สรท.เผยหลังทรัมป์ขึ้นภาษี ผู้ส่งออกไร้แผนลงทุนสหรัฐเหตุต้นทุนสูง

สรท.เผย ผลสำรวจหลังทรัมป์เตรียมขึ้นภาษี ผู้ส่งออกไทยบางราย เตรียมหยุดรับคำสั่งซื้อจากคู่ค้าสหรัฐ บางรายเตรียมหาตลาดใหม่ บางราย รับออร์เดอร์ทะลัก ชี้ผู้ส่งออกส่วนใหญ่ ไม่มีแผนลงทุนในสหรัฐ เพราะต้นทุนสูง แนะรัฐกระจายความเสี่ยงตลาดส่งออก จี้รัฐเร่งแก้ปัญหาสินค้าต่างประเทศถล่มไทย คาดครึ่งปีหลังออร์เดอร์ลดฮวบ
นายธนากร เกษตรสุวรรณ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า สรท.ได้สำรวจความเห็นของผู้ส่งออก ที่เป็นสมาชิก และหารือร่วมกับกลุ่มอุตสาหกรรมส่งออก เกี่ยวกับผลกระทบจากมาตรการภาษีต่างตอบแทน (Reciprocal Tariff) ของสหรัฐ ระหว่างวันที่ 9-22 เม.ย.68 พบว่า ขณะนี้ ผู้ส่งออกบางกลุ่มยังไม่ได้รับผลกระทบ, บางกลุ่มได้รับผลกระทบทางบวก อาทิ คำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น ถูกเร่งรัดการส่งมอบสินค้าให้เร็วขึ้น และบางกลุ่มได้รับผลกระทบทางลบ เช่น คำสั่งซื้อสินค้าลดลง ยกเลิกคำสั่งซื้อ และลูกค้าผลักภาระต้นทุนภาษีที่เพิ่มขึ้นให้กับผู้ส่งออก เป็นต้น
โดยผู้ส่งออกไทย มีวิธีการรับมือ คือ เจรจากับลูกค้าเพื่อแบ่งความรับผิดชอบต่อภาระภาษีที่เพิ่มขึ้น ทั้งการลดราคาสินค้ากรณีลูกค้าเป็นผู้ชำระค่าภาษี และการขอขึ้นราคาสินค้ากรณีผู้ส่งออกไทยเป็นผู้ชำระภาษี, การชะลอรับคำสั่งซื้อเพื่อดูสถานการณ์ เพราะกำไรไม่เพียงพอต่อการจ่ายหรือการช่วยจ่ายภาษีให้กับลูกค้า, การหาตลาดอื่นทดแทน เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังได้ถามถึงแนวทางการเจรจาของไทยกับสหรัฐ ที่จะให้ไทยไปลงทุนในสหรัฐเพิ่มขึ้น รวมถึงเพิ่มการนำเข้าสินค้าบางรายการ หรือนำเข้าสินค้าบางรายการที่ยังไม่เคยนำเข้านั้น ผู้ส่งออกกว่า 88.9% ระบุว่าไม่มีการลงทุน และไม่มีแผนหรือความต้องการลงทุนในสหรัฐ เพราะต้นทุนจะสูงขึ้นมาก และ 11.1% ระบุว่ามีบริษัทแม่หรือบริษัทในเครือตั้งอยู่ในสหรัฐแล้ว ขณะที่มีเพียง 31.6% ที่นำเข้าวัตถุดิบจากสหรัฐอยู่แล้ว เช่น ถั่วเหลือง เครื่องจักร และอุปกรณ์ เม็ดพลาสติก วัตถุดิบอาหารสัตว์ เป็นต้น ส่วนที่เหลือนำเข้าจากแหล่งอื่น ที่ราคาถูกกว่า และใช้วัตถุดิบภายในประเทศ
นายธนากร กล่าวว่า สรท.ประเมินว่าสหรัฐอเมริกาจะเจรจากับประเทศคู่ค้าเพื่อหาข้อยุติร่วมกัน และในท้ายที่สุดอาจมีการเรียกเก็บ Reciprocal Tariff ในอัตรา 10% ซึ่งไทยควรจะเจรจาโดยแยกมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ผลิตภายใต้การลงทุนของสหรัฐ และเพิ่มการนำเข้าสินค้าทุนที่ไทยต้องการจากสหรัฐ รัฐ และเอกชนควรเร่งวางกลยุทธ์รายกลุ่มสินค้า และคู่ค้า โดยต้องคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพการค้าและการลงทุนที่ได้รับผลจากนโยบายภาษีนำเข้า และเน้นการกระจายความเสี่ยงและสร้างโอกาสในกรอบความร่วมมือ เช่น อาเซียน–สหรัฐ อาเซียน-ยุโรป อาเซียน–จีน อาเซียน–ญี่ปุ่น อาเซียน–เกาหลี และอาเซียน–อินเดีย
รวมทั้งเร่งจัดตั้งคณะทำงานเพื่อรับมือรูปแบบการค้าใหม่ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และมีองค์ประกอบหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงหน่วยงานภาคเอกชน ได้แก่ สมาคมธนาคารไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย
สรท.ขอให้ภาครัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังสินค้าจากประเทศที่ได้รับผลกระทบจาก Reciprocal Tariff ซึ่งมีแนวโน้มทะลักเข้ามาในไทย โดยเฉพาะสินค้าผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ ของเล่น เครื่องเล่นเกม ชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องปรับอากาศ เครื่องเสียง และเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน ภาชนะบนโต๊ะอาหาร ผลิตภัณฑ์พลาสติก เฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งบ้าน รถโดยสาร สิ่งทอ และเครื่องนุ่งห่ม เครื่องหนัง และรองเท้า เป็นต้น
รวมทั้งดำเนินการมาตรการเพื่อป้องกันการนำเข้า และการเข้ามาลงทุนผลิตในประเทศ ประกอบด้วย การออกมาตรการต้านการนำเข้าสินค้าด้อยคุณภาพ โดยกำกับดูแลตั้งแต่ในประเทศต้นทาง เช่น สินค้าและโรงงานต้องได้รับการรับรองมาตรฐานของไทย ผู้ส่งออกที่ขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ต้องระบุ ID Number ให้ชัดเจนไม่ซ้ำซ้อน ตรวจสอบสินค้านำเข้า 100% เพื่อป้องกันสินค้าด้อยคุณภาพเข้าประเทศ ตรวจสอบสินค้าผ่าน Free zone 100% เพื่อป้องกันการสวมสิทธิ์ส่งออก
มาตรการต้านการลงทุนศูนย์เหรียญ เช่น ทบทวนสิทธิประโยชน์ตามมาตรการส่งเสริมการลงทุน (BOI) สำหรับการลงทุนใหม่, ให้ใช้วัตถุดิบภายในประเทศไม่น้อยกว่า 40% เพื่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มในประเทศ ฯลฯ และออกมาตรการส่งเสริมค้าระหว่างประเทศ โดยต้องอัดฉีดงบประมาณสำหรับจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ และงบสนับสนุนด้านการตลาดแก่ภาคเอกชน เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าไทยในสายตาคู่ค้า และผู้บริโภคในตลาดโลก
นายสุภาพ สุวรรณพิมลกุล รองประธาน สรท.กล่าวว่า สรท.คาดว่า ในไตรมาส 2 ตัวเลขส่งออกน่ายังดีแต่ในครึ่งปีหลังคำสั่งซื้อจะลดฮวบฮาบ เพราะผู้นำเข้าได้เก็บสต๊อกไว้แล้วจำนวนมาก อย่างไรก็ตามขณะนี้ สรท.ยังไม่ปรับเป้าส่งออก
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์