ปตท.-SCG ตัดทิ้งธุรกิจขนส่งสินค้า ลดลงทุนซ้ำซ้อน เน้น Core business

ปตท.-SCG ตัดทิ้งธุรกิจขนส่งสินค้า ลดลงทุนซ้ำซ้อน เน้น Core business

"ปตท.-SCG" ตัดทิ้งธุรกิจที่ไม่ถนัด และทำกำไรได้น้อย เช่นธุรกิจขนส่งสินค้า เร่งลดลงทุนซ้ำซ้อน เน้น Core business

ปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นการขนส่งสินค้าขนาดเล็กหรือใหญ่ ธุรกิจขนส่งในปัจจุบันเรียกได้ว่ามีการแข่งขันที่ดุเดือดอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นบริษัทขนส่งรายใหญ่ที่มีเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศ ไปจนถึงผู้ประกอบการรายย่อยที่ให้บริการเฉพาะทาง ต่างก็ต้องปรับตัวและพัฒนากลยุทธ์เพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งทางการตลาด

รวมถึงสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความท้าทายนี้ ผู้ให้บริการขนส่งไม่เพียงต้องนำเสนอราคาที่แข่งขันได้ แต่ยังต้องสร้างความแตกต่างด้วยการบริการที่เหนือกว่า ความรวดเร็ว ความน่าเชื่อถือ และการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ สิ่งเหล่านี้คือหัวใจสำคัญในการอยู่รอดและเติบโตในสมรภูมิธุรกิจขนส่งยุคปัจจุบัน

นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลุ่ม ปตท.จะเน้นดำเนินธุรกิจที่ถนัดและสร้างรายได้ให้องค์กร 

ทั้งนี้ ล่าสุดกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ เช่น การขนส่งผลไม้โดยรถไฟเลิกหมดแล้ว ซึ่งกลุ่ม ปตท.ออกจากธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักของกลุ่ม และเน้นเฉพาะที่มีความเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักและสร้าง Synergy ภายในกลุ่มได้ เช่น เพิ่มธุรกิจ Oil & Gas เพื่อลดการลงทุนซ้ำซ้อน สร้างความแข็งแรงและรายได้มากขึ้น

ปตท.-SCG ตัดทิ้งธุรกิจขนส่งสินค้า ลดลงทุนซ้ำซ้อน เน้น Core business

“กรุงเทพธุรกิจ” รายงานว่า กลุ่ม ปตท.ขยายธุรกิจโลจิสติกส์ก่อนหน้านี้ โดยเมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2565 บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า คณะกรรมการบริษัท สยาม แมนเนจเมนท์ โฮลดิ้ง จำกัด (SMH) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ ปตท.มติอนุมัติตั้งบริษัท โกลบอล มัลติโมดัล โลจิสติกส์ จำกัด (GML) โดย SMH ถือหุ้นสัดส่วน 100% ด้วยทุนจดทะเบียน 230 ล้านบาท

ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบธุรกิจโลจิสติกส์ โดยเน้นการเชื่อมโยงระบบเครือข่ายขนส่งทั้งหมดของไทย รวมถึงระบบขนส่งเชื่อมต่อระหว่างประเทศ โดยมีบริการหลัก อาทิ การขนส่งสินค้าทางราง ทางทะเล ทางบกและทางอากาศ การบริหารจัดการคลังสินค้าห้องเย็น รวมถึงการบริหารและให้เช่าทรัพย์สินสังหาริมทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโลจิสติกส์

ปตท.-SCG ตัดทิ้งธุรกิจขนส่งสินค้า ลดลงทุนซ้ำซ้อน เน้น Core business

รวมทั้งเพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน ลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ให้ผู้ประกอบการ โดยการจัดตั้งงบริษัทของ ปตท. ดังกล่าวสอดคล้องกับทิศทางแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 และกลยุทธ์ New S-Curve ของ ปตท. ในกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์และโครงสร้างพื้นฐาน

สำหรับการต่อยอดธุรกิจของ GML ช่วงปี 2566 ได้ลงนามความร่วมมือกับองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ขยายตลาดส่งออกสินค้าเกษตรและสินค้าอุปโภคบริโภคผ่านระบบการขนส่งทางราง มุ่งสร้างเครือข่ายด้านโลจิสติกส์ที่เชื่อมโยงเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เพื่อส่งเสริมให้สินค้าเกษตรของไทยสามารถเข้าสู่ตลาดการค้าในภูมิภาค อาทิ สาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐประชาชนลาว กัมพูชา เป็นต้น

“เอสซีจี”ปิดบริษัทขนส่งชี้ขาดทุนต่อเนื่อง

บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCG ได้ตัดทิ้งธุรกิจที่ไม่ทำกำไร เช่น ธุรกิจขนส่ง โดยบริษัท เอสซีจี เอ็กซ์เพรส จำกัด (SCG EXPRESS) ที่รู้จักกันในนามแมวดำ โดยนายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ SCG เคยระบุกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่าแม้ธุรกิจจะเติบโตแต่ผลตอบแทนทางการเงินน้อยจึงไม่รู้ว่าจะต้องถมเงินไปอีกเท่าไหร่ และเมื่อลงทุนไปแล้วใครจะได้ประโยชน์ 

ทั้งนี้หากเทียบธุรกิจโลจิสติกส์กับธุรกิจรีไซเคิลโพลิเมอร์ที่มีความคุ้มค่ากว่า บริษัทฯ ก็ต้องทำในสิ่งที่ดีกว่าเพื่อให้ได้ความคุ้มค่าในระยะยาว เป็นธรรมชาติของการทำธุรกิจ พร้อมประกาศลดต้นทุนทั้งองค์กร ปิดกิจการที่ไม่กำไรและตัดขายสินทรัพย์

“กรุงเทพธุรกิจ” ตรวจสอบข้อมูล บริษัท เอสซีจี เอ็กซ์เพรส จำกัด ได้แจ้งต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า จดทะเบียนวันที่ 22 ก.ย.2559 ทุนจดทะเบียน 1,463 ล้านบาท

สำหรับธุรกิจที่ดำเนินการให้บริการขนส่งพัสดุด่วนทั้งแบบทั่วไปและพัสดุประเภทอาหารที่ต้องการการควบคุมอุณหภูมิเป็นพิเศษ เพื่อตอบโจทย์ขยายธุรกิจลูกค้าในตลาด E-Commerce รวมทั้งบริการของลูกค้ากลุ่มธุรกิจ B2B (ธุรกิจถึงธุรกิจ) B2C (ธุรกิจถึงลูกค้าผู้บริโภค) และ C2C (ผู้บริโภคถึงผู้บริโภค)

ในขณะที่ผลดำเนินงานขาดทุนต่อเนื่อง โดยปี 2566 ขาดทุน 184 ล้านบาท , ปี 2565 ขาดทุน 247 ล้านบาท , ปี 2564 ขาดทุน 212 ล้านบาท , ปี 2563 ขาดทุน 216 ล้านบาท และปี 2562 ขาดทุน 305 ล้านบาท