'พิน ฟู้ด เทค' ทุ่ม 80 ล้าน ผุดโรงงานพาสเจอไรซ์เย็น ดันอาหารไทยบุกตลาดโลก

'พิน ฟู้ด เทค' ทุ่ม 80 ล้าน ผุดโรงงานพาสเจอไรซ์เย็น ดันอาหารไทยบุกตลาดโลก

"พิน ฟู้ด เทค" ทุ่ม 80 ล้าน ปั้นโรงงานพาสเจอไรซ์อาหารโดยไม่ผ่านความร้อน รองรับการขยายตัวอุตสาหกรรมอาหารไทยในตลาดโลก

นางสาวฉัตรรพี พิสิฎฐพันธ์ กรรมการ บริษัท พิน ฟู้ด เทค จำกัด (Pin Food Tech) กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ลงทุนครั้งใหญ่ในด้านนวัตกรรมการผลิตอาหารเเบบใหม่ ที่จะทำให้ไม่กระทบต่อ คุณค่าทางโภชนาการรวมไปถึงรสชาติของอาหาร ผ่านการลงทุนด้วยเม็ดเงินถึง 80 ล้านบาท เพื่อนำเทคโนโลยีฆ่าเชื้อ ด้วยความดันสูง (High Pressure Processing: HPP) เข้ามาให้บริการฆ่าเชื้อผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม โดยใช้ความดันสูงสุดกว่า 6,000 bar หรือ 6,000 เท่าของความดันบรรยากาศ เพื่อทำลายและยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ก่อโรค 

'พิน ฟู้ด เทค' ทุ่ม 80 ล้าน ผุดโรงงานพาสเจอไรซ์เย็น ดันอาหารไทยบุกตลาดโลก

ทั้งนี้ ทำให้สามารถเก็บรักษาคุณค่าทางโภชนาการ กลิ่นและรสชาติเอาไว้ใกล้เคียงกับของสดมากที่สุด โดยเทคโนโลยีนี้มีการใช้งานในเชิงอุตสาหกรรมที่ต่างประเทศมากว่า 30 ปี ในขณะที่ประเทศไทยยังมีผู้ใช้เทคโนโลยีนี้ค่อนข้างน้อยเนื่องจากต้องใช้ เงินลงทุนสูง รวมถึงแนวทางการขอขึ้นทะเบียนอาหารและเครื่องดื่มบางประเภทด้วยเทคโนโลยีนี้ยังขาดความชัดเจน เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีใหม่ ทำให้ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มในประเทศไทยเกิดความลังเลในการลงทุน

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการนำเทคโนโลยีแปรรูปอาหารผ่านกระบวนการ HPP เข้ามายกระดับมาตรฐานอาหารและเครื่องดื่มในประเทศ ซึ่งการแปรรูปอาหารแบบดั้งเดิม คือการใช้ความร้อน ในการพาสเจอไรซ์หรือสเตอริไลซ์ ที่จะทำให้กลิ่น สีหรือรสชาติ และคุณค่าทางอาหารเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นการพาสเจอไรซ์ โดยใช้ระบบการสร้างเเรงดันนี้ จะช่วยรักษารสชาติและคุณค่าทางอาหารไว้ให้คงเดิมเหมือนได้รับประทานอาหารสดใหม่

'พิน ฟู้ด เทค' ทุ่ม 80 ล้าน ผุดโรงงานพาสเจอไรซ์เย็น ดันอาหารไทยบุกตลาดโลก  

"ปัจจุบันลูกค้าของบริษัทฯ คือผู้ส่งออกน้ำมะพร้าวน้ำหอมอันดับต้นๆ ของโลก และเทคโนโลยีนี้ยังใช้กับน้ำผลไม้อื่นๆ นมอัลมอนด์ หรืออาหารเกรดพรีเมี่ยม เช่น เนื้อสัตว์ อาหารสัตว์เลี้ยง นอกจากนี้เรายังมีอาหารท้องถิ่นซึ่งนิยมรับประทานแบบกึ่งสุกกึ่งดิบ เช่น ลาบ ปลาร้า ก้อยและอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาอาหารเหล่านี้ถูกตั้งคำถามเรื่องความปลอดภัยในการรับประทานมาโดยตลอด โดยปัจจุบันเริ่มมีอาจารย์ในมหาวิทยาลัยต่างๆ ทำการวิจัยเพื่อหาค่าความดันและระยะเวลาที่เหมาะสม เพื่อเข้ามาทำการยับยั้งจุลินทรีย์ก่อโรค รวมถึงไข่พยาธิต่างๆ โดยบริษัทฯ มั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าเทคโนโลยี HPP จะเข้ามายกระดับอาหารไทยท้องถิ่นขึ้นมาเป็น Soft Power ตัวใหม่ของวงการอาหารไทยในอนาคต" 

นางสาวฉัตรรพี กล่าวว่า เทคโนโลยี HPP จะสร้างแรงดันสูงโดยอาศัยน้ำเป็นสื่อกลางเพื่อถ่ายทอดความดันผ่านบรรจุภัณฑ์ของอาหารและเครื่องดื่ม ในระดับความดันที่สูง ถึง 6 เท่าของความดัน ณ จุดที่ลึกที่สุดของมหาสมุทร ทำให้สามารถทำลายหรือยับยั้ง จุลินทรีย์ได้มากกว่า 100,000 เท่า หรือ 99.999% ตามมาตรฐานที่เข้มงวด USFDA ของสหรัฐอเมริกา ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านกระบวนการนี้สามารถส่งออกไปยังสหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่นและอีกหลายประเทศทั่วโลก 

'พิน ฟู้ด เทค' ทุ่ม 80 ล้าน ผุดโรงงานพาสเจอไรซ์เย็น ดันอาหารไทยบุกตลาดโลก

ซึ่งการฆ่าเชื้ออาหารและเครื่องดื่ม จะทำภายหลังการบรรจุในภาชนะ ทำให้หมดกังวลเรื่องการปนเปื้อนของเชื้อโรค รวมถึงไม่ต้องพึ่งพากระบวนการบรรจุแบบปลอดเชื้ออย่าง Aseptic filling ที่ต้องใช้เงินลงทุนสูงและต้องมีกำลังการผลิตขนาดใหญ่ เทคโนโลยี HPP จึงเหมาะกับผู้ผลิต SME ที่ต้องการผลิตสินค้าเกรดพรีเมี่ยม นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมุ่งมั่นไปสู่การผลิตแบบ Zero-Waste และความเป็นกลางทางคาร์บอน เนื่องจากน้ำที่ใช้ในกระบวนการผลิตสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ รวมถึงบริษัทฯ มีแผนลงทุนพลังงานหมุนเวียน เพื่อให้กระบวนการผลิตมีคาร์บอนฟุตพริ้นท์ต่ำ สอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศปลายทาง ที่จะส่งออกอาหารไทยไปไกลทั่วโลก

'พิน ฟู้ด เทค' ทุ่ม 80 ล้าน ผุดโรงงานพาสเจอไรซ์เย็น ดันอาหารไทยบุกตลาดโลก