ปั้น ‘สุวรรณภูมิ’ ฮับโลจิสติกส์อาเซียน พื้นที่ 5.8 หมื่นตารางเมตร

ปั้น ‘สุวรรณภูมิ’ ฮับโลจิสติกส์อาเซียน พื้นที่ 5.8 หมื่นตารางเมตร

ทอท.เปิดแผนปั้น “สุวรรณภูมิ” ฮับโลจิสติกส์อากาศของอาเซียน จ่อพัฒนาพื้นที่ 58,000 ตารางเมตร ข้างคลังสินค้าหลังที่ 4 เป็น Mixed-Use Logistic Center

นางสาวปวีณา จริยฐิติพงศ์ รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เป็นประธานเปิดงาน โครงการสร้างความร่วมมือการดำเนินงานในเขตปลอดอากรและคลังสินค้า: Cargo Network ประจำปีงบประมาณ 2568 พร้อมระบุว่า โครงการ Cargo Network ครั้งนี้มีผู้แทนจากภาครัฐ สมาคมด้านโลจิสติกส์ และพันธมิตรจากต่างประเทศ เช่น Hong Kong Air Cargo Terminals Limited และ Hong Kong Logistics Association เข้าร่วม นับเป็นอีกหนึ่งสัญญาณบวกของการพัฒนาระบบขนส่งสินค้าทางอากาศของประเทศที่ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบกาาในอุตสาหกรรมการบิน 

ปั้น ‘สุวรรณภูมิ’ ฮับโลจิสติกส์อาเซียน พื้นที่ 5.8 หมื่นตารางเมตร

โดยโครงการดังกล่าวมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการยกระดับระบบขนส่งสินค้าทางอากาศ ซึ่ง ทอท.จะมุ่งเน้นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านโลจิสติกส์ (Air Cargo Ecosystem) ที่ทันสมัย ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจขนส่งระหว่างประเทศ และการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจระดับโลก

ทั้งนี้ หนึ่งในกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการ คือการส่งเสริมรูปแบบการขนส่งสินค้าแบบ Bulk Utilization Program (BUP) คือ การเพิ่มความสามารถในการรองรับสินค้า นำส่งสินค้าไปยังอากาศยานมีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น รวมทั้งช่วยลดต้นทุนทางด้านโลจิสติกส์ของผู้ประกอบการขนส่งสินค้าในระยะยาว 

ปั้น ‘สุวรรณภูมิ’ ฮับโลจิสติกส์อาเซียน พื้นที่ 5.8 หมื่นตารางเมตร

ทั้งนี้ปัจจุบัน ทอท. ได้สนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยใช้ระบบ BUP ร่วมกับคลังสินค้าหลักของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้แก่ คลังสินค้าบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) คลังสินค้าบริษัท ดับบลิวเอฟเอสพีจีคาร์โก้ จำกัด ซึ่งรูปแบบการขนส่งสินค้า BUP เป็นมาตรฐานระดับสากลที่ประสบความสำเร็จแล้วในสนามบินชั้นนำ เช่น ท่าอากาศยานฮ่องกง และท่าอากาศยานชางงี สิงคโปร์ โดย ทอท.ได้นำมาปรับใช้เพื่อยกระดับศักยภาพท่าอากาศยานสุวรรณภูมิให้สามารถแข่งขันได้ในระดับภูมิภาคและระดับโลก 

นอกจากนี้ ทอท.ยังวางแผนพัฒนาพื้นที่ว่างขนาด 58,000 ตารางเมตร ข้างคลังสินค้าหลังที่ 4 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อจัดตั้งเป็น Mixed-Use Logistic Center รองรับกิจกรรมขนส่งยุคใหม่ เช่น ธุรกิจ e-commerce และระบบจัดส่งแบบ Smart Logistics ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญในการดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลก และผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์อากาศของอาเซียนอย่างแท้จริง