รฟท. เปิดทางคู่ ‘ลพบุรี - ปากน้ำโพ’ ลดเวลาเดินทางสายเหนือ 1 ชั่วโมง

การรถไฟฯ เปิดบริการทางคู่ ช่วงลพบุรี - ปากน้ำโพ หนุนเดินทางสายเหนือลดระยะเวลาสูงสุด 1 ชั่วโมง เตรียมปรับเส้นทางการเดินรถ ดันใช้สถานีลพบุรี 2 สิ้นปีนี้
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า วันนี้ (26 ก.ค.68) รฟท.พร้อมเปิดให้บริการโครงการรถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ หลังจากดำเนินการก่อสร้างตามแผนพัฒนารถไฟทางคู่ ระยะที่ 1 แล้วเสร็จ และปัจจุบันอยู่ระหว่างติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปลายปีนี้ แต่เนื่องด้วยโครงสร้างงานโยธามีความพร้อมแล้ว รฟท.จึงสามารถเปิดให้บริการเพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนได้ทันที โดยระหว่างนี้จะใช้ระบบทางสะดวกอิเล็กทรอนิกส์ (E-token) ในการเดินรถ ซึ่งมีความปลอดภัยเป็นไปตามมาตรฐาน
“หลังเปิดให้ใช้ทางคู่ช่วงลพบุรี - ปากน้ำโพ จะทำให้ขบวนรถไฟสายเหนือเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังเชียงใหม่ ใช้เวลาลดลง แบ่งเป็น ขบวนรถด่วน และด่วนพิเศษจะลดลง ประมาณ 25 นาที และขบวนรถธรรมดาจะลดลงมากถึง 1 ชั่วโมง เนื่องจากไม่ต้องสับเปลี่ยนรางเพื่อหลีกทางให้ขบวนด่วนแล้ว และในอนาคตเมื่อรถไฟทางคู่แล้วเสร็จทั้งระยะที่ 1 และระยะที่ 2 จะช่วยลดระยะเวลาเดินทางไปเชียงใหม่สูงสุด 2.20 ชั่วโมง เหลือประมาณ 12 ชั่วโมง แข่งขันกับการเดินทางด้วยรถยนต์ได้”
อย่างไรก็ดี การเปิดให้บริการรถไฟทางคู่ สายลพบุรี - ปากน้ำโพ หลังจากนี้ รฟท.มีกำหนดปรับตารางการเดินรถไฟสายเหนืออย่างเป็นทางการในวันที่ 30 พ.ค.2568 เพื่อให้สอดคล้องกับการเปิดให้บริการเส้นทางรถไฟทางคู่ช่วงดังกล่าว หลังจากนั้นเมื่อติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณแล้วเสร็จในปลายปีนี้ จึงจะปรับตารางการเดินรถอีกครั้ง รวมทั้งจะปรับเส้นทางการให้บริการส่วนของสถานีลพบุรีเดิม โดยขบวนรถเร็ว รถด่วน และด่วนพิเศษ จะไม่เดินรถผ่านสถานีลพบุรี แต่จะปรับมาให้บริการผ่านสถานีลพบุรี 2 ที่สร้างใหม่ และจะเปิดบริการเป็นทางการวันที่ 5 ธ.ค.68 นี้
นายวีริศ กล่าวด้วยว่า สาเหตุของการปรับแนวเส้นทางมายังสถานีลพบุรี 2 ซึ่งขนานไปกับทางหลวงหมายเลข 366 เนื่องจากการก่อสร้างทางคู่จำเป็นต้องเวนคืนที่ดินเพิ่ม ซึ่งที่ต้องของสถานีลพบุรีเดิมอยู่ในพื้นที่ชุมชน และบริเวณโบราณสถานพระปรางค์สามยอด ทำให้ รฟท.ต้องปรับย้ายสถานีลพบุรี 2 ซึ่งห่างจากสถานีเดิมประมาณ 10 กิโลเมตร และเพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนเดินทาง รฟท.จะประสานกับกรมการขนส่ง และจังหวัดลพบุรี เพื่อจัดรถโดยสารเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างสถานี
ทั้งนี้ รฟท.ขอแจ้งประกาศปรับเปลี่ยนเวลาเดินรถไฟสายเหนือ จำนวน 5 ขบวน ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค.2568 เพื่อให้สอดคล้องกับการเปิดให้บริการเส้นทางรถไฟทางคู่ช่วงดังกล่าว ดังนี้
1. ขบวนรถเร็วที่ 102 เส้นทางเชียงใหม่ – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
2. ขบวนรถธรรมดาที่ 207 เส้นทางกรุงเทพ (หัวลำโพง) – นครสวรรค์
3. ขบวนรถธรรมดาที่ 210 เส้นทางบ้านตาคลี – กรุงเทพ (หัวลำโพง)
4. ขบวนรถธรรมดาที่ 211 เส้นทางกรุงเทพ (หัวลำโพง) – ตะพานหิน
5. ขบวนรถท้องถิ่นที่ 408 เส้นทางเชียงใหม่ – นครสวรรค์
ผู้โดยสารสามารถติดตามเวลาการเดินรถแบบเรียลไทม์ ผ่านระบบ Train Tracking System (TTS) ที่สามารถตรวจสอบเวลา และตำแหน่งขบวนรถทุกขบวนได้แบบทันที ช่วยให้ผู้โดยสาร และผู้ที่มารอรับสามารถวางแผนการเดินทางได้อย่างสะดวก และแม่นยำยิ่งขึ้น สร้างความมั่นใจในการเดินทางแก่ผู้โดยสารตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง
สำหรับโครงการรถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ มีแนวเส้นทางเริ่มตั้งแต่สถานีบ้านกลับ จังหวัดสระบุรี ไปสิ้นสุดที่สถานีปากน้ำโพ จังหวัดนครสวรรค์ ครอบคลุมสถานีให้บริการทั้งหมด 19 แห่ง และที่หยุดรถอีก 5 แห่ง รวมถึงศูนย์ควบคุมการเดินรถ (Central Traffic Control) แห่งใหม่ ณ สถานีนครสวรรค์ และย่านกองเก็บและขนถ่ายตู้สินค้า (CY) อีก 1 แห่ง ณ สถานีเขาทอง ซึ่งสามารถรองรับทั้งผู้โดยสารและสินค้าตลอดแนวเส้นทาง 148 กิโลเมตร
โครงการรถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ ระหว่างสถานีบ้านกลับ จังหวัดสระบุรี ถึงสถานีโคกกระเทียม จังหวัดลพบุรี ยังมีไฮไลต์สำคัญของโครงการ คือ “ทางรถไฟยกระดับยาวที่สุดในประเทศไทย” ระยะทางกว่า 19 กิโลเมตร ความสูงเฉลี่ย 10–20 เมตร
โดยการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ แบ่งออกเป็น 3 สัญญาหลัก ได้แก่
สัญญาที่ 1 ช่วงบ้านกลับ – โคกกระเทียม ระยะทาง 32 กิโลเมตร มีโครงสร้างทางยกระดับ 19 กิโลเมตร และระดับพื้น 13 กิโลเมตร พร้อมสถานีลพบุรี 2 ที่ขนานไปกับทางหลวงหมายเลข 366
สัญญาที่ 2 ช่วงท่าแค – ปากน้ำโพ ระยะทาง 116 กิโลเมตร เป็นทางระดับพื้นทั้งหมด มีสถานีใหม่ 6 แห่ง และสถานีที่ก่อสร้างทดแทน 11 แห่ง และ
สัญญาที่ 3 ระบบอาณัติสัญญาณ และโทรคมนาคม ซึ่งจะมีการใช้ระบบทางสะดวกอิเล็กทรอนิกส์ (E-token) ในการเดินรถระหว่างที่มีการติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ โดยระบบอาณัติสัญญาณจะทยอยเริ่มเปิดใช้งาน และคาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ปลายปีนี้
นอกจากนี้ โครงการรถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ ยังเชื่อมต่อไปยังโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 ในช่วงปากน้ำโพ – เด่นชัย และช่วงเด่นชัย – เชียงใหม่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขออนุมัติโครงการ ทั้งนี้ หากโครงการต่างๆ ดำเนินการแล้วเสร็จ จะทำให้ขบวนรถตรงต่อเวลามากขึ้น และสามารถลดระยะเวลาในการเดินทางลง เนื่องจากไม่ต้องหยุดรอหลีกทาง
ทั้งนี้ รฟท.มั่นใจว่า การเปิดเดินรถในโครงการรถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ เป็นอีกก้าวสำคัญที่จะช่วยเติมเต็มโครงข่ายระบบรางของประเทศให้ครอบคลุม และเชื่อมโยงทุกภูมิภาคเข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน แต่ยังเชื่อมโยงพื้นที่เศรษฐกิจตามแนวเส้นทาง ทั้งการขนส่งสินค้าและการท่องเที่ยว ให้เติบโตอย่างมั่นคง และยั่งยืนในระยะยาว
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







