ส.อ.ท. ปลื้ม 'ทีมสุดซอย' ก.อุตสาหกรรม ลุยปราบโรงงานศูนย์เหรียญ

ส.อ.ท. ปลื้ม 'ทีมสุดซอย' ก.อุตสาหกรรม ลุยปราบโรงงานศูนย์เหรียญ

"ส.อ.ท." ชื่นชม “ทีมสุดซอย” กระทรวงอุตสาหกรรม ลุยเข้าทุกพื้นที่ เพื่อปราบโรงงานศูนย์เหรียญ พร้อมเร่งดำเนินการเอาผิดด้านกฎหมาย

ม.ล.ปีกทอง ทองใหญ่ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจ FTI CEO Poll ครั้งที่ 45 ในเดือนพฤษภาคม 2568 ภายใต้หัวข้อ “โรงงานศูนย์เหรียญ กระทบอุตสาหกรรมไทยแค่ไหน” 

จากผลสำรวจพบว่า การเข้ามาของกลุ่มทุนจากต่างประเทศเพื่อประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจกับพื้นที่ หรือที่เรียกว่า โรงงานศูนย์เหรียญนั้น ผู้บริหาร ส.อ.ท. ส่วนใหญ่มองว่า สร้างผลกระทบเชิงลบต่อภาคอุตสาหกรรมไทยอย่างมาก โดยเฉพาะประเด็นการหลีกเลี่ยงละเลยไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น

การลักลอบประกอบกิจการ การผลิตสินค้าไม่ได้มาตรฐาน การลักลอบเข้ามาทำงาน และการนำเข้าผิดกฎหมาย ซึ่งมองว่าสาเหตุของปัญหาโรงงานศูนย์เหรียญในไทยเกิดจากกฎหมายไทยที่มีช่องโหว่ ตลอดจนผลกระทบจากสงครามการค้าที่เร่งให้เกิดการย้ายฐานการผลิตเข้ามาสวมสิทธิ์สินค้าส่งออกไทยเพื่อหลบเลี่ยงถิ่นกำเนิดสินค้า

ผู้บริหาร ส.อ.ท. จึงเสนอขอให้ภาครัฐเข้มงวดในการออกใบอนุญาตประกอบการโรงงาน และบูรณาการตรวจสอบเชิงรุกปราบปรามการกระทำความผิด การใช้ธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว หรือนอมินี และการใช้บัญชีม้า ผ่านการเชื่อมโยงข้อมูลและพัฒนาระบบติดตามวิเคราะห์พฤติกรรมของนิติบุคคลที่เข้าข่ายนอมินี เช่น การจ่ายภาษี, การจ้างงาน, การนำเข้าและส่งออก, การใช้ไฟฟ้า เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังได้ชื่นชมการทำงานของกระทรวงอุตสาหกรรมที่ทุ่มเทในการจัดการโรงงานอุตสาหกรรมที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายและโรงงานศูนย์เหรียญ โดยส่วนใหญ่ให้คะแนนความพึงพอใจต่อการทำงานของ ทีมสุดซอย อยู่ในระดับ “มาก” ซึ่งถือเป็นโมเดลการทำงานที่ดีและมีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาโรงงานศูนย์เหรียญในปัจจุบัน

ส.อ.ท. ปลื้ม 'ทีมสุดซอย' ก.อุตสาหกรรม ลุยปราบโรงงานศูนย์เหรียญ

จากการสำรวจผู้บริหาร ส.อ.ท. (CEO Survey) จำนวน 145 ท่าน ครอบคลุมผู้บริหารจาก 47 กลุ่มอุตสาหกรรม และ 76 สภาอุตสาหกรรมจังหวัด มีสรุปผลการสำรวจ FTI CEO Poll ครั้งที่ 45 จำนวน 6 คำถาม ดังนี้

1. การเข้ามาของโรงงานศูนย์เหรียญจะส่งผลกระทบเชิงลบต่ออุตสาหกรรมไทยในระดับใด
อันดับ 1 : มาก 86.9%
อันดับ 2 : ปานกลาง 11.0%
อันดับ 3 : น้อย 2.1%

2. กลุ่มสินค้าใดจะได้รับผลกระทบจากการเข้ามาของโรงงานศูนย์เหรียญ
อันดับ 1 : เครื่องใช้ไฟฟ้า 70.3%
อันดับ 2 : วัสดุก่อสร้าง 46.9%
อันดับ 3 : อาหารแปรรูป อาหารเสริม และเครื่องสำอาง 26.2%
อันดับ 4 : สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม 25.5%

3. ปัญหาโรงงานศูนย์เหรียญในไทยเกิดจากสาเหตุใด
อันดับ 1 : กฎหมายที่มีช่องโหว่เป็นโอกาสเข้ามาลงทุนในไทย 74.5%
อันดับ 2 : การย้ายฐานการผลิตหนีผลกระทบจากสงครามการค้า 58.6%
อันดับ 3 : มาตรการส่งเสริมการลงทุนของไทย และสิทธิประโยชน์ต่างๆ 26.9%
อันดับ 4 : นโยบายและกฎหมายที่เข้มงวดในสิ่งแวดล้อมและการปล่อยมลพิษ 24.8% ของประเทศต้นทาง

4) ภาคอุตสาหกรรมมีความกังวลต่อผลกระทบจากโรงงานศูนย์เหรียญในเรื่องใด
อันดับ 1 : การไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น ลักลอบประกอบกิจการ 52.4% ผลิตไม่ได้มาตรฐาน ลักลอบเข้ามาทำงาน และนำเข้าผิดกฎหมาย 
อันดับ 2 : การนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศมาสวมสิทธิ์ไทยส่งออก (Re-Export) 50.3% เพื่อหลบเลี่ยงถิ่นกำเนิดสินค้า
อันดับ 3 : การใช้ไทยเป็นฐานการผลิตในอุตสาหกรรมที่มีมลพิษ 49.0% ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน
อันดับ 4 : ขีดความสามารถในการแข่งขันด้านต้นทุน และการแย่งส่วนแบ่งตลาด 22.8% ในประเทศและตลาดส่งออก

5)  ภาครัฐควรดำเนินมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาโรงงานศูนย์เหรียญอย่างไร
อันดับ 1 : เข้มงวดในการออกใบอนุญาตประกอบการโรงงาน 52.4% และบูรณาการตรวจสอบเชิงรุกปราบปรามการกระทำความผิด 
อันดับ 2 : ปราบปรามการใช้ธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว หรือนอมินี และบัญชีม้า 51.7%
อันดับ 3 : เชื่อมโยงข้อมูลและพัฒนาระบบติดตามวิเคราะห์พฤติกรรมของนิติบุคคล 31.7% เช่น การจ่ายภาษี, การจ้างงาน, การนำเข้าและส่งออก, การใช้ไฟฟ้า ฯลฯ 
อันดับ 4 : ปรับปรุงหลักเกณฑ์ในการออกใบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า Form C/O ทั่วไป 29.7% สำหรับรายการสินค้าเฝ้าระวัง และมีการตรวจสอบกระบวนการผลิต

6) ภาคอุตสาหกรรมให้คะแนนการทำงาน “ทีมสุดซอย” กระทรวงอุตสาหกรรม ในเรื่องการจัดการโรงงานที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายและโรงงานศูนย์เหรียญในระดับใด
อันดับ 1 : มาก 35.2%
อันดับ 2 : มากที่สุด 29.0% 
อันดับ 3 : ปานกลาง 24.8%
อันดับ 4 : น้อย 9.0%
อันดับ 5 : น้อยที่สุด 2.0%