตร ภายในปี 2022 รางทดสอบดังกล่าวถูกรื้อถอน สถานที่ดังกล่าวถูกละทิ้ง และบริษัทถูกไล่ออกจากสภาเมือง
ส่วนปี 2018 บริษัทเดียวกันได้เริ่มทำงานร่วมกับกรมกิจการเทศบาลและการขนส่งอาบูดาบี มีการเสนอให้สร้างรางทดสอบระยะทาง 10 กม. ระหว่างอาบูดาบีและดูไบ โดยกำหนดเส้นตายของโครงการคือปี 2023 และรางทดสอบดังกล่าวยังไม่สามารถใช้งานได้
ข้อมูลจาก กระทรวงรถไฟ (Ministry of Railways) ของอินเดีย (25 มี.ค.2025)ระบุว่า นายอัศวินี ไวษณอว์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงรถไฟ ได้แสดงความมั่นใจว่าอินเดียจะพร้อมสำหรับการขนส่งแบบ Hyperloop ในไม่ช้านี้ เนื่องจากเทคโนโลยีการขนส่งแบบ Hyperloop ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาในปัจจุบัน ได้ให้ผลลัพธ์ที่ดีจากการทดสอบที่ดำเนินการไปแล้ว
ทั้งนี้ กระทรวงการรถไฟได้รับเงินทุนและความช่วยเหลือทางเทคนิคสำหรับโครงการ Hyperloop และตอนนี้ เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดสำหรับโครงการ Hyperloop นี้จะได้รับการพัฒนาที่ Integral Coach Factory (ICF) Chennai
“ผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะสูงในโรงงานของ ICF ได้พัฒนาระบบอิเล็กทรอนิกส์สำหรับรถไฟความเร็วสูง Vande Bharat สำเร็จแล้ว และเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์สำหรับโครงการ Hyperloop นี้จะได้รับการพัฒนาที่ ICF เช่นกัน”
การแข่งขันด้านเทคโนโลยีกำลังเป็นจุดตัดสำคัญของความยิ่งใหญ่ที่ชาติมหาอำนาจนำมาใช้เพื่อสร้างแต้มต่อศักยภาพการแข่งขันของแต่ละประเทศซึ่งระหว่างทางของการแข่งขันการได้ให้นักวิทยาศาสตร์และวิศวกรได้ค้นหาและใช้องค์ความรู้ใหม่ๆ ก็อาจเป็นหนทางนำไปสู่ขีดความสามารถใหม่ๆของประเทศด้วย ไม่ว่าจะผลการทดสอบนั้นๆจะเป็นอย่างไรก็ตาม







