รฟท. เตรียมงบ 1.2 หมื่นล้าน เวนคืนสร้าง 'ไฮสปีดไทยจีน' เฟส 2

บอร์ด รฟท.เห็นชอบกรอบวงเงิน 1.2 หมื่นล้านบาท เวนคืนที่ดิน “ไฮสปีดไทยจีน” ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา – หนองคาย พื้นที่ 1,345 ไร่ คาดเสนอ “คมนาคม” พิจารณาในเดือนมิ.ย.นี้
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) เมื่อวันที่ 15 พ.ค.68 ที่ผ่านมา โดยระบุว่า ที่ประชุม บอร์ด รฟท. ได้ให้ความเห็นชอบมตินำเรื่องเสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืนในพื้นที่โครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพฯ - หนองคาย ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา – หนองคาย
โดยคาดว่าหลังผ่านบอร์ดครั้งนี้แล้ว จะสามารถสรุปรายงานเรื่องไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ภายในเดือนมิ.ย.นี้ ก่อนเสนอต่อไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป ซึ่งการเวนคืนที่ดินในโครงการดังกล่าว ประกอบด้วย พื้นที่บางส่วนของจังหวัดนครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี และจังหวัดหนองคาย ประกอบด้วยที่ดิน จำนวน 1,991 แปลง เนื้อที่ประมาณ 1,345 ไร่ และสิ่งปลูกสร้าง 1,428 รายการ ด้วยวงเงิน 12,418.61 ล้านบาท
สำหรับความก้าวหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย–จีน ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา – หนองคาย ได้รับมติเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) สำนักงานนโยบาย และแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2567 และคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 ก.พ.2568 ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการจัดเตรียมเอกสารประกวดราคา โดย รฟท.ยังมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินการเปิดประกวดราคาได้ตามเป้าหมายที่กระทรวงคมนาคมกำหนดไว้
สำหรับโครงการดังกล่าวมีจุดเริ่มต้นหลังสถานีนครราชสีมา และจุดสิ้นสุดที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง (ฝั่งไทย) รวมทั้งหมด 5 สถานี ประกอบด้วย สถานีบัวใหญ่ สถานีบ้านไผ่ สถานีขอนแก่น สถานีอุดรธานี และสถานีหนองคาย รวมถึงยังมีศูนย์ซ่อมบำรุง (Deport) 2 แห่ง ที่นาทา และเชียงรากน้อย ศูนย์ซ่อมบำรุงทาง (Maintenance Base) 4 แห่ง ที่บ้านมะค่า หนองเม็ก โนนสะอาด และนาทา รวมถึงย่านเก็บตู้สินค้าและเปลี่ยนถ่ายสินค้า 1 แห่งที่นาทา รวมระยะทางประมาณ 357.22 กิโลเมตร
ทั้งนี้ โครงการถือเป็นโครงการยุทธศาสตร์การพัฒนาเส้นทางสายใหม่ One Belt One Road (OBOR) โดยจะเป็นการเชื่อมโยงโครงข่ายการเดินทาง และขนส่งระหว่าง 3 ประเทศ ไทย–ลาว–จีน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน พร้อมทั้งกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาคต่างๆ ด้วยการเชื่อมโยงเมืองหลัก เมืองรอง และพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ให้เข้าถึงกันอย่างไร้รอยต่อ
นายวีริศ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมบอร์ดยังมีมติเห็นชอบให้ขยายเวลาการดำเนินงานตามสัญญาจ้างก่อสร้างโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทย และรัฐบาลจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง เพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพฯ - หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ - นครราชสีมา) สัญญาที่ 3-2 งานโยธา สำหรับงานอุโมงค์ (มวกเหล็ก และลำตะคอง) ออกไปอีก 181 วัน จากเดิมสิ้นสุดสัญญาวันที่ 7 มิ.ย. 2568 โดยกำหนดวันสิ้นสุดสัญญาใหม่เป็นวันที่ 5 ธ.ค.2568
“สาเหตุที่ต้องขยายเวลาออกไป เนื่องจาก รฟท. ส่งมอบพื้นที่ให้แก่ผู้รับจ้างก่อสร้างล่าช้า จากการเวนคืนพื้นที่ กระทบงานก่อสร้าง 2 รายการ คือ งานก่อสร้างคันทางรถไฟระดับดิน ช่วง DK.134+765 – DK.135+385 และงานก่อสร้างสะพานผาเสด็จ 3 ปัจจุบันการรถไฟฯ ส่งมอบพื้นที่เวนคืนทั้งหมดให้กับผู้รับจ้าง 100% แล้ว พร้อมเร่งรัดให้ดำเนินงานให้แล้วเสร็จตามกรอบเวลาที่ปรับใหม่ เพื่อให้โครงการสามารถเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง และแล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด”
สำหรับสัญญาที่ 3-2 งานโยธาสำหรับอุโมงค์ ช่วงมวกเหล็ก และลำตะคอง มูลค่า 4,279,309,390 ล้านบาท ระยะทาง 12.23 กิโลเมตร ครอบคลุมงานก่อสร้างอุโมงค์ทางวิ่งรถไฟ ระยะทาง 8 กิโลเมตร คันทางรถไฟระดับดิน ระยะทาง 3.27 กิโลเมตร โครงสร้างทางรถไฟยกระดับ ระยะทาง 0.96 กิโลเมตร รวมถึงอาคารและสิ่งปลูกสร้าง รองรับงานระบบรถไฟฟ้า 4 แห่ง พร้อมถนนเชื่อมต่อ ซึ่งเริ่มดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 19 เม.ย.2564 ปัจจุบันมีความคืบหน้า 90.94%
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







