เกษตรฯ ซ้อมใหญ่ พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ปี 2568

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดซ้อมใหญ่ “พระราชพิธีพืชมงคลฯ” ประจำปี 2568 ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวงก่อนที่จะมีขึ้นจริงในวันที่ 9 พฤษภาคม นี้
เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 06.30 น . นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้ทำหน้าที่พระยาแรกนา เทพีคู่หาบทอง ได้แก่ นางสาวธิรดา วงษ์กุดเลาะ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ กรมส่งเสริมการเกษตร นางสาววราภรณ์ วิลัยมาตย์ เจ้าพนักงานธุรการชำนาญงาน กรมวิชาการเกษตร เทพีคู่หาบเงิน ได้แก่ นางสาวฉันทิสา อารีเสวต นายสัตวแพทย์ชำนาญการ สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ นางสาวอภิชญา ฟูแสง นักวิชาการตรวจสอบบัญชีปฏิบัติการ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานฝ่ายต่าง ๆ ทั้งในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักพระราชวัง กระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมประชาสัมพันธ์ เป็นต้น เข้าร่วมในการซ้อมใหญ่พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ประจำปี 2568 ก่อนวันพระราชพิธีจริง ที่จะมีขึ้นในวันศุกร์ที่ 9 พฤษภาคม 2568 ที่จะถึงนี้ ตามฤกษ์พิธีไถหว่าน ระหว่างเวลา 08.29-09.09 น. ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง โดยจะมีการถ่ายทอดสดพระราชพิธีฯ ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป ผ่านช่องทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย และสื่อโซเชียลมีเดีย
นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้ทำหน้าที่พระยาแรกนา เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีการเตรียมความพร้อมในด้านสถานที่การจัดงาน แนวทางการปฏิบัติในการเข้าร่วมงานพระราชพิธีฯ การรักษาความปลอดภัย การจราจร ตลอดจนการอำนวยความสะดวกด้านต่าง ๆ อีกทั้ง ได้มีการจัดเตรียมพันธุ์ข้าวทรงปลูกพระราชทาน บรรจุในซองพลาสติกเพื่อแจกจ่ายให้แก่พสกนิกรผู้สนใจและชาวนาทั่วประเทศรับไปเป็นมิ่งขวัญและสิริมงคลในการประกอบอาชีพการเกษตรของตนตามประเพณีนิยม ประกอบด้วย พันธุ์ข้าวนาสวน 6 พันธุ์ น้ำหนักรวมทั้งสิ้น 2,590 กิโลกรัม ได้แก่
1) พันธุ์ขาวดอกมะลิ 105
2) พันธุ์กข 79
3) พันธุ์กข 85
4) พันธุ์กข 99 (หอมคลองหลวง 72)
5) พันธุ์กข 6
และ 6) พันธุ์กข 24 (สกลนคร 72) ส่วนเมล็ดพันธุ์
ที่เหลือ กรมการข้าวขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตนำไปเก็บไว้ทำพันธุ์ในฤดูกาล ปี 2568 เพื่อเป็นต้นตระกูลของพืชพันธุ์ดีเผยแพร่สู่เกษตรกรต่อไป ซึ่งพระราชพิธีพืชมงคลฯ ประจำปี 2568 จะมีเกษตรกร สถาบันเกษตรกร และสหกรณ์ดีเด่นที่ได้รับการคัดเลือกเข้ารับพระราชทานโล่รางวัล ประกอบด้วย ปราชญ์เกษตรแห่งแผ่นดิน จำนวน 3 สาขา เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ จำนวน 16 สาขา สถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ จำนวน 12 กลุ่ม และสหกรณ์ดีเด่นแห่งชาติ จำนวน 7 สหกรณ์ อีกด้วย
นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า ด้วยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีนโยบายให้ส่วนราชการในสังกัดดำเนินการคัดเลือกเกษตรกร สถาบันเกษตรกรและสหกรณ์ที่มีผลงานดีเด่นสาขาต่าง ๆ เพื่อยกย่องประกาศเกียรติคุณและเผยแพร่ผลงานดีเด่นให้สาธารณชนทั่วไปได้รับรู้ ยึดถือเป็นแบบอย่างเป็นแนวทางในการประกอบอาชีพ โดยในปี 2568 นี้ เกษตรกร สถาบันเกษตรกรดีเด่น ที่ได้รับการคัดเลือกจะเข้ารับพระราชทานโล่รางวัลในงานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ในวันศุกร์ที่ 9 พฤษภาคม 2568 ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ซึ่งเป็นพระราชพิธีที่ปฏิบัติสืบทอดมาแต่โบราณเพื่อเสริมสร้างขวัญและกำลังใจแก่เกษตรกรของชาติและเพื่อเป็นการระลึกถึงความสำคัญของเกษตรกรที่มีต่อเศรษฐกิจไทย เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรที่เข้าร่วมในพระราชพิธีจะเกิดความภาคภูมิใจในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม เสริมสร้างขวัญและกำลังใจในการสร้างพัฒนาผลงานให้เกิดผลดีต่อประเทศชาติต่อไป
ในส่วนของ กรมประมง ได้ดำเนินการคัดเลือกเกษตรกร บุคคลทางการเกษตร และสถาบันเกษตรกรดีเด่นระดับประเทศด้านการประมง เป็นประจำในทุกปี โดยผ่านกระบวนการสรรหา ตั้งแต่ระดับจังหวัด ระดับเขต และระดับประเทศ เพื่อให้ได้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรที่เหมาะสมและมีคุณภาพอย่างแท้จริง เป็นบุคคลและสถาบันเกษตรกรหรือกลุ่มเกษตรกรที่มีความสามารถเชิงประจักษ์ทั้งในด้านมีความคิดริเริ่ม กล้าฟันฝ่าอุปสรรค ดำเนินกิจการทางด้านการเกษตรอย่างขยันขันแข็ง มีความเป็นผู้นำ เสียสละตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ตลอดจนคำนึงถึงการทำการเกษตรบนพื้นฐานของความยั่งยืน เป็นนักอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญ บุคลากรเหล่านี้จะเป็นกำลังสำคัญในการเชื่อมโยงภาครัฐสู่ภาคเกษตรกร เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาและเผยแพร่องค์ความรู้ด้านการทำประมง ตลอดจนเป็นแบบอย่างให้เกษตรกรในการพัฒนาภาคประมงไทยต่อไป
สำหรับผลการคัดเลือกเข้ารับพระราชทานโล่รางวัลเกษตรกร และสถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติด้านการประมง ประจำปี 2568 แบ่งออกเป็น 2 ประเภท 4 สาขา ประกอบด้วย
ประเภทเกษตรกรและบุคคลทางการเกษตรดีเด่นแห่งชาติ จำนวน 3 สาขา
• สาขาอาชีพเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด ได้แก่ นายสมประสงค์ เนตรทิพย์ จังหวัดฉะเชิงเทรา
• สาขาอาชีพเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำกร่อย ได้แก่ นายณรงค์ แก้วมณี จังหวัดสตูล
• สาขาอาชีพเพาะเลี้ยงปลาสวยงามและพรรณไม้น้ำ ได้แก่ นายศักดิ์ชัย ตันอริยะมีศิริกุล จังหวัดราชบุรี
• สาขาแปรรูปสัตว์น้ำ ได้แก่ วิสาหกิจชุมชนแปรรูปอาหารทะเลบ้านแพรกเมือง
ประเภทสถาบันเกษตรกรหรือกลุ่มเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติด้านการประมง จำนวน 1 จังหวัดนครศรีธรรมราช
"กรมประมงขอแสดงความยินดีกับเกษตรกรดีเด่น และสถาบันเกษตรกรดีเด่นที่ได้รับรางวัลทุกสาขา และขอยกย่องประกาศเกียรติคุณให้เป็นที่รู้จักต่อสาธารณชนทั่วไป เพื่อเป็นต้นแบบในการพัฒนาภาคการประมงของประเทศให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืนต่อไปในอนาคต"







