ย้อนรอยวิบากกกรรมการบินของไทยหลังสหรัฐปลดล็อกไทยกลับชั้นCAT1

ย้อนรอยวิบากกกรรมการบินของไทยหลังสหรัฐปลดล็อกไทยกลับชั้นCAT1

อุตสาหกรรมการบินถือเป็นด่านสำคัญที่จะส่งต่อให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้ตามเป้าหมาย เพราะเป็นกลไกขนส่งทั้งนักท่องเที่ยวและนักลงทุนเข้ามา ยังประเทศไทย

พร้อมส่งนักธุรกิจไทยออกไปทำตลาดในต่างประเทศ แต่ตลอดระยะเวลา 10 ที่ผ่านมาอุตสาหกรรมการบินของไทยยังเผชิญกับวิบากกรรมว่าด้วยมาตรฐานที่ยังไม่เทียบชั้นสากล 

เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2568 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า องค์การบริหารการบินแห่งสหรัฐ (Federal Aviation Administration) หรือ FAA ได้ประกาศผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ ปรับระดับมาตรฐานการบินของไทย จาก Category 2 (CAT2) ซึ่งไทยได้รับการจัดให้อยู่ในกลุ่มนี้ตั้งแต่ปี 2558 ยกระดับกลับไปสู่ Category 1 (CAT1) เป็นกลุ่มประเทศที่มีมาตรฐานการบินอยู่ในระดับมาตรฐานสากล นับเป็นข่าวดีของอุตสาหกรรมการบินของไทยในรอบเกือบ 10 ปี

“การที่ไทยได้กลับสู่ FAA Category 1 จะเอื้อประโยชน์อย่างมากต่อการขยายตัวของอุตสาหกรรมการบินของไทย โดยเฉพาะการเปิดหรือขยายเส้นทางบินของสายการบินไทยไปยังสหรัฐ”

 นอกจากนี้สายการบินของไทยทั้งสายการบินใหม่และสายการบินเดิม จะสามารถเปิดเส้นทางใหม่หรือเพิ่มความถี่เที่ยวบินไปยังประเทศที่ให้ความสำคัญกับผลการประเมินของ FAA เช่น เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และฮ่องกง เป็นการเพิ่มโอกาสการเดินทางระหว่างประเทศ คนไทยจะมีตัวเลือกในการเดินทางมากขึ้น ทั้งในด้านเส้นทาง เวลาเดินทาง และราคาที่แข่งขันกันมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ค่าโดยสารมีแนวโน้มถูกลง และการเดินทางสะดวกสบายขึ้น 

รวมถึงเป็นการเพิ่มโอกาสการจ้างงานในสายการบินต่างประเทศ นักบินไทยที่เคยถูกปฏิเสธการรับเข้าทำงาน เนื่องจากข้อจำกัดจาก FAA CAT2 จะสามารถสมัครงานกับสายการบินต่างประเทศได้เพิ่มมากขึ้น เปิดโอกาสให้นักบินไทยได้มีรายได้สูงขึ้น และได้พัฒนาทักษะระดับสากล ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการยกระดับบุคลากรการบินของไทยในระยะยาว

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า เมื่อการบินของไทยมีมาตรฐานเทียบเท่าสากล จะทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเกิดความเชื่อมั่นและมีทางเลือกในการเดินทางมายังประเทศไทยมากขึ้น ส่งผลให้เกิดรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น และมีการจ้างงานในภาคการบิน การท่องเที่ยว และบริการที่เกี่ยวข้องมากขึ้น ซึ่งอุตสาหกรรมท่องเที่ยวถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย 

“การกลับสู่ CAT1 เป็นสัญลักษณ์ของความน่าเชื่อถือในมาตรฐานความปลอดภัยการบินของไทยในสายตานานาชาติ ช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อการเจรจาทางเศรษฐกิจ การค้าระหว่างประเทศ และการลงทุนจากต่างชาติ ยกระดับภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของประเทศ”

ในด้านของการดำเนินการเพื่อยกระดับมาตรฐานการบินของไทยกลับคืนสู่ CAT1 สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT ได้ดำเนินการตามแผนการแก้ไขข้อบกพร่อง (Corrective Action Plan – CAP) อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจากการที่ FAA เข้ามาตรวจประเมินที่ CAAT ตั้งแต่ช่วงพ.ย. 2567 และได้แจ้งให้แก้ไขข้อบกพร่อง (Findings) CAAT ได้ทำงานกันอย่างเต็มที่ในการปรับปรุงข้อกำหนด รวมถึงประสานหน่วยงานด้านการบินทุกภาคส่วน จนสามารถแก้ไขข้อบกพร่องทั้งหมด 36 ข้อได้อย่างครบถ้วน โดย FAA ได้พิจารณาและปิดข้อบกพร่องทั้งหมด (Zero Open Finding) ภายหลังการหารือขั้นสุดท้าย (Final Discussion) เมื่อวันที่ 10 – 12 มี.ค. 2568

       สำหรับการปรับระดับมาตรฐานด้านการบิน FAA สืบเนื่องจากเมื่อปี 2558 FAA ได้ประกาศลดอันดับไทยอยู่ให้อยู่ใน Category 2 เนื่องจากไม่สามารถแก้ไข 36 ข้อบกพร่องได้ครบตามกำหนด ซึ่งสอดคล้องไปกับผลการตรวจสอบมาตรฐานด้านการบินจากองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) โดยมีประเด็นสำคัญ อาทิ การกำหนดในกฎหมายเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของ CAAT ในการควบคุมกำกับด้านด้านเทคนิคและความปลอดภัยของสายการบิน

นอกจากนี้ยังมีประเด็นผู้ตรวจสอบภาคอากาศนักบิน โดยที่ผ่านมายังมีไม่เพียงพอ และไม่ครบตามประเภทของเครื่องบินที่สายการบินของไทยทำการบินอยู่ แต่ปัจจุบันไทยสามารถแก้ไขข้อบกพร่องและตรวจสอบผ่านมาตรฐาน ICAO แล้ว ซึ่งเป็นเกณฑ์การตรวจสอบที่สอดคล้องไปกับ FAA

ข้อมูลจากCAAT ระบุว่า วิบากกรรมการบินของไทยเมื่อปี 2558 หลัง  ICAO ให้ธงแดงแก่ไทยแล้วต่อมาFAA ระบุว่า“ระบบการกำกับดูแลความปลอดภัยการบินพลเรือนของประเทศไทยไม่เป็นไปตามมาตรฐานระหว่างประเทศของอนุสัญญาว่าด้วยการบินพลเรือนระหว่างประเทศเกี่ยวกับการกำกับดูแลความปลอดภัยการบินพลเรือน ทำให้ประเทศไทยถูกจัดอยู่ ในกลุ่ม Category 2 ของ FAA จากเดิมที่อยู่ในกลุ่ม Category 1 ซึ่งในปีเดียวกันนั้น มีประเทศที่อยู่ใน  Category 2 ของ FAA 8 ประเทศ ได้แก่ บังกลาเทศ บาร์บาโดส คูราโซ กานา อินโดนีเซีย เซนต์มาร์ติน อุรุกวัย และไทย

โดยกระทรวงคมนาคมสหรัฐมีมาตรการจำกัดการอนุญาตให้สายการบินของไทยทำการบินในเชิงพาณิชย์ ทั้งในการพิจารณาอนุญาตสิทธิทางเศรษฐกิจ (economic authority) และการพิจารณาการออกข้อกำหนดรายละเอียดการปฏิบัติการ (Operation Specifications) แม้ไทยสามารถทำการบินเข้า/ออกจากสหรัฐได้ เฉพาะที่ได้รับอนุญาตอยู่ก่อนแล้ว แต่จะไม่สามารถเพิ่มเที่ยวบิน หรือ จุดหมายการบินได้  แต่สายการบินของไทยจะถูกตรวจสอบ (inspections) ที่ท่าอากาศยานของสหรัฐที่เข้มงวดมาก

อย่างไรก็ตาม ในปีเดียวกันนั้น สำนักงานความปลอดภัยการบินแห่งยุโรป ( European Aviation Safety Agency :EASA)

หน่วยงานด้านความปลอดภัยด้านการบินแห่งสหภาพยุโรป  ซึ่งเข้ามาตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินของไทย ทั้งหน่วยงานรัฐและสายการบินไทย เมื่อวันที่ 9-10 พ.ย.2558ผลการตรวจสอบพบว่า คณะกรรมาธิการแห่งสหภาพยุโรป ได้มีแถลงการณ์ EU Air Safety List เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 2558 ประกาศรายชื่อสายการบินที่ไม่อนุญาตให้ ทำการบินในเขตสหภาพยุโรป โดยมีความเห็นที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยว่า “ไม่ปรากฏว่ามีสายการบินของประเทศไทยที่ถูกเพิ่มเติมในรายชื่อสายการบินที่ไม่อนุญาตให้ทำการบินในขณะนี้” เท่ากับว่า ผลการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินของไทย โดย EASA “สอบผ่าน”

จากมาตรฐานด้านการบินของสถาบันการบินระดับโลกทั้งฝั่งยุโรป สหรัฐ และองค์การระดับนานาชาติต่างประสานเสียงว่ามาตรฐานการบินของไทยอยู่ในระดับสากล นี่คือใบผ่านที่ไทยจะส่งต่อให้อุตสาหกรรมการบินสามารถเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อย่างเต็มกำลังอีกทางหนึ่ง 

ย้อนรอยวิบากกกรรมการบินของไทยหลังสหรัฐปลดล็อกไทยกลับชั้นCAT1