ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นต่อ หลังศาลสั่งยกเลิกภาษีของทรัมป์

ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังศาลการค้าสหรัฐฯ ระงับการขึ้นภาษีแบบตอบโต้ของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ขึ้นภาษีศุลกากรกับประเทศคู่ค้าทั่วโลกเมื่อเดือนเมษายน
บลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (29 พ.ค.)ว่า ราคาน้ำมันดิบ พุ่งขึ้น หลังศาลการค้าสหรัฐฯ ระงับการขึ้นภาษีแบบตอบโต้ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยระบุว่าการขึ้นภาษีดังกล่าวเป็นสิ่งผิดกฎหมาย
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียต (ราคาน้ำมันWTI) พุ่งขึ้นเหนือ 62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากพุ่งขึ้น 1.6% ในช่วงก่อนหน้า ส่วน ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปิดตลาดใกล้ระดับ 65 ดอลลาร์ในวันพุธ
ในเดือนเมษายนการขึ้นภาษีน้ำมันครั้งใหญ่ของทรัมป์และมาตรการตอบโต้ของประเทศเป้าหมายทำให้ตลาดโลกปั่นป่วน และทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ
แต่คดีนี้ยังไม่ถึงที่สุด รัฐบาลสหรัฐสามารถยื่นอุทธรณ์คำตัดสินของศาลดังกล่าวข้างต้นได้
ราคาน้ำมันดิบ มีแนวโน้มลดลงตั้งแต่กลางเดือนมกราคม เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากภาษีน้ำมันของทรัมป์ โดยการกลับมาผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกพลัส (OPEC+) ทำให้เกิดแรงกดดันด้านลบ สมาชิกรายสำคัญของกลุ่มจะประชุมกันในวันเสาร์เพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการผลิตสำหรับเดือนกรกฎาคม และคาดว่าจะมีการปรับเพิ่มปริมาณการผลิตอีกครั้ง
สถาบันปิโตรเลียมอเมริการายงานว่า ปริมาณสำรองน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลง 4.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ตามเอกสารที่บลูมเบิร์กได้เห็น ข้อมูลอย่างเป็นทางการจะประกาศในวันพฤหัสบดีนี้
ราคาน้ำมันดิบ WTI สัญญาส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 0.6% แตะที่ 62.23 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 8.00 น. ตามเวลาในสิงคโปร์ หลังจากพุ่งขึ้นถึง 1.1% ก่อนหน้านี้
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนก.ค. ปิดตลาดวันพุธ พุ่งขึ้น 1.3% แตะที่ 64.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล







