ส.อ.ท.อุบลฯ ผนึก 15 องค์กรเอกชน ดึงลงทุน-ยกระดับสู่เมืองหลักท่องเที่ยว

ส.อ.ท.อุบลราชธานี ผนึก 15 องค์กร ปรับยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่ ร่วม "อุบลรวมใจพัฒนาเมือง" เดินตามขอนแก่นโมเดล หวังปลดล็อกศักยภาพของจังหวัด ดึงลงทุน ยกระดับเศรษฐกิจฐานราก ดันอุบลฯ ก้าวสู่เมืองหลักแห่งการลงทุน-ท่องเที่ยว
ศักยภาพที่แข็งแกร่งของ จ.อุบลราชธานี ทั้งด้านทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และทำเลที่ตั้งที่เป็นประตูสู่ สปป.ลาว และกัมพูชา ซึ่งมีกำลังซื้อสูง จะเป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดนักลงทุนและนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ การมีเที่ยวบินไป-กลับกว่า 30 เที่ยวต่อวัน ยังเป็นปัจจัยสนับสนุนด้านการคมนาคมที่สำคัญด้วย
“ช่วงโควิดที่ผ่านมา อุบลราชธานี ได้ฟื้นตัวได้เร็วกว่าในหลายจังหวัด เพราะกำลังซื้อหลักมาจากประชาชนภายในจังหวัดเอง ดังนั้น การสร้างการรับรู้และดึงดูดให้คนมาเที่ยวและลงทุนในจังหวัดมากขึ้นจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ”
ศราวดี เทียมประเสริฐ รองประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า ที่ผ่านมาการพัฒนา จ.อุบลราชธานียังขาดความต่อเนื่องของการสร้างการเรียนรู้เพื่อดึงดูดการลงทุน ทั้งนี้ เนื่องจากข้อจำกัดด้านโครงสร้างและการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารภาครัฐ ทำให้ภาคเอกชนตระหนักถึงความสำคัญของการรวมตัว เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองด้วยตนเอง โดยได้ศึกษาโมเดลการพัฒนาของจ.ขอนแก่น ซึ่งประสบความสำเร็จในการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจจากการมีนิคมอุตสาหกรรม
“กว่าจ.อุบลราชธานี จะปลดล็อกผังเมืองให้เป็นเขตนิคมอุตสาหกรรมได้ใช้เวลานานถึง 30 ปี ดังนั้น การผนึกกำลังของภาคเอกชนและการสนับสนุนจากภาครัฐในครั้งนี้ จะช่วยให้การพัฒนาต่างๆ เดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากทำให้โครงการต่างๆ เกิดขึ้นจริง และเห็นผลเป็นรูปธรรม ก็จะเกิดการสร้างการรับรู้และดึงความเชื่อมั่นได้จากการเข้มแข็งของภาคเอกชนที่ผนึกกำลังกันสร้างเมืองอุบลราชธานี ให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงในภาครัฐเหมือนเช่นที่ผ่านมา”
ที่ผ่านมา การจัดตั้ง บริษัท อุบลรวมใจพัฒนาเมือง จำกัด โดยมีเป้าหมายหลักในการดึงดูดการลงทุนใน 4 ด้านศักยภาพของจังหวัด ได้แก่ ด้านเกษตรกรรม ด้านอุตสาหกรรม ด้านการลงทุน และด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดึงดูดนักลงทุนต่างชาตินั้น ซึ่งล่าสุด ส.อ.ท.จังหวัดอุบลราชธานี สามารถปิดดีลกับนักลงทุนไต้หวันได้แล้วในธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า แม้ในบางโครงการที่ดำเนินการ อาจจะต้องเผชิญกับภาวะขาดทุน เช่น โครงการสมาร์ตบัสที่ได้ใช้งบประมาณของเอกชนเอง แต่ในภาพรวมถือว่าเป็นการลงทุนที่ดี เพราะสามารถยกระดับเมือง สร้างภาพลักษณ์ที่ดี และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับจังหวัดได้
นอกจากนี้ ที่ผ่านมา ส.อ.ท. ได้รวมกลุ่มของ 4 จังหวัดในภาคอีสานตอนล่าง และจัดตั้งหลักสูตร Young FTI เพื่อสร้างเครือข่ายนักอุตสาหกรรมรุ่นใหม่ขึ้น โดยขณะนี้ สามารถดำเนินการไปแล้ว 3 รุ่น ถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาคให้เติบโตไปด้วยกัน
อย่างไรก็ตาม ส.อ.ท.อุบลราชธานี ยังให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีดิจิทัล และ AI เข้ามาช่วยเสริมศักยภาพของธุรกิจในภูมิภาค โดยร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) ในการให้ความรู้และสนับสนุนการปรับใช้เทคโนโลยี โดยร่วมให้คำปรึกษากว่า 10 จังหวัดที่ดูแลโซนอีสานตอนล่าง ดังนั้น การจะให้โครงการขับเคลื่อนได้ดีเอกชนจะต้องเป็นหัวหอก จึงมองว่า หากสามารถเปลี่ยนอุบลราชธานีให้เหมือนขอนแก่นโมเดล จะช่วยยกระดับเศรษฐกิจ GDP ประเทศด้วย
“ต้องยอมรับว่า ธุรกิจขนาดเล็กจะไม่ค่อยทราบว่ามีองค์กรที่สามารถขอทุนด้านวิจัยและพัฒนาธุรกิจได้ นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจเล็กๆ แต่เป็นคนรุ่นใหม่ที่เรียนรู้ AI ได้เองก็มีสัดส่วนไม่เกิน 50% ที่พยายามปรับใช้อยู่แล้ว ดังนั้น หากวิเคราะห์ตามสัดส่วนมีเพียง 5% เท่านั้นที่เข้าร่วมโครงการกับ DEPA”
ทั้งนี้ เมื่ออุบลราชธานีกลายเป็นนิคมอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้มีการทำงานเชิงลึกอยู่แล้วว่ามีสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง จะช่วยให้นักลงทุนได้มีการจับคู่ธุรกิจ และได้ขยายการลงทุนมาที่อุบลราชธานีมากขึ้น และตอบโจทย์ให้ท้องถิ่นแข็งแรงมากขึ้น
สำหรับนโยบายด้านภาษีสหรัฐนั้น ต้องยอมรับว่าธุรกิจในจ.อุบลราชธานีไม่ได้ส่งออกไปสหรัฐมาก โดยโรงงานส่วนใหญ่เป็นโรงงานเอทานอลที่มีการบริหารจัดการที่ดี รวมไปถึงโรงงานไก่แปรรูปแม้จะส่งออกไปสหรัฐบ้างแต่ก็ไม่มากไป ส่วนใหญ่ส่งออกไปทั้ง ยุโรป ญี่ปุ่น และจีน เป็นต้น ถือว่ามีการบริหารได้ดี โดยหากเทียบสัดส่วนการส่งออกไปสหรัฐ และ จีน 2 ประเทศนี้มีสัดส่วนราว 10% ที่เหลือกระจายไปที่ประเทศอื่นเยอะขึ้น ถือเป็นการหาโอกาสธุรกิจใหม่ เพราะเห็นว่าธุรกิจอะไรได้รับผลประโยชน์เชิงบวกและเชิงลบ
สิ่งสำคัญที่สุดคือการสร้างการรับรู้ว่าอุบลราชธานีมีดีในทุกด้าน เพื่อดึงดูดการลงทุน ยกระดับ SME และเปลี่ยนจากเมืองรองแห่งการท่องเที่ยวไปสู่เมืองหลักแห่งการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ ส่วนตัวยังเชื่อมั่นว่า หากอุบลราชธานีสามารถพัฒนาตามโมเดลขอนแก่นได้ จะเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศอย่างแน่นอน







