กบข. ปรับพอร์ตรับมือ 'ฝุ่นตลบ' นโยบายทรัมป์ เพิ่มทองคำลดความเสี่ยง

“กบข.” ปรับแผนลงทุนใหม่รับมือนโยบายทรัมป์ ทำเศรษฐกิจโลกผันผวน เพิ่มลงทุนทองคำลดความเสี่ยง เปิดแผนลงทุนใหม่ “Senior Housing” ในต่างประเทศ จ่อแก้กฎหมายรับผลตอบแทนจากเงินออมส่วนเพิ่มก่อนเกษียณ
กรณีความผันผวนของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะจากนโยบายภาษีตอบโต้ของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลกระทบต่อตลาดทุนทั่วโลก
นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า สถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันมีความแตกต่างจากวิกฤติครั้งก่อนๆ เช่น วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ หรือต้มยำกุ้ง เนื่องจาก "ไม่มีเหตุผลของการเกิด" ที่ชัดเจนเหมือนในอดีต อย่างไรก็ตาม สิ่งที่พอจะเห็นได้คือการตอบสนองของผู้นำหลายประเทศและตลาดทุนที่แสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับการเจรจาของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งอาจหมายความว่าความรุนแรงของสถานการณ์มีโอกาสลดน้อยลงได้
นายทรงพล กล่าวต่อว่า กบข.เตรียมพร้อมและจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และบริหารพอร์ตการลงทุนด้วยความรอบคอบ โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา กบข. ได้มีการปรับพอร์ตการลงทุนระยะสั้น (Tactical Asset Allocation - TAA) ไปแล้วถึง 3 ครั้ง เพื่อลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของนโยบายสหรัฐฯ โดยได้เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในทองคำ เพื่อเป็นสินทรัพย์ดูดซับความเสี่ยง
ซึ่งทองคำให้ผลตอบแทนสูงสุดอยู่ที่ 20% ในบรรดา 18 สินทรัพย์ที่ กบข. ลงทุน ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งการดำเนินงานทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้กรอบการบริหารความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง โดย กบข. ไม่ใช่นักเก็งกำไร แต่การปรับเปลี่ยนการลงทุนทำไปเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
"ในการบริหารพอร์ตภายใต้ความผันผวนนี้ กบข. ยังคงยึดเป้าหมายหลักคือการสร้างผลตอบแทนเฉลี่ย 10 ปี ให้ชนะอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยบวกอีกร้อยละ 2 โดยมีการทบทวนแผนการลงทุนระยะยาว (SAA) ทุก 3-5 ปี ซึ่งฉบับใหม่คาดว่าจะได้เห็นความชัดเจนในเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมนี้ และจะมีการปรับกลุ่มสินทรัพย์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์มากขึ้น รวมถึงการนำทองคำไปอยู่ในกลุ่มสินทรัพย์ที่อ่อนไหวต่อเงินเฟ้อ"
นอกจากนี้ กบข. ยังคงเน้นการลงทุนแบบ "Selective Investment" ทั้งในตราสารหนี้และหุ้น โดยพิจารณาอย่างรอบคอบถึงข้อมูล ผลประกอบการ และความสามารถในการชำระคืนหนี้ของบริษัทผู้ออกตราสาร ไม่ได้ยึดติดกับดัชนีหลักเพียงอย่างเดียว
นายทรงพล กล่าวว่า สำหรับหุ้นไทย กบข. ไม่ได้ใช้ SET50 Index เป็น Benchmark แต่ใช้ SET50 Free Float และเลือกลงทุนใน Sector ที่น่าสนใจและมีปัจจัยพื้นฐานรองรับ เช่น กลุ่มท่องเที่ยว การบริโภค และการเงิน โดยมองว่ากลุ่มการเงินอาจได้รับผลดีจากการลดดอกเบี้ยในอนาคต
นอกจากนี้ ยังมีการบริหารจัดการความเสี่ยงของตราสารหนี้อย่างสม่ำเสมอ โดยคำนึงถึงความขัดแย้งระหว่างประเทศ เช่น จีนและสหรัฐฯ พร้อมปรับสัดส่วนการลงทุนตามสถานการณ์ แม้ กบข. จะมีการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นไทยเป็นระยะเมื่อดัชนีปรับตัวลดลง แต่ก็ไม่ได้เพิ่มในปริมาณมาก เนื่องจากต้องการกระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ
"ยอมรับว่าการลงทุนย่อมมีทั้งสินทรัพย์ที่ทำกำไรและขาดทุน ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่ด้วยการบริหารจัดการความเสี่ยงและการกระจายการลงทุน กบข. เชื่อว่ายังมีโอกาสในการสร้างผลกำไรในระยะยาว"
เล็งลงทุน Senior Housing
ขณะเดียวกัน กบข. ยังมองหาโอกาสการลงทุนในระยะยาว โดยกำลังเตรียมสรุปผลการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในโครงการที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (Senior Housing) ในต่างประเทศ เช่น จีน ออสเตรเลีย และยุโรป ซึ่งมองว่าอุตสาหกรรมนี้มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่ดี โดยทั่วไปมีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนภายใน (IRR) ประมาณ 8-12%
โดยคาดว่าจะสามารถตัดสินใจในทิศทางที่ชัดเจนได้ภายในปีนี้ และมีแผนจะเดินทางไปดูงานพร้อมเปิดการศึกษาในเชิงลึกเพื่อหาพันธมิตรในการร่วมลงทุนทั้งในต่างประเทศและพิจารณาโอกาสสำหรับประเทศไทยด้วย
“จากแนวโน้มสังคมสูงวัยที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในประเทศจีน เป็นกรณีศึกษาให้ กบข. ต้องศึกษาการลงทุนในโครงการที่พักอาศัยผู้สูงอายุอย่างจริงจัง เพื่อสร้างโอกาสการลงทุนในสินทรัพย์ที่น่าสนใจคาดว่าจะได้รับผลตอบแทนที่ดี ถือเป็นการลงทุนเช่นเดียวกับอสังหาริมทรัพย์ ที่ได้มีการลงทุนประมาณ 9% ของพอร์ตการลงทุนส่วนของสมาชิก กบข.“ นายทรงพลกล่าว
เปิดทางรับผลตอบแทนื่งเลือกก่อนเกษียณ
นายทรงพล กล่าวว่า กบข. เป็นกองทุนการออมเพื่อการเกษียณ ทำให้มีข้อจำกัดในการขอรับเงินคืนได้เมื่อออกจากราชการเท่านั้น กบข. จึงดำเนินการลดข้อจำกัดดังกล่าว เพิ่มแรงจูงใจให้สมาชิกเลือกใช้บริการออมเพิ่มมากขึ้น ด้วยการสำรวจความต้องการและความสนใจของสมาชิกซึ่งสมาชิกให้ความสนใจแนวทางการเพิ่มทางเลือกการรับผลตอบแทนในรูปแบบอื่น 4 แนวทาง ดังนี้
1. การเลือกรับเงินปันผลเป็นประจำ 2.สิทธิการถอนเงินก่อนสิ้นสมาชิกภาพ 3. สิทธิการใช้เงินออมซื้อประกันชีวิตและสุขภาพ และ 4. สิทธิการเข้าอาศัยในศูนย์ที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (Senior Housing) หลังจากนี้ กบข. จะนำแนวทางดังกล่าวไปศึกษาความเป็นไปได้ และสรุปผลนำเสนอคณะกรรมการฯ เพื่อพิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ กบข. มีความมุ่งหวังยกระดับคุณภาพชีวิตของสมาชิก ลดปัญหาหนี้สินและการไม่มีที่อยู่อาศัยหลังเกษียณของสมาชิก ซึ่งจากข้อมูลการออมเพิ่มของสมาชิก ส่วนที่เกินกว่า 1-27% ของเงินเดือน ซึ่งเป็นส่วนที่สมาชิกร่วมออมได้โดยสมัครใจ ณ สิ้นปี 2567 มีสมาชิกออมเพิ่ม 24% ของสมาชิกทั้งหมด เป็นจำนวนเงินออมเพิ่ม 29,820 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 6% ของเงินกองทุนส่วนของสมาชิก
"แนวคิดที่จะสร้างเงื่อนไขให้เงินออมส่วนนี้สามารถนำมาใช้ได้ก่อนเกษียณอายุ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านการออมระยะสั้นของสมาชิก เช่น เพื่อการศึกษา หรือความจำเป็นอื่นๆ ในช่วงชีวิต อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าวต้องผ่านกระบวนการแก้ไขกฎหมายซึ่งต้องใช้เวลา และสิทธิประโยชน์ทางภาษีของการออมประเภทนี้อาจแตกต่างจากการออมเพื่อเกษียณอายุหลัก"