องค์กรห่วงโซ่อุตสาหกรรมปาล์มฯ ยื่น 4 กระทรวง ปรับสูตรไบโอดีเซล B7

องค์กรห่วงโซ่อุตสาหกรรมปาล์มฯ ยื่น 4 กระทรวง ปรับสูตรไบโอดีเซล B7

องค์กรห่วงโซ่อุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันแบบยั่งยืน ยื่น 4 กระทรวง “คลัง-พลังงาน-เกษตร-พาณิชย์” แก้ปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ ขอให้ปรับสูตรไบโอดีเซลเป็น B7 รัฐตั้งราคารับซื้อลายปาล์มสูงสุด

นายกษมา โพธิใหญ่ เลขาธิการองค์กรห่วงโซ่อุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันแบบยั่งยืน ทำหนังสือลงวันที่ 25 เม.ย.2568 เรื่องขอให้พิจารณาแก้ไขปัญหาราคาปาล์มตกต่ำอย่างเร่งด่วน ถึงรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง 4 กระทรวง ประกอบด้วย

1.นายพิชัย ชุนหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

2.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

3.นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

4.นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

นายวิเชียร ระบุในหนังสือร้องเรียนว่า สาเหตุหลักมาจากผลผลิตปาล์มน้ำมันที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้สต๊อกน้ำมันปาล์มดิบพุ่งทะลุ 259,000 ตัน ส่งผลให้ราคาตกต่ำและเกษตรกรได้รับผลกระทบโดยตรง ขณะที่ความพยายามส่งออกก็ไม่สัมฤทธิ์ผล เพราะราคาน้ำมันของไทยยังสูงกว่าตลาดโลก

องค์กรห่วงโซ่อุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันแบบยั่งยืน ระบุว่า ผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 ไม่ยอมรับซื้อน้ำมันไบโอดีเซล B100 ตามราคาประกาศของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) แต่กลับบีบให้โรงงานขายราคาต่ำกว่าจนขาดทุน และบางแห่งถึงขั้นต้องปิดกิจการ

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) และคณะรัฐมนตรีมีมติชัดเจน ให้ผู้ค้าน้ำมันรับซื้อ B100 ตามราคาประกาศของ สนพ. โดยไม่ขอส่วนลดพิเศษ เพื่อความเป็นธรรมในห่วงโซ่อุตสาหกรรม แต่กลับพบว่าหลายฝ่ายยังไม่ปฏิบัติตาม

องค์กรห่วงโซ่อุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันแบบยั่งยืน เสนอ 3 แนวทางสำคัญ ในการแก้ปัญหาให้รัฐมนตรีว่าการทั้ง 4 กระทรวง ได้แก่

1.เพื่อแก้ปัญหาปริมาณสต็อกน้ำมันปาล์มส่วนเกิน จึงขอให้ดำเนินการปรับส่วนผสมไบโอดีเซล B100 หรือไบโอดีเซลจากส่วนผสม B5 เป็น B7 ทันที

2.ขอให้รัฐกำหนดราคารับซื้อขั้นต่ำทลายปาล์มน้ำมันในราคาสูงสุดเพื่อช่วยเหลือชาวส่วนปาล์มน้ำมัน

3.ขอให้รัฐบังคับใช้มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) และมติคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ และมติคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กปน.) ให้ผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 รับซื้อ B100 ตามราคาประกาศของสำนักงานนยายและแผนพลังงาน (สนพ.) เพื่อป้องกันการเอาเปรียบ และการทำลายโครงสร้างธุรกิจน้ำมันปาล์มทั้งระบบ