ลุ้นท่องเที่ยวนครพนมทำนิวไฮ ชูชิงช้าสวรรค์ริมโขง - ไหลเรือไฟโลก

นายกฯสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวนครพนม ลุ้นตัวเลขนักท่องเที่ยวปีนี้นิวไฮ แตะ 3 ล้านคน ชูชิงช้าสวรรค์ริมโขง - ไหลเรือไฟโลก - ล่องเรือตามเส้นทางศรัทธา เสริมจุดขายเสน่ริมโขง
การจัดประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นอกสถานที่อย่างเป็นทางการ ที่จ.นครพนม เมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้เพิ่มโอกาสในการท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 (มุกดาหาร สกลนคร นครพนม) ให้มีความคึกคักมากขึ้น โดยเฉพาะในจังหวัดนครพนมซึ่งเป็นสถานที่จัดประชุม ครม.สัญจรครั้งนี้ได้รับอนุมัติโครงการรวม 4 โครงการ วงเงินรวม 150 ล้านบาท เพื่อให้ จ.นครพนม ต่อยอดโครงการท่องเที่ยว ได้แก่
1.โครงการพัฒนาพื้นที่และปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณริมแม่น้ำโขงเหนือเมืองนครพนม และพื้นที่ต่อเนื่อง อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม ระยะที่ 1 วงเงิน 50 ล้านบาท
2.โครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอุทยานธรณีวิทยาและไดโนเสาร์ “Geo Park Center at Tha Uthen” วงเงิน 50 ล้านบาท
3.โครงการสร้างอัตลักษณ์เมือง (DNA) และ Marketing ภายใต้ 5 Must (Visit, Eat, Shop, Mu, Rest) วงเงิน 20 ล้านบาท
และ 4.โครงการยกระดับเทศกาลเรือไฟไทยสู่เรือไฟโลกวงเงิน 30 ล้านบาท
นายชาญยุทธ อุปพงษ์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว จ.นครพนม และประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 เปิดเผยว่า จ.นครพนม อยู่ระหว่างการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวและส่งเสริมรายได้จากการท่องเที่ยวให้เพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 20% และคาดว่าใรปี 2568 จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยในจังหวัดประมาณ 2.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 3 แสนคน จากปีก่อนที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดประมาณ 2.2 ล้านคน
อย่างไรก็ตามหากเศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง รวมทั้งหากภาครัฐมีโครงการสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศ อย่างโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ที่มีรูปแบบคล้ายกับโครงการเราเที่ยวด้วยกันที่รัฐบาลก่อนเคยดำเนินการมาก็จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว และช่วยให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวโดยเฉพาะบริษัททัวร์ ไกด์นำเที่ยว มีกำลังใจมากขึ้นซึ่งจะช่วยให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวที่ จ.นครพนมเพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์ไว้ซึ่งอาจจะถึง 3 ล้านคนได้ ซึ่งจะเป็นตัวเลขสถิติใหม่หรือนิวไฮ
“โครงการสนับสนุนจากภาครัฐจะทำให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวมีขวัญกำลังใจมากขึ้น สามารถพลิกฟื้นอาชีพขึ้นมาอีกครั้ง เพราะมีเงินของรัฐมาช่วยสนับสนุนทำให้คนอยากออกเดินทางไปใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวมากขึ้นตามไปด้วย” นายชาญยุทธ กล่าว
สำหรับแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆที่จ.นครพนม อยู่ระหว่างพัฒนาโครงการ ได้แก่ โครงการก่อสร้างชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ริมแม่น้ำโขง โดยเป็นชิงช้าสวรรค์ที่มีความสูงถึง 54 เมตร ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 56 ล้านบาท โดยเป็นโครงการที่ใช้งบประมาณของเทศบาลเมืองนครพนม คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือน ต.ค. 2568 ซึ่งเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวหรือไฮซีซั่นของจังหวัดเพราะ ใกล้กับช่วงเทศกาลไหลเรือไฟพอดี ซึ่งถือเป็นอีกแลนด์มาร์คที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวจากประเทศเพื่อนบ้านให้เข้ามาเที่ยวที่จ.นครพนมเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงเส้นทางแม่น้ำโขงระยะทาง 70 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเส้นทางท่องเที่ยวสายศรัทธาและวัฒนธรรมที่สำคัญ เริ่มต้นจากจุดขึ้นเรือ ณ อ.ธาตุพนม ไปจนถึง อ.บ้านแพง มีจุดแวะขึ้นฝั่ง หรือพักโฮมสเตย์ เพื่อไปเยียมชมสัมผัสวิถีชีวิตและวัฒนธรรมชุมชนที่มีความหลากหลายในจ.นครพนม ซึ่งมีชาติพันธุ์ถึง 9 ชาติพันธุ์ ที่ล้วนแต่มีเอกลักษณ์ของตัวเองซึ่งกิจกรรมลักษณะนี้จะช่วยให้เกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชน
เขายังเล่าเพิ่มเติมด้วยว่า จ.นครพนม ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ครม.สัญจรมาแล้ว 3 ครั้ง ใน 3 รัฐบาล ซึ่งแต่ละครั้งก็ได้รับการสนับสนุนโครงการจากภาครัฐ ครั้งแรกจัดขึ้นสมัยนรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ได้มีการอนุมัติโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) มูลค่า 1,200 ล้านบาท เป็นเส้นทางหลักที่เชื่อมต่อการเดินทางและการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศ ปัจจุบันทำให้การค้าขายข้ามแดนในพื้นที่นี้มีมูลค่าสูงเป็นหลักแสนล้านบาทต่อปี
ครั้งที่ 2 จัดประชุมสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้อนุมัติโครงการเขื่อนกันแนวดินกันตลิ่งพังติดลำน้ำโขงระยะทาง 160 กิโลเมตร รวมทั้งได้โครงสร้างพื้นฐานถนนหลายเส้น
ส่วนในครั้งล่าสุดในสมัยนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ได้อนุมัติงบประมาณรวม 150 ล้านบาท ให้ทำโครงการเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวของจังหวัด เชื่อมโยงในกลุ่มจังหวัด รวมทั้งเชื่อมโยงไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้มากขึ้น







