'สรวงศ์' จ่อขอใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจ เคาะเที่ยวไทยคนละครึ่งเฟส2

'สรวงศ์' จ่อขอใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจ เคาะเที่ยวไทยคนละครึ่งเฟส2

"สรวงศ์" เตรียมชงบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจเคาะเที่ยวไทยคนละครึ่งเฟส 2 หากเฟสแรกผลตอบรับดี เล็งขอใช้งบฯจากวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีอยู่ 1.57 แสนล้าน 

นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ(บอร์ดตุ้นเศรษฐกิจ) เห็นชอบพิจารณามาตรการเร่งด่วนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจรับมือกับมาตรการขึ้นภาษีศุลกากรของสหรัฐ พร้อมบรรจุมาตรการท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในนั้น

โดยมีวงเงินรวม 3,500 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง จำนวน 1 ล้านสิทธิ์ ใช้ วงเงิน 1,780 ล้านบาท เงินสนับสนุนโอทีเอ 21 ราย วงเงิน 800 ล้านบาท  โครงการส่งเสริมตลาดร่วมกับสายการบินในตลาดจีน วงเงิน 500 ล้านบาท และโครงการอื่นๆ 

เดิมกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เสนอของบกลาง จำนวน 3,500 ล้าน เพื่อกระตุ้นท่องเที่ยวอยู่ก่อนแล้ว แต่ล่าสุด (วันที่ 19 พ.ค. 68) บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจได้นำมาตรการนี้มาบรรจุไว้ในโครงการเร่งด่วนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 ล้านบาท

จากเดิมที่จะใช้ในโครงการแจกเงินหมื่นผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 และเฟส 4 และมีแผนเตรียมจะเสนอของบประมาณทำโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่งเฟส 2 สู่การพิจารณาบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจหากเฟสแรกผลตอบรับดี

สำหรับงบกลางฯ ที่จะเสนอขอ 3,500 ล้านบาท  เปรียบเสมือนบูสเตอร์ช็อตเพื่อนำมากระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติผ่าน 3 โครงการ ประกอบด้วย

1.โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง เพื่อกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวไทยในช่วงโลว์ซีซันปีนี้ ซึ่งคงไม่ใช่ 1 ล้านสิทธิตามแผนเดิม แต่ปรับลดลงในส่วนของจำนวนสิทธิสูงสุดต่อคน จากเดิมที่ตั้งไว้ 10 ห้องหรือคืนต่อสิทธิ ลดลงเหลือ 6 ห้องหรือคืนต่อสิทธิ ส่วนการสมทบจากรัฐบาลแบ่งเป็นเมืองหลักรัฐบาลสมทบให้ 40% ประชาชนจ่ายเอง 60% แต่เมืองรองหรือเมืองน่าเที่ยว รัฐบาลจะสมทบให้ที่ 50% ประชาชนจ่ายเอง 50% แบ่งเป็นการใช้เที่ยวเมืองหลัก 3 คืน และเมืองรอง 3 คืน เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนออกไปเที่ยวเมืองรองมากขึ้น

โดยระยะเวลาดำเนินโครงการได้เลื่อนออกไปเป็นเดือนกรกฎาคม - กันยายน 2568 และประชาชนที่เข้าร่วมโครงการจะถูกจำกัดสิทธิ ใช้ได้สูงสุดไม่ถึง 10  สิทธิต่อ 1 คน และคงกำหนดสัดส่วนการใช้สิทธิในเมืองหลักและเมืองรองที่ 50:50 ขอหารือกับกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพื่อสรุปรายละเอียดอีกครั้งก่อน

2.โครงการส่งเสริมตลาดร่วม หรือ Joint Promotion ผ่านแพลตฟอร์มท่องเที่ยวออนไลน์หรือโอทีเอ เพื่อเจาะนักท่องเที่ยวกลุ่มเดินทางด้วยตัวเองหรือเอฟไอที ซึ่ง ททท.จะร่วมกับโอทีเอ รายใหญ่ให้ครอบคลุมการทำตลาดทั่วโลก

และ 3.โครงการส่งเสริมตลาดร่วมกับสายการบินในตลาดจีน โดยจะสนับสนุนทั้งเที่ยวบินประจำและเที่ยวบินเช่าเหมาลำ บนเงื่อนไขการการันตีผู้โดยสาร มีอัตราการขนส่งไม่ต่ำกว่า 85% โดยจะให้น้ำหนักการสนับสนุนแก่เที่ยวบินเช่าเหมาลำมากกว่า เพราะเที่ยวบินประจำได้อานิสงส์บางส่วนจากโครงการส่งเสริมตลาดร่วมกับโอทีเอ ไปแล้ว