ส่อง พรบ.การรถไฟฟ้าฯ ฉบับใหม่ เอื้อนโยบาย '20 บาทตลอดสาย'

ส่อง พรบ.การรถไฟฟ้าฯ ฉบับใหม่ เอื้อนโยบาย '20 บาทตลอดสาย'

เปิดสาระสำคัญ พรบ.การรถไฟฟ้าฯ ฉบับใหม่ หลัง "คมนาคม" ชงเข้า ครม.ปรับแก้หนุนนโยบาย "รถไฟฟ้า 20 บาท" ดึงเงินสะสม รฟม.ชดเชยรายได้ผู้ประกอบการ

KEY

POINTS

  • เปิดสาระสำคัญ พรบ.การรถไฟฟ้าฯ ฉบับใหม่ หลัง “คมนาคม” ชงเข้า ครม.ปรับแก้หนุนนโยบาย “รถไฟฟ้า 20 บาท”
  • ดึงเงินสะสม รฟม.ชดเชยรายได้ผู้ประกอบการ เดินหน้าตามเป้าหมายประชาชนได้ใช้บริการครบทุกเส้นทางภายใน ก.ย.นี้

 

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ประกาศเดินหน้า “รถไฟฟ้า 20 บาท” ทุกสีทุกสายภายในเดือน ก.ย.นี้ โดยระบุถึงความคืบหน้าของนโยบายดังกล่าวว่า กระทรวงฯ ได้มีการหารือร่วมกับกระทรวงการคลัง และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อผลักดันเรื่องนี้ให้เป็นไปตามเป้าหมาย

อย่างไรก็ดี สถานการณ์ดำเนินงานในปัจจุบันอยู่ระหว่างการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และ พ.ร.บ. การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. …. เพื่อนำไปสู่การดำเนินการจัดตั้งกองทุนส่งเสริม “ตั๋วร่วม” ในการนำเงินไปชดเชยส่วนต่างของรายได้ค่าโดยสารให้แก่ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าสายต่างๆ จากการเก็บค่าโดยสารในอัตรา 20 บาทตลอดสาย

สำหรับการหารือครั้งนี้ กระทรวงการคลังมีความยินดี และพร้อมให้การสนับสนุนการดำเนินนโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย โดยเฉพาะแนวทางในด้านงบประมาณที่จะนำไปชดเชยรายได้ให้กับผู้ประกอบการรถไฟฟ้า ผ่านการแก้ไข พ.ร.บ. 2 ฉบับ คือ พ.ร.บ. รฟม. และ พ.ร.บ.ตั๋วร่วม เบื้องต้นคาดว่ากระบวนการทั้งหมดจะแล้วเสร็จ และประกาศใช้ค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายครบทุกสี ทุกสาย ทุกเส้นทาง ภายในเดือน ก.ย.นี้ อย่างแน่นอน

ในด้านของการใช้สิทธิ์ค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายนั้น ยังคงเป็นไปตามเงื่อนไขเดิม โดยจำกัดเฉพาะผู้ที่มีเลขบัตรประชาชนไทย 13 หลักเท่านั้น และต้องลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้ลงทะเบียนในช่วงเดือน ส.ค.นี้ โดยกระทรวงฯ ย้ำว่าการใช้บริการจะไม่ซับซ้อนหรือยุ่งยากแต่อย่างใด และมีเจตนาที่จะให้พี่น้องประชาชนสามารถเข้าถึงได้มากที่สุด เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพในการเดินทาง

สำหรับการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ล่าสุดได้ผ่านการเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากนี้ พ.ร.บ. ดังกล่าวจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวาระ 1, 2, และ 3 ตามลำดับ สอดคล้องไปกับการดำเนินการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ตั๋วร่วม ซึ่งเรื่องนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาวาระ 2

สำหรับ พ.ร.บ. รฟม.ฉบับปรับปรุงนี้ มีสาระสำคัญเปลี่ยนแปลง อาทิ

ให้ รฟม.มีอำนาจในการออกพันธบัตรหรือตราสารอื่นใดเพื่อใช้ในการลงทุน หรือเพื่อประโยชน์แก่กิจการและการดำเนินงานของ รฟม. เพื่อให้คล่องตัว และครอบคลุมยิ่งขึ้น

- เดิม มาตรา 9 (6) ให้ รฟม.มีอำนาจออกพันธบัตรหรือตราสารอื่นใดเพื่อใช้ในการลงทุน

ให้ รฟม.มีอำนาจในการจัดหาประโยชน์ในทรัพย์สินของ รฟม. เพื่อสนับสนุนพัฒนากิจการรถไฟฟ้า หรือเพื่อประโยชน์ในการดำเนินงานของ รฟม. เพื่อกำหนดอำนาจของ รฟม. ให้สอดคล้องกับการเพิ่มวัตถุประสงค์ของ รฟม.

- เดิม มาตรา 9 (11) ให้ รฟม. มีอำนาจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของ รฟม. ตามความจำเป็นเพื่อประโยชน์แก่การให้บริการกิจการรถไฟฟ้า

ให้ รฟม.ดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยตั๋วร่วมในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ รฟม. มีอำนาจดำเนินการตามกฎหมายเกี่ยวกับตั๋วร่วมในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานหรือการให้บริการขนส่งสาธารณะของ รฟม.

- เดิม ไม่ได้กำหนด

แก้ไขเพิ่มเติมรายการที่สามารถหักจากรายได้ของ รฟม.ก่อนนำส่งคลัง ให้รวมถึงค่าภาระต่างๆ เงินสำรอง เงินสมทบกองทุนสงเคราะห์หรือการสงเคราะห์อื่น เงินลงทุน ทั้งนี้ ตามระเบียบที่กระทรวงการคลังกำหนด และให้รวมถึงเงินเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมในบริการขนส่งสาธารณะที่เกี่ยวข้องกับกิจการรถไฟฟ้า โดยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจ่ายและส่งเงินคืน ให้เป็นไปตามที่รัฐมนตรีกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี เพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ของ รฟม. และให้ รฟม. สามารถดำเนินภารกิจตามนโยบายของรัฐบาลได้

- เดิม รายได้ที่ รฟม. ได้รับจากการดำเนินการในปีหนึ่งๆ ให้ตกเป็นของ รฟม. สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และเมื่อได้หักรายจ่ายสำหรับการดำเนินงาน เช่น ค่าบำรุงรักษา ค่าเสื่อมราคา เงินสมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแล้ว เหลือเท่าใดให้นำส่งเป็นรายได้ของรัฐ ทั้งนี้ ตามระเบียบที่กระทรวงการคลังกำหนด

รฟม.ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อนจึงจะดำเนินการ กู้ยืมเงินเกินกว่าห้าร้อยล้านบาท

- เดิม กู้ยืมเงินเกินหนึ่งร้อยล้านบาท

รฟม.ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อนจึงจะดำเนินการ ออกพันธบัตรหรือตราสารอื่นใดเพื่อใช้ในการลงทุน หรือเพื่อประโยชน์แก่กิจการรถไฟฟ้า หรือเพื่อการดำเนินงานอื่นใดของ รฟม.

- เดิม ออกพันธบัตรหรือตราสารอื่นใดเพื่อใช้ในการลงทุน

รฟม.ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อนจึงจะดำเนินการ จำหน่ายอสังหาริมทรัพย์อันมีมูลค่าเกินกว่าห้าร้อยล้านบาท

- เดิม จำหน่ายอสังหาริมทรัพย์

รฟม.ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อนจึงจะดำเนินการ ให้เช่าหรือให้สิทธิใดๆ ในอสังหาริมทรัพย์ซึ่งมีมูลค่าเกินกว่าห้าร้อยล้านบาท

- เดิม ให้เช่าหรือให้สิทธิใดๆ ในอสังหาริมทรัพย์ซึ่งมีมูลค่าเกินสิบล้านบาท

รฟม.ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อนจึงจะดำเนินการ จัดหาประโยชน์ในทรัพย์สินของ รฟม. เพื่อสนับสนุน พัฒนา กิจการรถไฟฟ้า หรือเพื่อประโยชน์ในการดำเนินงานของ รฟม. ซึ่งมีมูลค่าเกินกว่าห้าร้อยล้านบาท

- เดิม พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของ รฟม.ตามความจำเป็นเพื่อประโยชน์แก่การให้บริการกิจการรถไฟฟ้า