ราคาน้ำมันดิบร่วง 2% หลังมีข่าวโอเปกพลัส เตรียมเร่งเพิ่มการผลิต

ราคาน้ำมันดิบร่วง 2% หลังมีข่าวโอเปกพลัส เตรียมเร่งเพิ่มการผลิต

ราคาน้ำมันร่วง 2% ในวันพุธ หลังข่าวโอเปกพลัส เตรียมเร่งเพิ่มการผลิตในเดือนมิถุนายน แต่ราคาถูกพยุงไว้ หลังมีข่าวประธานาธิบดีทรัมป์อาจลดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนลง

รอยเตอร์ รายงานภาวะตลาดน้ำมันโลกวันพุธ(23 เม.ย.) หรือเมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทยว่า ราคาน้ำมันร่วง 2% ในวันพุธ หลังแหล่งข่าวเผยกลุ่มโอเปกพลัส เตรียมเร่งเพิ่มการผลิตในเดือนมิถุนายน แต่ระดับการร่วงถูกยันไว้ หลังจากมีรายงานว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐอาจลดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ตลาดล่วงหน้าปิดตลาดลดลง 1.32 ดอลลาร์ หรือ 1.96% แตะที่ 66.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียตของสหรัฐ(WTI) ปิดตลาดลดลง 1.40 ดอลลาร์ หรือ 2.2% แตะที่ 62.27 ดอลลาร์

ราคาน้ำมันเบรนท์ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานโลกแตะระดับสูงสุดในรอบการซื้อขายที่ 68.65 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน ก่อนที่มีรายงานข่าวว่า โอเปกพลัส จะเร่งเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน

สมาชิกโอเปกพลัส หลายรายเสนอให้กลุ่มเร่งเพิ่มการผลิตน้ำมันเป็นเดือนที่สองติดต่อกันในเดือนมิถุนายน แหล่งข่าว 3 รายที่ทราบข่าวการเจรจาโอเปกพลัส เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์

เมื่อเร็วๆ นี้ สมาชิกโอเปกพลัสเกิดความตึงเครียดเกี่ยวกับการปฏิบัติตามโควตาการผลิต

“ผมคงไม่แปลกใจเลยที่โอเปกต้องการเพิ่มการผลิต ซึ่งอาจทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความสามัคคีของกลุ่มโอเปก หรือบางทีพวกเขาอาจเบื่อหน่ายกับการยับยั้งการเพิ่มการผลิตแล้ว” ฟิล ฟลินน์ นักวิเคราะห์จาก Price Futures Group กล่าว

ดัชนีราคาทั้งสองปรับตัวลดลงเล็กน้อยในการซื้อขายช่วงบ่าย หลังจากกระทรวงพลังงานของคาซัคสถานออกแถลงการณ์ว่าคาซัคสถานซึ่งไม่ใช่สมาชิกโอเปก แต่เป็นพันธมิตรในกลุ่มโอเปกพลัส เป็นผู้มีส่วนร่วมอย่างมีความรับผิดชอบในชุมชนพลังงานระหว่างประเทศ และสนใจในเรื่องการคาดการณ์และความสมดุลของอุปสงค์และอุปทาน

คาซัคสถานทำให้สมาชิกโอเปกพลัส รายอื่นๆ ไม่พอใจด้วยการผลิตเกินโควตาที่จัดสรรไว้

“การเข้าร่วมโอเปกพลัสของเราเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างเสถียรภาพระดับโลก สร้างเงื่อนไขสำหรับการดำเนินการตามแผนระดับชาติ และดึงดูดการลงทุน เรามุ่งมั่นที่จะทำงานเชิงสร้างสรรค์ภายในกรอบข้อตกลงและปฏิบัติตามภาระผูกพันของเรา” แถลงการณ์ดังกล่าวอ้างคำพูดของเออร์ลัน อักเคนเชนอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

ก่อนหน้านี้ อักเคนเชนอฟ บอกกับรอยเตอร์ว่าประเทศของเขาจะให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของประเทศมากกว่าผลประโยชน์ของกลุ่มผู้ผลิตโอเปกพลัส เมื่อตัดสินใจเกี่ยวกับระดับการผลิตน้ำมัน

ตลาดยังได้รับแรงหนุนบ้างหลังจากข้อมูลของรัฐบาลแสดงให้เห็นว่าปริมาณสำรองน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในขณะที่ปริมาณสำรองน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นลดลงมากกว่าที่คาดไว้

“เราเห็นปริมาณสำรองผลิตภัณฑ์ที่เป็นขาขึ้นลดลงอีกครั้งในช่วงฤดูการผลิต” จอช ยัง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Bison Interests กล่าว “ดูเหมือนว่าจะไม่สะท้อนถึงการลดลงของอุปสงค์ที่อาจเกิดขึ้นจากสงครามการค้า/ภาษีของทรัมป์

โอกาสในการลดกำแพงภาษี

ข่าวเกี่ยวกับภาษียังช่วยจำกัดการลดลงของราคาน้ำมันได้บางส่วน รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ จะพิจารณาลดภาษีสินค้านำเข้าจากจีนระหว่างการเจรจากับปักกิ่ง แหล่งข่าวที่ทราบเรื่องดังกล่าวกล่าวเมื่อวันพุธ โดยเสริมว่าจะไม่ดำเนินการใดๆ ฝ่ายเดียว

 

ภาษีนำเข้าสินค้าจีนน่าจะลดลงเหลือระหว่าง 50- 65% ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ The Wall Street Journal ซึ่งอ้างแหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว

 

รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ สก็อตต์ เบสเซนต์ กล่าวว่าเขาเชื่อว่าภาษีศุลกากรที่สูงเกินไประหว่างสหรัฐฯ และจีนจะต้องถูกปรับลดลงเสียก่อน จึงจะสามารถดำเนินการเจรจาการค้าต่อไปได้

ทรัมป์ยอมถอยจากการคุกคามเพื่อปลดเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ออกจากตำแหน่ง หลังจากที่วิพากษ์วิจารณ์เฟดที่ไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันหลายวัน ซึ่งช่วยคลายความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ได้ออกมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อผู้ประกอบการเดินเรือรายใหญ่ชาวอิหร่าน ซึ่งมีเครือข่ายในการขนส่งสินค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลวและน้ำมันดิบของอิหร่านมูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์