"ทรัมป์"เลิกกฎจำกัดการจ่ายน้ำคืนศักยภาพเครื่องใช้ในบ้าน

น้ำคือชีวิต คำพูดนี้คือความที่เป็นนิรันด์ ดังนั้น การบริหารจัดการน้ำจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่รัฐบาลทุกประเทศต้องให้ความสำคัญ
ซึ่งการจัดการน้ำต้องเผชิญกับความซับซ้อนจากมิติต่างๆมากขึ้น ทำให้การกำหนดนโยบายเรื่อง“น้ำ”จึงเป็นเรื่องใหญ่ที่แม้แต่สหรัฐมหาอำนาจก็ต้องเข้ามาทำเรื่องนี้อย่างจริงจริงซึ่งรวมถึงความสุขจากการใช้น้ำด้วย
เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2568 ทำเนียบขาวเผยแพร่ คำสั่งประธานาธิบดีว่าด้วย “การยกเลิกกฎเกณฑ์การใช้น้ำที่ยุ่งยาก” รายงานระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงเพื่อยกเลิกกฎเกณฑ์ด้านแรงดันน้ำและประสิทธิภาพที่จำกัด ซึ่งทำให้เครื่องใช้ภายในบ้านมีประสิทธิภาพน้อยลงและมีราคาแพงขึ้น
โดยบันทึกข้อตกลงดังกล่าวสั่งให้รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานดำเนินการเรื่องต่างๆดังนี้ ทบทวนและยกเลิกหรือกลับไปใช้มาตรฐานขั้นต่ำที่กำหนดโดยกฎหมาย ซึ่งจำกัดการใช้น้ำในฝักบัว ก๊อกน้ำ เครื่องล้างจาน โถสุขภัณฑ์ โถปัสสาวะ และเครื่องซักผ้า
สำหรับการเผยแพร่ประกาศใน Federal Register เพื่อชี้แจงขอบเขตของการยึดครองกฎเกณฑ์ของรัฐสำหรับการใช้น้ำในฝักบัว ก๊อกน้ำ โถสุขภัณฑ์ และโถปัสสาวะของรัฐบาลกลาง ด้วยการหยุดการบังคับใช้กฎเกณฑ์ใดๆ ที่กล่าวถึงในบันทึกข้อตกลงจนกว่าจะมีการยกเลิกหรือแก้ไข
ทั้งนี้ คำสั่งกำหนดให้มีการทำงานร่วมกับผู้อำนวยการสำนักงานกิจการนิติบัญญัติเพื่อแนะนำกฎหมายด้านแรงดันน้ำหรือประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่เกี่ยวข้องต่อรัฐสภา รวมทั้งพระราชบัญญัติว่าด้วยนโยบายพลังงานปี 1992 ที่ควรยกเลิกหรือแก้ไข การฟื้นฟูทางเลือกและความสามารถในการซื้อของผู้บริโภค
" ประธานาธิบดีทรัมป์เชื่อว่ารัฐบาลกลางไม่ควรกำหนดหรือบังคับใช้กฎระเบียบที่ทำให้ชีวิตของผู้เสียภาษีแย่ลง ด้วยข้อกำหนดการอนุรักษ์น้ำสำหรับก๊อกน้ำ ฝักบัว อ่างอาบน้ำ และโถส้วมทำให้เครื่องใช้ในห้องน้ำมีราคาแพงและใช้งานได้น้อยลง และมาตรฐานประสิทธิภาพทำให้เครื่องใช้อื่นๆ ของอเมริกา เช่น เครื่องซักผ้าและเครื่องล้างจาน มีประโยชน์น้อยลง แตกหักง่ายขึ้น และต้องเสียค่าซ่อมแพงขึ้น"
ตามข้อมูลของกระทรวงพลังงาน ที่ระบุว่าเครื่องซักผ้าประสิทธิภาพสูงมีราคาแพงกว่าอย่างน้อย 100 ดอลลาร์ แต่กฎระเบียบเครื่องล้างจานที่ปรับปรุงใหม่ทำให้เครื่องใช้เหล่านี้ใช้เวลาสองชั่วโมงหรือมากกว่าในการล้างจานหนึ่งรอบปกติ ซึ่งเร็วกว่ารุ่นก่อนมาตรฐานประมาณสองเท่า
คำประกาศนี้ ยังเป็นการปลดปล่อยครัวเรือนจากกฎระเบียบที่ไม่ดี โดย ประธานาธิบดีทรัมป์กำลังทำตามสัญญาที่จะปลดปล่อยชาวอเมริกันจากกฎระเบียบเกี่ยวกับเครื่องใช้ที่มีค่าใช้จ่ายสูงและไม่มีประสิทธิภาพนั่นเอง
นอกจากคำประกาศนี้แล้ว เมื่อในวันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อ “ปกป้องเสรีภาพของชาวอเมริกันในการเลือกซื้อสินค้าและเครื่องใช้ต่างๆ ไม่จำกัดเพียงหลอดไฟ เครื่องล้างจาน เครื่องซักผ้า เตาแก๊ส เครื่องทำน้ำอุ่น โถส้วม และหัวฝักบัว...”
ประธานาธิบดีทรัมป์ยังได้ลงนามในบันทึกประธานาธิบดีวันแรกที่สั่งให้หน่วยงานต่างๆ “ขจัดข้อกำหนดที่ไม่เกิดประโยชน์ซึ่งทำให้ต้นทุนของเครื่องใช้ในบ้านสูงขึ้น”
ดังนั้น ภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์ กระทรวงพลังงานได้ถอนหรือเลื่อนกฎเกณฑ์ประสิทธิภาพพลังงานสำหรับเครื่องใช้ในบ้านที่สำคัญออกไปแล้ว
ข้อมูลจาก U.S. Geological Survey หน่วยงานภายใต้กระทรวงมหาดไทยของสหรัฐ (U.S. Department of the Interior) ระบุว่า
ประมาณ 90% ของปริมาณน้ำที่ใช้ในแต่ละวันใน 48 รัฐทางตอนล่างของสหรัฐถูกนำไปใช้เพื่อการชลประทานพืชผล โรงไฟฟ้าพลังความร้อนที่ใช้น้ำจืดในการผลิตพลังงาน และแหล่งน้ำสาธารณะซึ่งใช้น้ำจากแหล่งน้ำอื่นหรือซื้อจากแหล่งน้ำอื่นและส่งไปยังผู้ใช้น้ำจำนวนมาก พบว่าการใช้น้ำทั้งสามนี้รวมกันแล้วต้องมีปริมาณน้ำจืดรวม 224,000 ล้านแกลลอนต่อวัน
เมื่อเร็วๆนี้ USGS ร่วมมือกับพันธมิตรในระดับท้องถิ่น ระดับรัฐ และระดับรัฐบาลกลางในการรวบรวมและผสานข้อมูลการใช้น้ำเข้ากับชุดข้อมูลอื่นๆ ที่ครอบคลุมถึงสภาพภูมิอากาศ ประชากร ภูมิศาสตร์ ลักษณะเฉพาะของระบบ การใช้ที่ดิน ปัจจัยทางสังคม และเศรษฐกิจ จากนั้นข้อมูลนี้จะถูกผสานเข้าในกรอบการสร้างแบบจำลองเพื่อสร้างการประมาณการใช้น้ำและการบริโภคน้ำในระดับประเทศ (การคายระเหยของน้ำที่นำไปใช้) จากแหล่งน้ำใต้ดินและน้ำผิวดิน
การประมาณเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำความเข้าใจวิธีใช้น้ำและการประเมินความสมดุลระหว่างอุปทานและความต้องการน้ำ นอกจากนี้ แบบจำลองยังช่วยให้สามารถประมาณการใช้น้ำได้บ่อยขึ้น ระบุข้อผิดพลาดของข้อมูลได้เร็วขึ้น และมีแนวทางที่สอดคล้องกันในการประเมินความไม่แน่นอน การทำความเข้าใจปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการใช้น้ำที่ดีขึ้นนี้สนับสนุนการคาดการณ์การใช้น้ำภายใต้สภาพภูมิอากาศและสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมที่หลากหลาย







