ราคาน้ำมันดิบลดลง จับตาการเจรจาสหรัฐ-อิหร่าน สัญญาณความต้องการ

ราคาน้ำมันดิบลดลงเล็กน้อยในวันอังคาร ขณะที่ตลาดประเมินการเจรจานิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน รวมถึงสัญญาณอุปสงค์จากจีนที่ยังไม่สดใส
ด่วนอัปเดต: ราคาน้ำมันพุ่งเช้านี้ (21 พ.ค.) อิสราเอลจะโจมตีอิหร่าน
บลูมเบิร์ก รายงานว่า ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น หลังจากรายงานของซีเอ็นเอ็นระบุว่าหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ บ่งชี้ว่า อิสราเอลกำลังเตรียมการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งสูงกว่า 66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียตพุ่งสูงถึง 3.5% ก่อนที่จะปรับลดลง ซีเอ็นเอ็นอ้างแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อว่ายังไม่ชัดเจนว่าผู้นำอิสราเอลได้ตัดสินใจขั้นสุดท้ายหรือไม่ว่าจะดำเนินการโจมตีหรือไม่ โดยราคาน้ำมันเบรนท์สัญญาส่งมอบสำหรับเดือนกรกฎาคมพุ่งขึ้น 1.5% อยู่ที่ 66.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 8.23 น. ตามเวลาในสิงคโปร์ ราคาน้ำมัน WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 1.5% อยู่ที่ 62.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
รอยเตอร์ รายงานภาวะตลาดน้ำมันดิบวันอังคาร (20 พ.ค.)ว่า ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงในวันอังคาร เนื่องจากความไม่แน่นอนในการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน และการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน ขณะที่ข้อมูลใหม่ของรัฐบาลชี้เศรษฐกิจของจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่มีแนวโน้มที่ไม่สดใส
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์สัญญาซื้อขายล่วงหน้าลดลง 16 เซ็นต์ หรือประมาณ 0.24% ปิดที่ 65.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียต (WTI) ลดลง 13 เซ็นต์ หรือ 0.21% ปิดที่ 62.56 ดอลลาร์
สำนักข่าว Mehr News รายงานว่า อายาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน แสดงความสงสัยว่า การเจรจาเรื่องนิวเคลียร์กับสหรัฐฯ จะนำไปสู่ข้อตกลงหรือไม่ ขณะที่เตหะรานพิจารณาข้อเสนอที่จะจัดการเจรจารอบที่ 5
ด้านอเล็กซ์ โฮเดส นักวิเคราะห์ของ StoneX กล่าวว่า ข้อตกลงระหว่างสองประเทศจะทำให้อิหร่านสามารถเพิ่มการส่งออกน้ำมันได้ 300,000 ถึง 400,000 บาร์เรลต่อวัน หากมีการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน
หลายปัจจัยกดดันราคาน้ำมันลง
ราคาน้ำมันถูกถ่วงไว้ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐได้ ระบุว่าเขาไม่พร้อมที่จะเข้าร่วมยุโรปออกมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่เพื่อกดดันมอสโก ขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินและยูเครนจะเริ่มเจรจาหยุดยิงกันทันที
"อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนจะยังไม่ยุติลงในทันที ดังนั้น แม้ว่ารัสเซียอาจส่งออกน้ำมันเข้าสู่ตลาดได้มากขึ้น แต่ต้องออกมาในเวลาที่เหมาะสมและยังไม่แน่นอน เนื่องจากรัสเซียยังคงผูกพันตามพันธกรณีที่มีต่อกลุ่มโอเปกพลัส” บียาร์เน ชีลดรอป นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์หลักกล่าว
ข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าการเติบโตของผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดขายปลีกในจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกกำลังชะลอตัวลง ส่งผลให้ราคาน้ำมันถูกกดดันมากขึ้น โดยนักวิเคราะห์คาดว่าความต้องการน้ำมันจะชะลอตัวลง
อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์ดังกล่าวไม่ได้สะท้อนถึงการพักเก็บภาษีศุลกากรระหว่างสหรัฐฯ และจีนเป็นเวลา 90 วัน โดยโกลด์แมน แซคส์ชี้ให้เห็นถึงกระแสการค้ากับจีนที่เพิ่มขึ้นเมื่อช่วงค่ำวันจันทร์
นอกเหนือจากสภาพเศรษฐกิจ ภูมิรัฐศาสตร์ และสภาพแวดล้อมการซื้อขายที่เป็นหัวข้อข่าวในปัจจุบันแล้ว นักวิเคราะห์ ทามาส วาร์กา เขียนถึงลูกค้าว่าเป็นเรื่องยากที่จะระบุได้ว่า "อารมณ์ตลาดจะเปลี่ยนเมื่อใด"







