กพท. ถกสายการบิน ยกระดับสิทธิผู้โดยสาร เที่ยวบินล่าช้า - ยกเลิก

กพท. ถก 106 สายการบิน ยกระดับข้อบังคับคุ้มครองสิทธิผู้โดยสารกรณีเที่ยวบินล่าช้าและยกเลิก มีผลบังคับใช้ 20 พ.ค.นี้
นายศรัณย เบ็ญจนิรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานพัฒนาเศรษฐกิจการบิน สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยถึงการประชุม AOC Full Board Meeting ร่วมกับคณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบินกรุงเทพ ซึ่งประกอบไปด้วย สายการบินจำนวน 106 สายการบิน โดยระบุว่า การประชุมครั้งนี้ กพท.ได้ชี้แจงและสร้างความเข้าใจให้กับสายการบิน ถึงข้อบังคับคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) ฉบับที่ 101 ว่าด้วยมาตรการคุ้มครองสิทธิของผู้โดยสารเที่ยวบินแบบประจำในประเทศและระหว่างประเทศ
โดยข้อบังคับดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป ซึ่งได้เพิ่มการคุ้มครองสิทธิของผู้โดยสารในกรณีเที่ยวบินล่าช้าและยกเลิกอย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยขยายความคุ้มครองจากเดิมที่มีเฉพาะเที่ยวบินภายในประเทศ ให้ครอบคลุมถึงการคุ้มครองสิทธิของผู้โดยสารเที่ยวบินระหว่างประเทศที่เดินทางออกจากประเทศไทยด้วย
อย่างไรก็ดี ข้อบังคับที่ได้ปรับปรุงเพิ่มเติมนั้น ครอบคลุมทั้งด้านการจัดหาอาหาร เครื่องดื่ม อุปกรณ์สื่อสาร การดูแลที่พัก และการชำระค่าชดเชย ตลอดจนเหตุยกเว้นที่สายการบินไม่ต้องชำระค่าชดเชย เช่น สภาพอากาศ อากาศยานขัดข้อง หรือเหตุอื่นที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของสายการบิน รวมถึงเพิ่มมาตรการคุ้มครองในกรณีล่าช้าขณะผู้โดยสารอยู่ในห้องโดยสารบนภาคพื้น (Tarmac Delay)
โดยข้อบังคับฉบับดังกล่าว มีเป้าหมายเพื่อให้ผู้โดยสารได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการของอุตสาหกรรมการบินไทยให้ทัดเทียมระดับสากล พร้อมทั้งคำนึงถึงสิทธิประโยชน์ของผู้โดยสารเป็นสำคัญ โดย กพท.เชื่อมั่นว่าการบังคับใช้ข้อบังคับอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยส่งเสริมให้สายการบินมีมาตรฐานการดูแลผู้โดยสารที่ชัดเจน เป็นธรรม โปร่งใสมากยิ่งขึ้น เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้โดยสารและทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมการบิน
สำหรับข้อบังคับฉบับใหม่นี้มีสาระสำคัญเพิ่มเติม อาทิ กรณีเที่ยวบินระหว่างประเทศล่าช้าเกิน 2 ชั่วโมง สายการบินจะต้องจัดอาหารและเครื่องดื่ม หรือคูปองสำหรับแลกซื้ออาหารและเครื่องดื่มให้แก่ผู้โดยสารตามความเหมาะสมกับมื้ออาหารและระยะเวลาที่รอขึ้นอากาศยาน โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย พร้อมทั้งจัดอุปกรณ์ให้แก่ผู้โดยสารเพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารด้วยวิธีการใด ๆ เช่น โทรศัพท์ e-mail ตามความจำเป็นและเหมาะสม โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
รวมทั้งกรณีเที่ยวบินระหว่างประเทศล่าช้าเกิน 5 ชั่วโมง สายการบินจะต้อง จัดอาหารและเครื่องดื่ม และอุปกรณ์สื่อสารเช่นเดียวกับกรณีล่าช้าเกิน 2 ชั่วโมง และต้องชำระค่าชดเชยเป็นเงินสดให้แก่ผู้โดยสารจำนวน 1,500 บาท จัดที่พักพร้อมการรับส่ง หากต้องมีการพักค้างคืน และเมื่อผู้โดยสารไม่ประสงค์เดินทางต่อ สายการบินจะต้องเสนอทางเลือกแก่ผู้โดยสารในทันทีเพื่อพิจารณาเลือกระหว่างรับเงินค่าโดยสารคืน หรือรับวงเงินเพื่อใช้ในการเดินทางครั้งต่อไป (credit shell) เป็นต้น







