‘สภาพัฒน์’ ดันไทยเข้า OECD หนุน ‘CP2’ สร้างเศรษฐกิจ เติบโตยั่งยืน

"สภาพัฒน์" จัดประชุมเผยแพร่ผลการดำเนินงานระยะกลางโครงการ OECD-Thailand Country Programme ระยะที่ 2 (CP2) เดินหน้ายกระดับมาตรฐานไทยสู่สากล เข้าเป็นสมาชิกปี 2573
เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ร่วมกับองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และการพัฒนา (OECD) ได้จัดการประชุมเผยแพร่ผลการทบทวนการดำเนินงานระยะกลางของโครงการ OECD-Thailand Country Programme ระยะที่ 2 (The Mid-term Review of CP2) ณ โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ โดยมีนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการ สศช. Mr. Andreas Schaal, Director for OECD Global Relations and Co-operation, and the OECD Sherpa to the G7, the G20 and APEC กล่าวเปิดการประชุม
นายวันฉัตร สุวรรณกิตติ รองเลขาธิการ สศช. นายณัฏฐา พาชัยยุทธ ที่ปรึกษาการพัฒนาระบบราชการ สำนักงาน ก.พ.ร. นางสาลินี ผลประไพ รองอธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) และผู้แทนหน่วยงานภาครัฐของไทย และ OECD Directorates ที่ดำเนินโครงการ CP ระยะที่ 2 ร่วมเสวนา
การประชุมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อทบทวนผลการดำเนินงาน และข้อเสนอแนะของ OECD ที่ไทยได้รับจากการดำเนินโครงการ CP ระยะที่ 2 โดยเฉพาะประเด็นที่มีผลการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรมในการพัฒนามาตรฐานของไทยให้สอดคล้องกับมาตรฐานของ OECD รวมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางความร่วมมือระหว่างไทยกับ OECD ในระยะถัดไป เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น
ในโอกาสนี้ เลขาธิการ สศช. ได้เน้นย้ำประโยชน์ของการดำเนินโครงการ CP ระยะที่ 2 ที่ภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน สามารถนำรายงานการประเมิน และข้อเสนอแนะเชิงนโยบายที่ OECD จัดทำให้กับไทย อาทิ การต่อต้านการติดสินบนแก่เจ้าหน้าที่รัฐต่างประเทศ การกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจที่ดี และแผนการลงทุนในพลังงานสะอาด ไปปรับใช้เพื่อพัฒนาการดำเนินการให้สอดคล้องกับมาตรฐาน OECD นอกจากนี้ โครงการ CP ระยะที่ 2 ยังช่วยสนับสนุนให้ไทยเข้าเป็นภาคีตราสารทางกฎหมายของ OECD ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญในการเข้าเป็นสมาชิก OECD ของไทย
ในขณะที่ Mr. Andreas Schaal กล่าวย้ำว่า โครงการ CP ที่ไทยได้ดำเนินการมาถึง 2 ระยะ ถือเป็นผลลัพธ์เชิงประจักษ์ที่ทำให้ไทยสามารถเข้าสู่กระบวนการเข้าเป็นสมาชิก OECD ได้ในปี 2567 โดยโครงการ CP ช่วยสนับสนุนการปฏิรูปโครงสร้างของไทยในหลากหลายสาขา เป็นแนวทางให้ไทยนำไปใช้ในการปรับแก้กฎหมาย นโยบาย และแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้องให้มีมาตรฐานสากลมากขึ้น อันจะช่วยพัฒนา และยกระดับเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดียิ่งขึ้น
ภายหลังพิธีเปิด เป็นการนำเสนอภาพรวมการดำเนินโครงการ CP ระยะที่ 2 โดย Mr. Alexander Böhmer, Head of South and Southeast Asia Division, OECD Global Relations and Co-operation
ต่อด้วยการเสวนาวาระที่ 1 เรื่องการทบทวนผลลัพธ์จากการดำเนินโครงการ CP ระยะที่ 2 เน้นการนำเสนอผลลัพธ์ของโครงการย่อยที่ดำเนินการแล้วเสร็จ อาทิ การยกระดับกฎหมายต่อต้านการติดสินบนแก่เจ้าหน้าที่รัฐต่างประเทศ การปฏิรูประบบกำกับดูแลภาครัฐ การส่งเสริมการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ การพัฒนาคุณภาพครู และข้อมูลสถิติด้านการศึกษา การส่งเสริมการแข่งขันทางธุรกิจ การวิเคราะห์ผลิตภาพ และการลงทุนในพลังงานสะอาด
การเสวนาวาระที่ 2 เรื่องการสะท้อนบทเรียนจากความร่วมมือระหว่างไทยกับ OECD และการก้าวต่อไปข้างหน้า เน้นการหารือแนวทางในการยกระดับความร่วมมือเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าสู่กระบวนการเป็นสมาชิก OECD โดยทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญกับกิจกรรมเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรภาครัฐ (capacity-building) ที่จะช่วยสนับสนุนให้หน่วยงานไทยเข้าใจกระบวนการเข้าเป็นสมาชิกมากขึ้น ตลอดจนได้รับแนวปฏิบัติที่ดีในการดำเนินการปรับกฎหมาย นโยบาย และแนวปฏิบัติต่างๆ ให้สอดคล้องกับมาตรฐานของ OECD นอกจากนี้ ในระหว่างกระบวนการเข้าเป็นสมาชิก ไทยสามารถเข้าร่วมโครงการอื่นๆ ของ OECD หรือดำเนินความร่วมมือกับ OECD ที่นอกเหนือจากกระบวนการเข้าเป็นสมาชิกได้ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของไทยใน OECD และการมีบทบาทนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ช่วงสุดท้ายของการประชุม เป็นการกล่าวปิดเพื่อสรุปภาพรวม โดยนายวันฉัตร สุวรรณกิตติ รองเลขาธิการ สศช. และ Mr. Alexander Böhmer, Head of South and Southeast Asia Division, OECD Global Relations and Co-operation ได้กล่าวขอบคุณหน่วยงานไทย และ OECD ที่เข้าร่วมการดำเนินโครงการ CP ระยะที่ 2 และเน้นย้ำว่าโครงการ CP จะช่วยให้ไทยบรรลุเป้าหมายการเป็นประเทศก้าวหน้าและยั่งยืน และ CP ยังเป็นกลไกสำคัญในการเตรียมความพร้อมของประเทศสำหรับการเข้าสู่กระบวนการเข้าเป็นสมาชิก OECD เพื่อนำไปสู่การบรรลุการเข้าเป็นสมาชิกอย่างเต็มรูปแบบภายในปี 2573 ตามเป้าหมายของรัฐบาลไทย
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







