“พิชัย” ถกทูตพาณิชย์ วางแนวทางส่งออกครึ่งปีหลัง ฝ่าวิกฤติภาษีทรัมป์ หวังส่งออกไทยโตเกิน 4%

“พิชัย” หารือ ทูตพาณิชย์ทั่วโลก - เอกชน บูรณาการทำงานเชิงรุก ดันส่งออกไทย พร้อม มอบ 10 นโยบายเร่งด่วน ขับเคลื่อนการค้าระหว่างประเทศ หวังส่งออกไทยโตเกิน 4 % ด้านเอกชนหนุนเปิดตลาดใหม่ลดความเสี่ยงทางการค้า
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมมอบนโยบายการปฏิบัติงานแก่ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ 58 แห่งทั่วโลก (สคต.) เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การการค้าโลก และองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก อัครราชทูต (ฝ่ายการพาณิชย์) สำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ (สคต.) และพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ เข้าร่วมกว่า 200 ราย และภาคเอกชน ว่า การประชุมในครั้งนี้เป็นการระดมพลทีมกระทรวงพาณิชย์ทั้งส่วนกลาง ส่วนต่างประเทศ และส่วนภูมิภาคอย่างพร้อมเพรียง เพื่อบูรณาการ การทำงานเชิงรุกในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลอย่างมีเอกภาพ และเชื่อมโยงกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการกำหนดแนวทางผลักดันการส่งออกในช่วงครึ่งปีหลัง ท่ามกลางความท้าทายจากมาตรการภาษีของสหรัฐ (Reciprocal Tariffs) และสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ผันผวน
โดยทูตพาณิชย์จากทั่วโลกได้นำเสนอแผนกลยุทธ์เจาะตลาดสำคัญ 5 กลุ่ม ได้แก่ สหรัฐอเมริกา อินเดีย ตะวันออกกลาง อาเซียน และจีน โดยเฉพาะการใช้ Soft Power สร้างกระแสนิยมสินค้าไทยในตลาดระดับบน การใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) และการบูรณาการระหว่างพาณิชย์จังหวัดและทูตพาณิชย์ในต่างประเทศ
ทั้งนี้ตนได้มอบนโยบาย 10 ประเด็นสำคัญ ให้แก่ทีมงานกระทรวงพาณิชย์ เพื่อ “พลิกวิกฤติเป็นโอกาส” โดยมีเป้าหมายหลักในการขยายตลาดส่งออก สร้างความเชื่อมั่น และเสริมบทบาทของไทยในเวทีการค้าโลก ได้แก่
1.ทิศทางของเศรษฐกิจไทยกำลังไปได้ดี โดยเฉพาะภาคการส่งออกที่ขยายตัว 10.2% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 และ 7 เดือน การส่งออกไทยเติบโตต่อเนื่องขยายตัวเฉลี่ยอยู่ที่ 12.5%
2.เดินหน้าเจรจามาตรการภาษีของสหรัฐ บนพื้นฐานความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และส่งเสริมการลงทุนระหว่างกัน
3.เร่งรัดการเจรจา และลงนาม FTA ใหม่ ทั้งกับกลุ่มประเทศ EFTA ภูฏาน EU สหราชอาณาจักร เกาหลีใต้ และอาเซียน-แคนาดา ซึ่งตนมีนัดพบกับนายมารอส เซฟโควิช กรรมาธิการยุโรปด้านการค้า ในวันที่ 4 มิ.ย.68 นี้ เพื่อผลักดันให้การเจรจา FTA กับ EU สำเร็จเร็วที่สุด โดยตั้งเป้าปิดดีลภายในปีนี้
4.ขับเคลื่อนมาตรการบริหารจัดการผลไม้ 7 มาตรการ 25 แผนงาน ทั้งด้านตลาด ความเชื่อมั่น การแปรรูป และการอำนวยความสะดวก
5.เปิดตลาดใหม่ให้สินค้าเกษตรสำคัญ เช่น ข้าวและมันสำปะหลัง
6.แก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรในพื้นที่อย่างทันท่วงที โดยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งใน และต่างประเทศ
7.ประชาสัมพันธ์ตราสัญลักษณ์ Thai SELECT โฉมใหม่ เพื่อยกระดับภาพลักษณ์อาหารไทยในตลาดโลก
8.ส่งเสริมการบูรณาการทำงานไร้รอยต่อระหว่างพาณิชย์จังหวัดและทูตพาณิชย์
9.สื่อสารผลงานของกระทรวงพาณิชย์เชิงรุก สร้างความเข้าใจในบทบาท และภารกิจของกระทรวง
10. เน้นทำงานร่วมกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด ในทุกมิติของการค้า และการส่งออก
“หัวใจของความสำเร็จในการขับเคลื่อนการส่งออก คือ การมีส่วนร่วมของภาคเอกชน โดยประชุมร่วมระหว่างรัฐ และเอกชนทุกไตรมาส เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะ และตอบสนองต่อสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงทีผมเชื่อมั่นว่า หากเราทำงานเป็นทีม ทำงานเชิงรุก และเชื่อมโยงกันอย่างมีเอกภาพ เราจะสามารถนำพาเศรษฐกิจไทยฝ่าวิกฤติ และเติบโตได้อย่างมั่นคง แม้ต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยง และความไม่แน่นอนที่ถาโถมเข้ามาในปีนี้ ซึ่งหวังว่าการส่งออกของไทยทั้งปี น่าจะโตได้เกิน 4 %”นายพิชัย กล่าว
นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า หอการค้าไทยยินดีที่ได้รับฟังแนวทางทั้งระยะสั้น กลาง และยาวจากรัฐมนตรี โดยเฉพาะระยะสั้นประเด็นภาษีของสหรัฐ ที่ต้องเร่งแก้ไขร่วมกัน ซึ่งแนวทางของกระทรวงพาณิชย์เดินมาถูกทางแล้ว
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การทำงานเชิงรุกของกระทรวงพาณิชย์ช่วยให้ภาคเอกชนวางแผนได้ชัดเจนยิ่งขึ้น และพร้อมจะสนับสนุนเต็มที่ในภาวะที่การแข่งขันรุนแรง ซึ่งตัวเลขการส่งออกที่ผ่านมาถือว่ายังดีอยู่แม้จะถูกกระทบจากภาษีทรัมป์ อย่างไรก็ตามไทยจะต้องกระจายความเสี่ยงไปยังตลาดอื่นๆ ไม่พึ่งตลาดหลักเพียงตลาดเดียว โดยจะต้องแสวงหาความร่วมมือตลาดใหม่ เช่น กลุ่มอาหรับหรือGCC อินเดีย อียู โดยเราจะต้องเร่งปิดดีลเอฟทีเอไทย-อียูให้ได้โดยเร็ว
นายธนากร เกษตรสุวรรณ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า วันนี้ได้เห็นภาพการประชุมร่วมกันกับกระทรวงพาณิชย์ไปในทิศทางที่ดีมาก เป็นมิติของโปรแอคทีฟทางเราเห็นว่าการค้าระหว่างประเทศเราน่าจะไปได้ดี ซึ่งกระทรวงพาณิชย์พร้อมเป็นนักรบทางการค้าระหว่างประเทศ ซึ่ง สรท.อยากเห็นการปรับโครงสร้างการค้าของไทยให้เป็นประเทศสู่ชาติการค้า (Trading Nation Long-Term Strategy)
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







