OR ลุยอีกยกซื้อธุรกิจร้านอาหาร ถอดบทเรียน Texas Chicken-Kouen

ถอดบทเรียน Texas Chicken-Kouen 'OR' ลุยอีกยก! จ่อซื้อธุรกิจร้านอาหารประเภทบริการด่วนอีกครั้ง จ่อปิดดีล “ร้านอาหารบริการด่วน” เจ้าใหม่ คาดชัดต้นไตรมาส 3 ปีนี้
KEY
POINTS
- OR คาดว่าช่วงกลางปี 2568 หรือประมาณช่วงต้นไตรมาส 3 ปี 2568 จะเริ่มเห็นความชัดเจนดีลใหม่ในธุรกิจไลฟ์สไตล์ เกี่ยวกับร้านอาหารประเภทบริการด่วน (Quick Service)
- ธุรกิจไลฟ์สไตล์ OR มีสัดส่วน 38.5% ซึ่งแผนธุรกิจจะเน้นการลงทุนลักษณะ M&A และ JV ที่จะเข้ามา โดยเฉพาะ Cafe Amazon สามารถรักษาระดับยอดขายขั้นต่ำ 100 ล้านแก้วได้ในไตรมาส 2/2568
- OR ได้ยุติธุรกิจเกี่ยวกับร้านอาหารประเภทบริการด่วนแบรนด์ "Texas Chicken-Kouen" และจะเน้นธุรกิจที่ทำกำไร โดยจะกระจายการลงทุนไปสู่ธุรกิจใหม่ของ OR ที่สนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่อย่างครบวงจร
ธุรกิจร้านอาหารประเภทบริการด่วน หรือที่รู้จักกันในชื่อ Quick Service Restaurants (QSR) ถือว่ามีการแข่งขันที่ดุเดือด แต่ก็ยังคงเป็นหนึ่งในภาคส่วนที่เติบโตและสร้างรายได้มหาศาลให้กับอุตสาหกรรมอาหารอย่างต่อเนื่อง
จากพฤติกรรมปัจจุบันที่ผู้บริโภคมีความต้องการความสะดวกสบาย ความรวดเร็ว และราคาที่เข้าถึงได้ ทำให้ QSR ยังคงเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับมื้ออาหารในชีวิตประจำวัน
การเติบโตได้ขยายตัวไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั้งในรูปแบบของสาขาใหม่ๆ และการปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการให้เข้ากับวิถีชีวิตของผู้คนในปัจจุบัน เช่น การเพิ่มบริการ Drive-Thru การพัฒนาแอปพลิเคชันสั่งอาหารและเดลิเวอรี่ รวมถึงการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการร้านค้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน สร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับผู้ประกอบการท่ามกลางภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป
รายงานข่าวระบุว่า จากกรณีที่นางสาววิไลวรรณ กาญจนกันติ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านบริหารการเงิน บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยในการประชุม Opportunity Day เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2568 ว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาดีล M&A ทั้งธุรกิจไลฟ์สไตล์ (Lifestyle) และ ธุรกิจโมบิลลิตี้ (Mobility)
ทั้งนี้ คาดว่าช่วงกลางปี 2568 หรือประมาณช่วงต้นไตรมาส 3 ปี 2568 จะเริ่มเห็นความชัดเจนดีลใหม่ในธุรกิจไลฟ์สไตล์ เกี่ยวกับร้านอาหารประเภทบริการด่วน (Quick Service)
โดยความคืบหน้าการร่วมทุนกับพันธมิตร บริษัทอยู่ระหว่างการวิเคราะห์พันธมิตรที่เข้ามาจะเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัทในด้านใดบ้าง และในระยะยาวจะส่งผลต่อบริษัทอย่างไรบ้าง คาดว่าหากมีความคืบหน้าที่ชัดเจนจะแจ้งให้ทราบต่อไป
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจไลฟ์สไตล์มีสัดส่วน 38.5% ซึ่งแผนธุรกิจจะเน้นการลงทุนลักษณะ M&A และ JV ที่จะเข้ามา ซึ่งยังคงได้รับอานิสงส์จากสภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อนในไตรมาสนี้ ส่งผลทำให้ยอดขายร้าน Cafe Amazon ดีขึ้นมาก ซึ่งคาดว่าจะยังสามารถรักษาระดับยอดขายขั้นต่ำ 100 ล้านแก้วได้ในไตรมาส 2 ปี 2568 ต่อเนื่องจากไตรมาส 1 ปี 2568 มียอดขาย 104 ล้านแก้ว และอิบิทด้าธุรกิจนี้ยังแข็งแกร่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธุรกิจไลฟ์สไตล์ถือเรือธงของ OR โดยที่ผ่านมา OR และมองว่า ตลาดธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน (Quick Service Restaurant :QSR) หรือ ฟาสต์ฟู้ดจะช่วยเสริมความต้องการของลููกค้าได้ ที่มีพฤติกรรมชอบความสะดวก รวดเร็ว และมักซื้ออาหารไปทานและเครื่องดื่มไปพร้อมกันในที่เดียว
ยกตัวอย่างแบรนด์ที่ยังคงมีความนิยมและขยายสาขาออกมาอย่างต่อเนื่อง เช่น เคเอฟซี, เชสเตอร์กริลล์ หรือแม้แต่แมคโดนัลด์ เป็นต้น ที่ราคาการขายอยู่ในระดับที่ไม่สูงมากนัก ซึ่งยังคงตอบรับพฤติกรรมทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่ชอบความสะดวกสะบายครบจบในที่เดียว
ดังนั้น หากย้อนธุรกิจไลฟ์สไตล์ของ OR เกี่ยวกับร้านอาหารที่ภูก OR ยุติการดำเนินธุรกิจเร็วๆ นี้ คือ "Texas Chicken" โดยวันที่ 16 ก.ย.2567 "ดิษทัต ปันยารชุน" อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร OR ได้ตัดสินใจยุติการดำเนินธุรกิจเท็กซัส ชิคเก้น และทยอยปิดทุกสาขาภายในเดือนก.ย.2567 และปรับปรุงการลงทุน ในธุรกิจต่างๆ ที่ OR ได้เข้าไปลงทุนก่อนหน้านี้ เพื่อประเมินความเหมาะสมและปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและเป้าหมายในอนาคต รวมถึงสอดรับกับนโยบายของ "คงกระพัน อินทรแจ้ง" CEO บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ที่ต้องการตัดทิ้งธุรกิจที่ไม่ถนัดและไม่ทำกำไร
พร้อมให้เหตุผลว่า จะกระจายการลงทุนไปสู่ธุรกิจใหม่ของ OR นอกเหนือจากธุรกิจหลักด้านน้ำมันและค้าปลีก เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจไลฟ์สไตล์และธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่อย่างครบวงจร สร้างโอกาสใหม่และเสริมความแข็งแกร่งให้กับพอร์ตโฟลิโอธุรกิจ พร้อมมุ่งเน้นการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนในทุกมิติ
ส่วนเพจ Texas Chicken Thailand ได้ประกาศหน้าเพจว่า Texas Chicken จะปิดตัวลงทุกสาขา ภายในวันที่ 30 ก.ย. 2567 โดยโพสต์ข้อความระบุว่า ถึงเวลาบอกลา Texas Chicken หลัง 9 ปีแห่งความทรงจำอันแสนอร่อย
นอกจากนี้ ภายใต้การบริหารของ "ดิษทัต" ได้ยุติธุรกิจแบรนด์ "Kouen" เช่นกันในช่วงปลายปี 2567 โดยถอนการลงทุนในบริษัท อิ่มทรัพย์โกลบอล คูซีน จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น ชื่อ Kouen, Ono Sushi และร้านอาหารแบรนด์อื่น ๆ ธุรกิจที่ OR เข้ามาลงทุนเป็นผู้ถือหุ้นในสัดส่วน 25% ผ่านบริษัท มอดูลัส เวนเจอร์ จำกัด บริษัทย่อย ในเดือนต.ค. 2564 วงเงินไม่เกิน 192 ล้านบาท โดยการขายหุ้นในบริษัท อิ่มทรัพย์โกลบอล คูซีน จำกัด เป็นการขายออกในมูลค่า 110 ล้านบาท
ซึ่งการขายหุ้น อิ่มทรัพย์โกลบอล คูซีน ออกไป เพราะ OR ต้องการตัดธุรกิจที่ไม่เติบโต หรือสามารถทำกำไรได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ออก และหันมาให้ความสำคัญกับธุรกิจที่สร้างผลกำไรกลับมา รวมถึงธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตในอนาคตแทน โดยไม่จำกัดว่าเป็นธุรกิจของ OR หรือร่วมทุน
อย่างไรก็ตาม "ดิษทัต" ยังได้จับมือกับ "สุกิ โฮลดิ้งส์" เครือข่ายร้านขายยาและผู้นำด้านแพลตฟอร์มนาโนเทคโนโลยีรายใหญ่ของญี่ปุ่นขยายพอร์ตโฟลิโอสู่ธุรกิจสุขภาพและความงามจากการมองเห็นโอกาสการเติบโตของเทรนด์ผู้บริโภคหันมาใส่ใจดูแลตัวเองมากขึ้นอีกด้วย
สำหรับการลงทุนใน "อิ่มทรัพย์ โกบอล คูซีน" ของ OR ในปี 2564 ถือเป็นปีเดียวกับที่ "จิราพร ขาวสวัสดิ์" อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร OR ซึ่งมีการลงทุนในธุรกิจต่าง ๆ อาทิ โอ้กะจู๋, Flash Group, คามุ คามุ รวมถึงจัดตั้งบริษัทใหม่ ๆ จำนวนมาก
จึงเป็นที่น่าจับตาว่า OR ภายใต้การบริหารของ “ม.ล.ปีกทอง ทองใหญ่” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร OR คนปัจจุบัน จะร่วมมือกับธุรกิจ Quick Serviceอาหารแบรนด์ไหนซึ่งอาจจะเป็นช่องทางในการเพิ่มสัดส่วนธุรกิจในอนาคต ซึ่งความน่าจะเป็นเพื่อให้สู้กับ Quick Service ปัจจุบันจะต้องเป็นแบรนด์ที่ใหญ่และต้องใช้เงินมากพอสมควร จึงต้องรอจับตาในช่วงกลางปีหรือในไตรมาส 3 ของปีนี้ให้ดี!







