ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงในวันพุธ หลังรัฐบาลสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลอุปทานน้ำมันดิบและเชื้อเพลิงที่ปรับตัวขึ้นก่อนที่ฤดูกาลขับรถช่วงฤดูร้อนของสหรัฐฯ จะเริ่มต้นขึ้น

รอยเตอร์รายงานภาวะตลาดน้ำมันดิบวันพุธ (21 พ.ค.) ว่า ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงในวันพุธ หลังรัฐบาลสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลอุปทานน้ำมันดิบและเชื้อเพลิงที่ปรับตัวขึ้นก่อนที่ฤดูกาลขับรถช่วงฤดูร้อนของสหรัฐฯ จะเริ่มต้นขึ้น ซึ่งเป็นช่วงที่ความต้องการน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น

ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 1% หลังมีรายงานว่าอิสราเอลอาจเตรียมโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน ทำให้เกิดความกังวลว่าอุปทานในตะวันออกกลางจะหยุดชะงัก

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์สัญญาซื้อขายล่วงหน้าลดลง 47 เซ็นต์ หรือ 0.72% ปิดที่ 64.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียตของสหรัฐฯ(WTI) ลดลง 46 เซ็นต์ หรือ 0.74% ปิดที่ 61.57 ดอลลาร์

 

ข้อมูลสต๊อกน้ำมัน ดังกล่าวทำให้ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าพลิกเป็นลบ หลังจากที่ได้รับแรงหนุนก่อนหน้านี้ในช่วงการซื้อขายจากข่าวที่ว่าหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ บ่งชี้ว่า อิสราเอลกำลังเตรียมโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน โดยทีวีซีเอ็นเอ็น รายงานเมื่อวันอังคาร โดยอ้างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ หลายคน

ซีเอ็นเอ็นเสริมว่า ยังไม่ชัดเจนว่าผู้นำอิสราเอลได้ตัดสินใจขั้นสุดท้ายหรือไม่

“การยกระดับความตึงเครียดดังกล่าวไม่เพียงแต่จะทำให้อุปทานของอิหร่านตกอยู่ในความเสี่ยงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงพื้นที่ส่วนใหญ่ในภูมิภาคด้วย” นักยุทธศาสตร์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์ของธนาคาร ING กล่าว

สต๊อกน้ำมันสหรัฐเพิ่มสูงเกินคาด

ข้อมูลล่าสุดจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงาน (EIA )ในวันพุธ ระบุว่า ปริมาณคลังสำรองน้ำมันดิบ น้ำมันเบนซิน และน้ำมันกลั่นของสหรัฐฯ ต่างเพิ่มขึ้นอย่างน่าประหลาดใจในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 16 พฤษภาคม

ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล ขณะที่ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังเพิ่มขึ้นประมาณ 800,000 บาร์เรล และปริมาณน้ำมันกลั่นคงคลังเพิ่มขึ้นประมาณ 600,000 บาร์เรล

“รายงานของ EIA พบว่าปริมาณน้ำมันดิบ น้ำมันเบนซิน และน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น ซึ่งผู้ค้าในตลาดไม่ชอบ” จิโอวานนี สเตาโนโว นักวิเคราะห์จากธนาคาร UBS กล่าว

เมื่อพิจารณาว่าอิหร่านส่งออกน้ำมันมากกว่า 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ความกลัวต่อการหยุดชะงักของอุปทานได้ช่วยผลักดันให้ราคาน้ำมันสูงขึ้น สเตาโนโว นักวิเคราะห์ของ UBS กล่าว

อิหร่านเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่เป็นอันดับสามในกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) และการโจมตีของอิสราเอลอาจทำให้การส่งออกน้ำมันจากประเทศนี้ลดลง

นอกจากนี้ ยังมีข้อกังวลว่าอิหร่านอาจตอบโต้ด้วยการปิดกั้นการขนส่งน้ำมันผ่านช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นช่องทางที่ซาอุดีอาระเบีย คูเวต อิรัก และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ส่งออกน้ำมันดิบและเชื้อเพลิง

“หากความตึงเครียดทวีความรุนแรงขึ้น เราน่าจะต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางการค้าชั่วคราวหรืออุปทานลดลงประมาณ 500,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งกลุ่มโอเปกพลัส อาจชดเชยได้อย่างรวดเร็ว” ปริยา วาเลีย นักวิเคราะห์ของบริษัทวิจัยและที่ปรึกา Rystad Energy กล่าว

สหรัฐฯ และอิหร่านได้จัดการเจรจากันหลายรอบในปีนี้เกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ได้ฟื้นมาตรการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านให้เข้มงวดยิ่งขึ้น

แม้จะมีการหารือกัน เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และผู้นำสูงสุดของอิหร่าน อายาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ก็ได้ให้ความเห็นเมื่อวันอังคาร ซึ่งบ่งชี้ว่าทั้งสองฝ่ายยังคงห่างไกลจากการหาข้อยุติ

แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมกล่าวเมื่อวันอังคารว่าการผลิตน้ำมันของคาซัคสถานเพิ่มขึ้น 2% ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งท้าทายแรงกดดันจากกลุ่มโอเปกพลัส ที่ต้องการลดการผลิต