'พิชัย' ชี้ไทยปรับแผนเจรจาการค้าสหรัฐระบุไม่เร็ว - ไม่ช้าเกินไป

"พิชัย" ชี้เลื่อนเจรจาสหรัฐ ขอรอดูประเทศอื่นหัวขบวน เจออะไรบ้าง เพื่อพิจารณาทางเลือกให้รอบคอบ ย้ำรีบเกินไปไม่ดี ช้าเกินไปไม่ได้ เผยเตรียมมาตรการไว้พร้อม
วันนี้ (22 เม.ย.68) นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะหัวหน้าทีมเจรจาการค้าไทย-สหรัฐ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าสาเหตุการเลื่อนเจรจากับสหรัฐ เพราะขอรอดูสถานการณ์ก่อน โดยต้องการศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ ไม่อยากไปเจรจา โดยที่ไม่มีการเตรียมตัวให้รอบด้านก่อน โดยในขณะนี้ได้มีการส่งทีมล่วงหน้าไปทำงานร่วมกับคณะทำงานของสหรัฐเพื่อปรับจูนเรื่องต่างๆ ให้เข้าใจตรงกัน
"ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปตลอด เราขออย่าให้เร็วกว่าคนอื่น และอย่าช้ากว่าคนอื่น เร็วไปก็ไม่ดี แล้วถ้าช้ากว่าคนอื่นก็ไม่ดี เหมาะสมที่สุด คือ ดูก่อนหัวขบวนเขาโดนอะไรบ้าง กลางขบวนโดนอะไรบ้าง เราอยู่กลางๆ เกือบท้ายเราจะได้รู้ว่า ควรจะทำอย่างไร จริงๆ เขาอยากให้ไป อยากให้ทุกคนไป เพียงแต่จะจัดคิวอย่างไร ส่วนผม อาจต้องละเอียดรอบคอบหน่อย" นายพิชัย กล่าว
ในระหว่างนี้ที่เหลือเวลาอีกประมาณ 70 วัน เชื่อว่าทุกคนร้อนใจ จึงแบ่งการทำงานออกเป็น 2 ส่วนในระดับปฏิบัติการ คือ ส่วนที่อยู่ในสหรัฐ นำโดยเอกอัครราชทูตไทยประจำสหรัฐ ร่วมกับทีมจากประเทศไทย ประสานกับฝ่ายสหรัฐ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจน นอกเหนือจากข้อเสนอของฝั่งไทย และเพื่อให้ทราบในสิ่งที่สหรัฐ ต้องการอย่างแท้จริง
"ยังไม่สามารถระบุได้ว่า จะเดินทางไปเจรจาในช่วงใด ต้องดูสถานการณ์ที่เหมาะสม เพราะการเจรจาดังกล่าว เหมือนการเจรจาธุรกิจ ตนเองขอใช้ประสบการณ์ส่วนตัว เข้ามาดำเนินการในเรื่องนี้"นายพิชัย กล่าว
อีกส่วนคือ การทำงานในประเทศไทยระดับบริหาร ที่ต้องติดตามสถานการณ์ กรณีที่มีการเปลี่ยนแปลง หรือเกิดผลกระทบ แบ่งเป็น เรื่องการเงิน ต้องหารือกับ แบงก์ชาติ และ สถาบันการเงิน ว่าจะแก้ไขอย่างไร
โดยหนึ่งในประเด็นที่คาดว่า สหรัฐมีความกังวล และจะหยิบยกขึ้นพูดคุยคือ เรื่องของค่าเงิน เมื่อสหรัฐ ต้องการส่งออก จึงหวังว่า ประเทศต่างๆ จะไม่เข้าไปแทรกแซงค่าเงิน
ขณะที่อีกเรื่องคือ การสวมสิทธิส่งออกสินค้า ที่จะต้องหารือหลักเกณฑ์ให้ตรงกันทั้งสองฝ่าย ว่ามีข้อกำหนดวิธีการเงื่อนไขอย่างไร ที่จะชี้วัดว่า สินค้าใดเป็นสินค้าสวมสิทธิจากประเทศไทย
สำหรับเรื่องการฟื้นฟูเยียวยาผลกระทบ ที่เกิดการส่งออก การผลิตลงไปถึงระดับแรงงาน ต้องหารือกับสภาพัฒน์ จะรับมือ และมีแนวทางแก้ปัญหาอย่างไร
และสุดท้ายคือ เรื่องปฏิรูป คือ การปรับปรุงกำหนดหลักเกณฑ์กติกาการส่งออก ให้เกิดความรวดเร็ว โปร่งใส ในลักษณะที่ทั้งสองฝ่ายได้ประโยชน์ หรือ วิน-วิน แต่ต้องเกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศ
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







