จับตา! 'พลโท ดร.กฤตภาส-สมบูรณ์' โชว์วิสัยทัศน์ 8 พ.ค.68 ชิง ผอ.สกนช. คนใหม่

สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติเข้ารับการสรรหา “ผอ.สกนช.” คนใหม่ กำหนดแสดงวิสัยทัศน์ 8 พฤษภาคม 2568
(วันที่ 23 เมษายน 2568) สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) กระทรวงพลังงาน เปิดเผยความคืบหน้าการสรรหาผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงคนใหม่ ซึ่งเปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 17 กุมภาพันธ์ - 21 มีนาคม 2568 รวมระยะเวลาประมาณ 1 เดือนนั้น
ล่าสุด คณะอนุกรรมการสรรหาผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เป็นประธาน ได้ลงนามวันที่ 23 เมษายน 2568 ประกาศรายชื่อผู้สมัครที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้น จำนวน 2 คน โดยกำหนดให้เข้ามาสัมภาษณ์ และแสดงวิสัยทัศน์ในวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 นี้
สำหรับผู้สมัครที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้น จำนวน 2 คน ได้แก่ 1. พลโท ดร.กฤตภาส คงคาพิสุทธ์ อดีตรองเจ้ากรมการพลังงานทหาร และ 2. นายสมบูรณ์ หน่อแก้ว อดีตรองปลัดกระทรวงพลังงาน โดยทั้ง 2 ท่าน จะแสดงวิสัยทัศน์ และแนวทางการบริหารงาน สกนช. ต่อคณะอนุกรรมการสรรหาฯ ต่อไป
นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ในฐานะประธานอนุกรรมการสรรหาผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า การแสดงวิสัยทัศน์จะมีเกณฑ์การคัดเลือกจากคุณสมบัติ ประสบการณ์ และความเหมาะสมกับตำแหน่ง ตามที่กำหนดไว้ในประกาศคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีการสรรหาผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อเสนอต่อ กบน. ต่อไป และคาดว่าจะสามารถประกาศผลการแต่งตั้ง ผอ.สกนช.คนใหม่ ได้ภายในเดือนพฤษภาคม 2568
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้สมัคร ผอ. สกนช. คนใหม่ต้องมาแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับนโยบายในเรื่องของร่างกฎหมายน้ำมัน SPR หรือ Strategic Petroleum Reserve ระบบสำรองน้ำมัน และก๊าซเชิงยุทธศาสตร์ 9,000 ล้านลิตร ซึ่งขณะนี้ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน อยู่ระหว่างการเตรียมนำเข้ารัฐสภาในต้นปี 2568 ดังนั้น ว่าที่ผอ. สกนช. คนใหม่จะมีความรู้เรื่องของ SPR และเรื่องของการเงินมากน้อยแค่ไหน ซึ่งถือเป็นความท้าทายความสามารถ
สำหรับระบบ SPR ตามแนวคิดของนายพีระพันธุ์ เป็นแนวทางการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันแบบที่สากลใช้กันในกลุ่ม IEA หรือองค์การพลังงานระหว่างประเทศ (International Energy Agency) โดยใช้การบริหารกลไกราคาน้ำมันโดยใช้ปริมาณน้ำมันในสต๊อก ซึ่งไม่ได้ใช้เงินในการอุดหนุนเหมือนกองทุนน้ำมันฯ ที่ทำอยู่ในปัจจุบัน โดยจะทำให้ไทยมีระบบสำรองน้ำมันเป็นของประเทศไม่ได้ขึ้นอยู่กับภาคเอกชนอย่างเดียว
รวมถึงการแสดงถึงความสามารถในเรื่องของการแก้ปัญหากองทุนน้ำมันฯ ที่ยังคงติดลบรวมกว่า 54,935 ล้านบาท และเงินกู้ยืมเพื่อมาเสริมสภาพคล่องอีกกว่า 81,660 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันกองทุนน้ำมันฯ ยังต้องจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ราวกว่า 200 ล้านบาทต่อเดือน จากยอดเต็มเงินกู้ที่สะสมคงเหลืออีก 81,660 ล้านบาท โดยมีกำหนดจ่ายคืนครบทั้งหมดช่วงปี 2570-2571 ซึ่งกองทุนน้ำมันฯ กู้เงินรวม 105,333 ล้านบาท
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







