ราคาน้ำมันดิบต่ำสุดในรอบ 4 ปี หลังโอเปกพลัสตกลงเพิ่มการผลิต

ราคาน้ำมันดิบต่ำสุดในรอบ 4 ปี หลังโอเปกพลัสตกลงเพิ่มการผลิต

ราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ ปิดตลาดที่ระดับต่ำสุดตั้งแต่ปี 2021 หลังจากกลุ่มโอเปกพลัส ตกลงเพิ่มการผลิตในเดือนมิถุนายน ตลาดหวั่นสงครามการค้ากระทบความต้องการใช้น้ำมัน

ซีเอ็นบีซี รายงานภาวะตลาดน้ำมันโลกวันจันทร์( 5 พ.ค.) หรือเมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทยว่า ราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ ล่วงหน้า (WTI) ร่วงลงประมาณ 2% ในวันจันทร์ ปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี หลังกลุ่มโอเปกพลัส ตกลงเพิ่มการผลิตเป็นเดือนที่ 2

ราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ ร่วงลง 1.16 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 57.13 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2021

ด้านราคาน้ำมันดิบเบรนท์ซึ่งเป็นราคาอ้างอิงของตลาดโลก ร่วงลง 1.06 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 60.23 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันร่วงลงแล้วประมาณ 20% ในปีนี้

ผู้ผลิต 8 รายในกลุ่มนำโดยซาอุดีอาระเบีย ตกลงเมื่อวันเสาร์ที่จะเพิ่มการผลิตอีก 411,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนมิถุนายน การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นหนึ่งเดือนหลังจากที่โอเปกพลัส (OPEC+) สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดด้วยการตกลงที่จะเพิ่มการผลิตในเดือนพฤษภาคมด้วยจำนวนที่เท่ากัน

การเพิ่มการผลิตในเดือนมิถุนายนนั้นเกือบสามเท่าของ 140,000 บาร์เรลต่อวันซึ่งธนาคารโกลด์แมน แซคส์( Goldman Sachs) คาดการณ์ไว้ในตอนแรก การเคลื่อนไหวดังกล่าวหมายความว่าโอเปกพลัส กำลังนำอุปทานเพิ่มเติมมากกว่า 800,000 บาร์เรลต่อวันเข้าสู่ตลาดในช่วงเวลาสองเดือน

กังวลสงครามการค้าทำให้เศรษฐกิจโลกถดถอย

ราคาน้ำมัน ในเดือนเมษายนลดลงรายเดือนมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2021 เนื่องจากประธานาธิบดีทรัมป์ ของสหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าที่สูงขึ้นทำให้เกิดความกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยซึ่งจะทำให้ความต้องการน้ำมันชะลอตัวลงในขณะเดียวกับที่โอเปกพลัส กำลังเพิ่มการผลิตน้ำมันอย่างรวดเร็ว

“เรายังเชื่อว่ากำลังการผลิตส่วนเกินที่สูงและความเสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่สูงทำให้ราคาน้ำมันมีความเสี่ยงที่จะลดลงต่อไป แม้จะมีปัจจัยพื้นฐานที่ค่อนข้างตึงตัวของตลาดสปอตก็ตาม”  ดอว์น สเตรย์เวนหัวหน้าฝ่ายวิจัยน้ำมันของโกลด์แมน แซคส์ กล่าวกับลูกค้าในรายงานเมื่อวันอาทิตย์ ธนาคารเพื่อการลงทุนได้ปรับลดการคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ในปีนี้ลง 3 ดอลลาร์เป็น 56 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

บริษัทผู้ให้บริการด้านแหล่งน้ำมัน เช่น Baker Hughes

และ SLB คาดว่าการลงทุนด้านการสำรวจและการผลิตจะลดลงในปีนี้ เนื่องจากราคาน้ำมันที่อ่อนตัว

“แนวโน้มของตลาดน้ำมันที่มีอุปทานเกิน ภาษีศุลกากรที่สูงขึ้น ความไม่แน่นอนในเม็กซิโก และความอ่อนแอของกิจกรรมในซาอุดีอาระเบีย ล้วนเป็นปัจจัยที่จำกัดระดับการใช้จ่ายน้ำมันดิบระหว่างประเทศ” ลอเรนโซ ซิโมเนลลี  ซีอีโอของ Baker Hughes กล่าวในการประชุมผลประกอบการไตรมาสแรกของบริษัทเมื่อวันที่ 25 เมษายน โดยอ้างถึงการสำรวจและการผลิต

Chevron และ Exxon ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันรายใหญ่ รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2024 เนื่องจากราคาน้ำมันที่ลดลง

ราคาน้ำมันดิบเช้านี้ทรงตัว

ด้านสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ราคาน้ำมันทรงตัวหลังจากลดลงอย่างรวดเร็ว จาการเพิ่มการผลิตของโอเปกพลัส ขณะที่สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังคงดำเนินต่อไป

ราคาน้ำมันดิบ WTI สำหรับการส่งมอบเดือนมิถุนายนแทบไม่เปลี่ยนแปลง อยู่ที่ 57.18 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 7.29 น. ตามเวลาในสิงคโปร์เช้าอังคาร( 6 พ.ค.) นี้