กรมส่งเสริมการเกษตร หนุนใช้โดรน เปลี่ยนผ่าน สู่ยุคเกษตรดิจิทัล

เกษตร รุก โดรนเพื่อการเกษตร สะดวก รวดเร็ว แม่นยำ ลดการฟุ้งกระจายของสารเคมีลดเกษตรกรปลอดภัย รวดเร็ว แม่นยำ ลดการฟุ้งกระจายของสารเคมีลดเกษตรกรปลอดภัย
ช่วงทศวรรษที่ผ่านมา การพัฒนาภาคเกษตรในประเทศไทย มุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยเฉพาะเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้เพื่อเปลี่ยนวิธีการทำการเกษตร เช่น การทำเกษตรแบบแม่นยำ, ระบบอัตโนมัติในฟาร์ม, การทำเกษตรแปลงใหญ่ เป็นต้น โดยการสนับสนุนจากภาครัฐและความร่วมมือจากภาคเอกชน อีกทั้งกระแสเศรษฐกิจโลก ได้เปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัลที่มีการคิดค้นวิจัยและพัฒนาใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่เพิ่มมากขึ้น ในทุกอุตสาหกรรม ซึ่งอากาศยานไร้คนขับหรือโดรน (Drone) นับเป็นหนึ่งเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทต่อรูปแบบ การทำธุรกิจมากขึ้น
นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า จากข้อมูล Fortune Business Insights ปี 2024มูลค่าตลาดโดรนเชิงพาณิชย์ของโลกอยู่ที่ประมาณ 4.6 แสนล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตจาก 5.8 แสนล้านบาท เป็น 2.2 ล้านล้านบาท ในปี 2032 โดยมีอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (CAGR) 20.8% ในช่วงปี 2025-2032 และสำหรับโดรนเพื่อการเกษตรทั่วโลกมีมูลค่าราว 1.6 แสนล้านบาท คาดการณ์ว่าจะเติบโตจาก 2 แสนล้านบาท ในปี 2024 เป็น 798 ล้านล้านบาท ในปี 2032 โดยมีอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (CAGR) ที่ 18.5 %
ในประเทศ ที่การเกษตรมีความก้าวหน้าสูง โดรนจะมีราคาถูก นำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย เช่น ช่วยลดข้อจำกัดของการทำงาน ในต้นพืชที่มีความสูง การให้ปุ๋ยทางใบ ทำให้พืชสามารถดูดซึมอาหารผ่านปากใบได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านราก ทำได้ในเวลารวดเร็ว ลดการฟุ้งกระจายของสารเคมีที่เกษตรกรอาจได้รับทั้งการสัมผัสและสูดดมขณะฉีดพ่นอีกด้วย
รวมถึงการสำรวจพื้นที่ทางการเกษตรขนาดใหญ่ การวิเคราะห์ดินและคาดการณ์เวลาการเก็บเกี่ยวได้อย่างแม่นยำ ด้วยสมรรถนะที่สูงขึ้นสามารถสร้างแผนที่ในรูปแบบสามมิติ (3D Mapping) ทำให้สามารถวิเคราะห์ และวางแผนในการเพาะปลูกได้
สำหรับประเทศไทยโดรนเพื่อการเกษตรเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ในปี พ.ศ.2563 เพื่อช่วยทำการเกษตร แบบแม่นยำขึ้น เช่น การรดน้ำ การให้ฮอร์โมน การให้ปุ๋ยทางใบ ซึ่งประหยัดเวลามากกว่าการใช้แรงงานคน นอกจากนี้ ด้วยสมรรถนะสูงของโดรนยังใช้ในการทำงานอื่น ๆ เช่น ถ่ายภาพเพื่อตรวจวิเคราะห์โรคพืช ทำให้ดูแลรักษาโรคพืช ได้อย่างตรงจุด การใช้โดรนมาฉีดพ่นยาเพื่อรักษาโรคพืชเฉพาะตำแหน่งได้อย่างแม่นยำมากขึ้น สามารถฉีดพ่นแปลงพืชไร่ ลดการใช้แรงงานคนจาก 10-20 คนเหลือเพียง 1-2 คน เท่านั้น แต่ราคาของโดรนยังสูง ทำให้เกษตรกรยังไม่สามารถประเมินจุดคุ้มทุนได้ และเลือกเป็นการใช้บริการจากผู้ให้บริการมากกว่า
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมการเกษตรได้ดำเนินนโยบาย ระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ โดยส่งเสริมให้เกษตรกรรวมกลุ่มการผลิตและการบริหารจัดการร่วมกัน โดยมีเกษตรกรเป็นศูนย์กลางในการดำเนินงาน เพื่อหาปัจจัยการผลิตที่มีคุณภาพดี ราคาถูก และการใช้เทคโนโลยีการเกษตร ที่เหมาะสมเพื่อลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ตลอดจนการจัดการด้านการตลาด เพิ่มโอกาสในการแข่งขัน โดยมีหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคีที่เกี่ยวข้องให้การสนับสนุนและอำนวยความสะดวก โดยให้นำเทคโนโลยี เช่น โดรนเพื่อการเกษตร เข้ามาประยุกต์ใช้มากขึ้น ปัจจุบันมีเกษตรกรแปลงใหญ่ที่มีโดรนเพื่อการเกษตร มาใช้ทำการเกษตร จำนวน 546 แปลง เกษตรกรได้รับประโยชน์ กว่า 34,000 ราย โดยตั้งเป้าหมายให้เกษตรกรที่ใช้โดรนใน กลุ่มแปลงใหญ่สามารถลดต้นทุนการผลิตกว่า 1,100 ล้านบาท
ทั้งนี้ การเข้าถึงเทคโนโลยีของเกษตรกรในการทำการเกษตรยังมีจำนวนน้อยกว่าอุตสาหกรรมอื่น ๆ เกษตรกรรายย่อยอาจจะเข้าไม่ถึงเนื่องจากปัจจัยความพร้อม ศักยภาพของเกษตรกรที่มีความแตกต่างกันสูง ทั้งด้านความรู้และทุนทรัพย์ การถือครองสิทธิที่ดิน และที่สำคัญคือทัศนคติของเกษตรกรที่พร้อมจะเรียนรู้ และปรับเปลี่ยนการทำเกษตรของไทยจึงมีรูปแบบการทำเกษตรที่แตกต่างกันไป บางกลุ่มอาจจะใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ในการทำงาน แต่บางกลุ่มที่มีพื้นที่ขนาดเล็กยังทำเกษตรแบบดั้งเดิม โดยขึ้นกับความพร้อมของเกษตรกรเป็นหลัก
กรมส่งเสริมการเกษตรร่วมกับสถาบันการบินพลเรือน (กพท.) จัดทำหลักสูตรผู้บังคับอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ในระยะสายตา (โดรนเพื่อการเกษตรขั้นพื้นฐาน) เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับ กพท. เพื่อให้การใช้งานโดรนให้ เกิดประโยชน์สูงสุด เป็นการฝึกปฏิบัติให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร มีความพร้อม สามารถนำเทคโนโลยีโดรน ไปประยุกต์ใช้ในภาคการเกษตร ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้นำองค์ความรู้และทักษะได้ไปบำรุงรักษาและใช้งานได้อย่างปลอดภัย รวมทั้งสามารถถ่ายทอดไปสู่เกษตรกร ให้รับมือกับความท้าทายในงานด้านการเกษตรต่อไปในอนาคต เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงทุกวัน เป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรจำเป็นต้องเรียนรู้มากขึ้น โดยเฉพาะทักษะการเข้าถึงเทคโนโลยี รวมถึงความพร้อมและเรียนรู้การคำนวนเงินลงทุนเบื้องต้น เรียนรู้ควบคู่กับการวิเคราะห์การเจริญเติบโตของพืช ให้เทคโนโลยีเป็นตัวช่วยในการถ่ายทอดความรู้ให้กับเกษตรกรได้
การส่งเสริมให้เกษตรกรเข้าถึงโดรนเพื่อการเกษตรจะเป็น “เครื่องมือเปลี่ยนเกม” ที่ช่วยเกษตรกรไทยก้าวเข้าสู่ ยุคเกษตรแม่นยำ (Precision Agriculture) อย่างแท้จริง ด้วยประโยชน์ที่หลากหลาย โดรนจึงกลายเป็นกุญแจสำคัญใน การสร้างอนาคตเกษตรกรรมที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น.