ราคาน้ำมันดิบกลับมาดีดขึ้น หลังทรัมป์ประกาศคว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่

ราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นในวันพฤหัสบดี หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศคว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่ การเจรจาสหรัฐและอิหร่านในโครงการนิวเคลียร์อิหร่านเลื่อนออกไป
รอยเตอร์ รายงานภาวะตลาดน้ำมันโลกวันพฤหัสบดี (1 พ.ค.) หรือเมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทยว่า ราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นในวันพฤหัสบดี หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศคว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่ การเจรจาโครงการนิวเคลียร์อิหร่านไม่คืบหน้า และตลาดหุ้นสหรัฐได้รับแรงหนุนจากกำไรที่แข็งแกร่งจาก Meta และ Microsoft
ราคาน้ำมันดิบสหรัฐสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (WTI) เพิ่มขึ้น 1.03 ดอลลาร์ หรือ 1.77% ปิดที่ 59.24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ล่วงหน้าซึ่งเป็นดัชนีอ้างอิงของโลกปรับขึ้น 1.07 ดอลลาร์ หรือ 1.75% ปิดที่ 62.13 ดอลลาร์
เจรจานิวเคลียร์ไม่คืบหน้า
ทรัมป์ กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ประเทศหรือบุคคลใดก็ตามที่ซื้อน้ำมันหรือปิโตรเคมีจากอิหร่านจะไม่ได้รับอนุญาตให้ทำธุรกิจใดๆ กับสหรัฐ
โอมานกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่าการเจรจานิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐและอิหร่านรอบต่อไป ซึ่งวางแผนไว้ชั่วคราวในวันเสาร์ที่ 3 พฤษภาคมนี้ จะถูกเลื่อนออกไปด้วยเหตุผลด้านโลจิสติกส์
ก่อนหน้านี้ ความกังวลเกี่ยวกับปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นส่งผลกระทบต่อราคา ซาอุดีอาระเบียกำลังแจ้งพันธมิตร และผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมว่าซาอุดีอาระเบียไม่เต็มใจที่จะพยุงตลาดน้ำมันด้วยการลดอุปทานและสามารถจัดการกับช่วงเวลาราคาน้ำมันต่ำที่ยาวนานได้ แหล่งข่าวกล่าวกับรอยเตอร์
โอเปกพลัสจ่อเพิ่มการผลิตน้ำมัน
สมาชิกโอเปกพลัส หลายรายจะเสนอให้กลุ่มเร่งเพิ่มปริมาณการผลิตในเดือนมิถุนายนเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน แหล่งข่าว 3 รายที่คุ้นเคยกับการเจรจาโอเปกพลัส กล่าว
ประเทศสมาชิกโอเปกพลัส 8 ประเทศจะประชุมกันในวันที่ 5 พฤษภาคมเพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับแผนการผลิตในเดือนมิถุนายน
ขณะเดียวกัน เศรษฐกิจของสหรัฐฯ หดตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีในไตรมาสแรก ตามข้อมูลเมื่อวันพุธ จากการนำเข้าสินค้าที่สูงขึ้นมาก ขณะที่ธุรกิจเร่งรีบหลีกเลี่ยงต้นทุนที่สูงขึ้นจากภาษีศุลกากร และเน้นย้ำถึงผลกระทบอันเลวร้ายจากนโยบายการค้าที่คาดเดาไม่ได้ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
การสำรวจของรอยเตอร์ชี้ว่าภาษีศุลกากรของทรัมป์ทำให้มีแนวโน้มว่าเศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีนี้







