‘เพื่อไทย’ยึดงบกระตุ้นเศรษฐกิจ จัดสรรน้ำ-คมนาคม-ท่องเที่ยว

‘เพื่อไทย’ยึดงบกระตุ้นเศรษฐกิจ  จัดสรรน้ำ-คมนาคม-ท่องเที่ยว

ครม.เห็นชอบปรับงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาท ยื่นคำขอภายใน พ.ค.นี้ เป็นโครงการพร้อมลงทุนทันที จัดสรรภายใน ก.ค. นี้ จับตาจัดสรรให้หน่วยงานที่เพื่อไทยคุม

KEY

POINTS

  • ครม.เห็นชอบปรับงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาทจากงบฯดิจิทัลวอลเล็ตเป็นโครงการใหม่รับมือภาวะเศรษฐกิจจากผลกระทบภาษีทรัมป์ 
  • ขีดเส้นให้หน่วยงานยื่นคำขอภายใน พ.ค.นี้ เป็นโครงการพร้อมลงทุนเร็ว จัดสรรภายใน ก.ค. นี้
  • จับตาจัดสรรให้หน่วยงานที่กระทรวงซึ่งบริหารงานจากพรรคเพื่อไทยกำกับดูแล ทั้ง สทนช. คมนาคม กองทุนหมู่บ้าน กระทรวงท่องเที่ยว

การเตรียมความพร้อมเรื่องงบประมาณทั้งงบประมาณประจำ และงบประมาณในการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลถือเป็นกลไกสำคัญของเศรษฐกิจที่รัฐบาลให้ความสำคัญเพื่อรองรับกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยมีการปรับเปลี่ยนงบกระตุ้นเศรษฐกิจในปีงบประมาณ 2568 วงเงิน 1.57 แสนล้านบาทเพื่อทำโครงการใหม่เพื่อรับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในช่วงครึ่งหลังของปี  

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 งบกลางรายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ 

ทั้งนี้ เป็นไปตามมติคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งครอบคลุมโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำและคมนาคม การท่องเที่ยว การลดผลกระทบส่งออกและเพิ่มผลิตภาพ ตลอดจนเศรษฐกิจชุมชน โดยมีเป้าหมายกระจายเงินเข้าระบบเพื่อรักษาการจ้างงานและวางรากฐาน

‘เพื่อไทย’ยึดงบกระตุ้นเศรษฐกิจ  จัดสรรน้ำ-คมนาคม-ท่องเที่ยว

 

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวใน ครม.ว่า แผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจะกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นได้มีประสิทธิภาพ โดยอาศัยการเร่งรัดการใช้จ่ายผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ดำเนินการได้ โดยจะส่งผลให้เกิดการจ้างงาน กระจายรายได้ และสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ควบคู่การปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจผ่านการลงทุนในทุนมนุษย์

รวมทั้งปรับปรุงกฎเกณฑ์ให้เอื้อการยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ เพิ่มผลิตภาพแรงงาน และวางรากฐานการพัฒนาระยะยาวภายใต้การติดตามแผนการขับเคลื่อนอย่างรอบคอบ เพื่อให้การใช้งบประมาณเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ขีดเส้นเสนอโครงการภายใน พ.ค.

ทั้งนี้ ได้กำหนดให้หน่วยรับงบประมาณจัดทำข้อเสนอโครงการผ่านรองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีที่กำกับดูแล เพื่อเสนอคณะอนุกรรมการกลั่นกรองฯ พิจารณา พร้อมเสนอโครงการต่อสำนักงบประมาณภายในเดือน พ.ค.2568 ก่อนเสนอ ครม.พิจารณาอนุมัติ ภายในเดือน มิ.ย.2568 และสำนักงบประมาณจะจัดสรรงบประมาณภายในเดือน ก.ค.2568

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า โครงการที่เสนอของบประมาณต้องมีความพร้อมและเกิดเม็ดเงินเข้าสู่ชุมชน เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเศรษฐกิจ โดยคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเขียนเงื่อนไขเพื่อเป็นข้อยืนยันว่าการเบิกจ่ายเงินจะหมุนเวียนทางเศรษฐกิจและประคองมรสุมทางเศรษฐกิจให้ขับเคลื่อนได้ สำหรับกรอบการใช้เงินประกอบด้วย 

ด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำ ได้แก่

1.ป้องกันอุทกภัยในช่วงฤดูฝน และกักเก็บน้ำไว้สำหรับฤดูแล้ง

2.กระจายน้ำไปยังชุมชนและพื้นที่ต่าง ๆ ผลิตเพื่อสนับสนุนภาคเกษตรในพื้นที่ทั่วประเทศ

และ 3.พัฒนาปรับปรุงระบบประปา

ด้านคมนาคม ได้แก่

1.แก้ไขปัญหาด้านการจราจรในพื้นที่คอขวดและขาดความเชื่อมโยง 

2.เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางและขนส่ง

 3.แก้ไขปัญหาจุดตัดระหว่างทางรถไฟและถนนเสมอระดับ

4.ก่อสร้างปรับปรุงจุดพักรถบรรทุกเพื่อให้สามารถบังคับใช้ พ.ร.บ.การขนส่งทางบก พ.ศ.2522

และ 5.ปรับปรุงหรือพัฒนาถนนเชื่อมโยงเมืองรอง แหล่งท่องเที่ยวและพื้นที่การผลิต

ด้านการพัฒนาภาคการท่องเที่ยว ได้แก่

1.ปรับปรุงพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว สนามกีฬาและสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ ห้องน้ำ ห้องพัก สถานที่ป้ายบอกทาง

 2.พัฒนาระบบอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว 

3.พัฒนาและยกระดับความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว อาทิ การติดตั้งระบบ CCTV ในพื้นที่เมืองท่องเที่ยวสำคัญ 

4.กระตุ้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยวภายในประเทศโดยเฉพาะในพื้นที่เมืองรอง 

นอกจากนี้ จะใช้งบดังกล่าวเพื่อลดผลกระทบภาคการส่งออกและเพิ่มผลิตภาพ โดยเพิ่มผลิตภาพทางการเกษตร อาทิ การสนับสนุนให้เกษตรกรและ SMEs ใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีปรับเปลี่ยนพื้นที่การเพาะปลูกให้เหมาะสม 

รวมทั้งลดผลกระทบแรงงาน สนับสนุนมาตรการการเงินการคลังสนับสนุนสินเชื่อเฉพาะผู้ประกอบการส่งออก เพื่อส่งเสริมการจ้างงานให้กับกองทุนประกันสังคม ตลอดจนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล เพื่อสนับสนุนการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลและการค้าระหว่างประเทศ 

สำหรับเศรษฐกิจชุมชนจะสนับสนุนงบประมาณ SML สนับสนุนงบประมาณแก่กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง เพื่อเป็นแหล่งเงินให้ประชาชนในพื้นที่ และพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก โครงการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนและอื่น พัฒนาเศรษฐกิจและการพัฒนาชุมชนที่เป็นความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่ โครงการการพัฒนาทุนมนุษย์ด้านการศึกษาเพื่อวางรากฐานเศรษฐกิจ

จับตารัฐมนตรีเพื่อไทยเสนอของบฯ

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า สั่งการให้กรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท รวบรวมโครงการที่พร้อมลงทุน แต่ไม่ถูกบรรจุในงบประมาณประจำปี 2568-2569 โดยใช้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพ เช่น การขยายถนน หรือโครงการอื่นๆ ที่มีความพร้อมในการดำเนินการ โดยเป็นโครงการที่นอกเหนือจากงบประมาณที่เสนอไปแล้ว

รายงานข่าวระบุว่า การจัดสรรงบประมาณส่วนใหญ่จะอยู่ในหน่วยงานที่กำกับดูแลโดยรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่กำกับดูแลสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนแห่งชาติ (สทบ.)

ทั้งนี้ งบประมาณโครงการลงทุนบริหารจัดการน้ำส่วนใหญ่จะจัดสรรให้โครงการของ สทนช.มากกว่ากรมชลประทานที่สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึง สทบ.ที่จะได้รับพิจารณางบ SML และงบการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเป็นอีกโครงการที่อยู่ในการดูแลของพรรคเพื่อไทยผ่านนายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา