ดับบลิวทีโอเตรียมเสนอจัดประชุมถกปัญหาการค้าโลก 19 พ.ค.นี้

ดับบลิวทีโอเตรียมเสนอจัดประชุมถกปัญหาการค้าโลก 19 พ.ค.นี้

ทูตไทยประจำเจนีวา เผย  ดับบลิวทีโอเริ่มกำหนดเส้นทางสู่ MC14 : Road to Yaounde ขณะที่ประธานคณะมนตรีใหญ่ ดับบลิวทีโอ เสนอจัดประชุม ระดับเอกอัครราชทูตแบบไม่เป็นทางการ 19 พ.ค.นี้ หารือผลกระทบทรัมป์ต่อการค้าโลก

นางพิมพ์ชนก พิตต์ฟีลด์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การการค้าโลกและองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2568 องค์การการค้าโลก (WTO) ได้จัดการประชุมเพื่อประเมินความคืบหน้าการเจรจาประเด็นสำคัญ พร้อมหารือแนวทางเตรียมการสู่การประชุมระดับรัฐมนตรี WTO ครั้งที่ 14 (MC14) ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 – 29 มีนาคม 2569 ณ กรุงยาอุนเด (Yaoundé) ประเทศแคเมอรูน

การประชุมครั้งนี้เปิดโอกาสให้สมาชิกแสดงจุดยืนร่วมและให้ข้อเสนอแนะแผน “Road to Yaoundé” ซึ่งเป็นแผนงานและกรอบเวลาการเตรียมการสู่การประชุม MC14 โดยละเอียด ตามที่นาง Ngozi Okonjo-Iweala ผู้อำนวยการใหญ่ WTO ได้นำเสนอต่อที่ประชุม โดยเน้นการเร่งรัดการทำงานในกรุงเจนีวา (Geneva-first) ก่อนถึง MC14 พร้อมตั้งเป้าให้มีการตัดสินและกำหนดขอบเขตของการประชุม MC14 ให้ชัดเจนภายในเดือนธ.ค. 2568

ประเด็นหลักที่ได้รับการผลักดันจากหลายประเทศ ได้แก่ การปฏิรูป WTO โดยเฉพาะกลไก     การเจรจาฯ การฟื้นฟูกลไกระงับข้อพิพาท การเพิ่มความโปร่งใส และการรักษาสิทธิพิเศษของประเทศกำลังพัฒนาและประเทศพัฒนาน้อยที่สุด (LDCs) ซึ่งเน้นย้ำว่าการปฏิรูปจะต้องไม่กระทบต่อต่อสิทธิพิเศษแก่ประเทศกำลังพัฒนาและ LDCs ในการปฏิบัติตามพันธกรณี (Special and Differential treatment : S&DT) รวมถึง     การรักษาพื้นที่นโยบายในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในบริบทของแต่ละประเทศ

นอกจากนี้ สมาชิกต้องการเห็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมของการเจรจาเกษตร ตลอดจนการเจรจาความตกลงอุดหนุนประมง Phase 2 ที่ยังต้องเจรจาในเรื่องการอุดหนุนประมงเกินขนาดและการประมงเกินศักยภาพ นอกจากนี้ ผู้อำนวยการใหญ่ WTO เรียกร้องให้สมาชิกเร่งให้สัตยาบันความตกลงอุดหนุนประมงที่เจรจาเสร็จตั้งแต่ MC12 ซึ่งยังขาดอีก 14 ประเทศก่อนจะมีผลใช้บังคับ

นอกจากนี้ มีประเด็นอื่นที่สมาชิกให้ความสำคัญและมุ่งหวังให้เกิดผลลัพธ์ใน MC14 อาทิ การผนวกความตกลงการอำนวยความสะดวกการค้าและการลงทุน และความตกลงพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นผลลัพธ์จากการเจรจาหลายฝ่าย (Plurilateral Negotiations) เข้าเป็นส่วนหนึ่งของความตกลง WTO

ท้งนี้ คณะผู้แทนไทยฯ ได้ร่วมแสดงความเห็นอย่างสร้างสรรค์โดยสนับสนุนกลไกการเจรจาและความร่วมมือที่เป็นธรรมและสมดุล ในประเด็นสำคัญที่สอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศ ทั้งในประเด็นการเกษตร การประมง การค้าและการพัฒนา และการปฏิรูป WTO โดยการประชุมครั้งนี้ ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่สะท้อนถึงความพยายามของสมาชิก WTO ในการรักษาและขับเคลื่อนการเจรจาระบบการค้าพหุภาคี และปูทางสู่การประชุม MC14 ที่จะมีบทบาทในการกำหนดทิศทางการค้าโลกในช่วงเวลาที่มีความซับซ้อนโลกและเผชิญความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

นางพิมพ์ชนก กล่าวว่า สำหรับความตึงเครียดทางการค้าโลก ที่ได้รับความสนใจจากสมาชิก นั้นทางประธานคณะมนตรีใหญ่ (General Council Chair) เสนอจัดการประชุมระดับเอกอัครราชทูตแบบไม่เป็นทางการ ในวันที่ 19 พ.ค. ศกนี้ เพื่อหารือผลกระทบจากความตึงเครียดทางการค้า และพิจารณาทิศทางการตอบสนองในบริบทของ WTO ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญในการสะท้อนบทบาทของ WTO ในฐานะองค์กรที่ทำหน้าที่ดูแลกติกาและเสถียรภาพของระบบการค้าโลกในช่วงเวลาที่โลกกำลังเผชิญความผันผวนอย่างต่อเนื่อง