สะพัด! 'พีระพันธุ์' เบรกซื้อไฟสะอาด 2,180 MW เอื้อโรงไฟฟ้าเก่าโกยกำไร

สะพัด! 'พีระพันธุ์' เบรกซื้อไฟสะอาด 2,180 MW เอื้อโรงไฟฟ้าเก่าโกยกำไร

"พีระพันธุ์" ไม่ให้ซื้อไฟราคาถูกหน่วยละ 2.16 บาท ลือมีดีลต่ออายุโซลาร์ฟาร์มฟันค่า Adder หลายหมื่นล้าน ดองรับซื้อไฟจากพลังงานหมุนเวียน 2,180 MW 5 เดือน กระทบเป้า Net Zero

รายงานข่าวระบุว่า จากกรณีที่ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ส่งหนังสือถึงเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เมื่อวันที่ 14 พ.ย.2567 ให้ระงับการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนจำนวน 2,180 เมกะวัตต์ ไว้ชั่วคราวจนกว่าจะตรวจสอบข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายเสร็จสิ้น

ทั้งนี้ นายพีระพันธุ์ เคยให้สัมภาษณ์ว่า จะขอเวลาตรวจสอบไม่นาน และคาดว่าจะเสร็จภายในสิ้นปี 2567 จนถึงขณะนี้แม้เวลาจะผ่านไป 5 เดือนแล้ว นายพีระพันธุ์ยังไม่สามารถเปิดเผยความคืบหน้าของการตรวจสอบโครงการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนดังกล่าวได้ ส่งผลต่อความเสียหายต่อแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP) ของประเทศไทยที่มีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาด เพื่อเข้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ภายในปี 2065

แหล่งข่าวจากอุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้า กล่าวว่า ผู้ประกอบการที่ได้รับคัดเลือกจากสำนักงาน กกพ. ให้ขายไฟฟ้าจำนวน 72 ราย ขณะนี้ได้รับผลกระทบถึงการประมูลโครงการดังกล่าว เพราะไม่สามารถวางแผนการลงทุนได้ และไม่รู้ว่านายพีระพันธุ์ จะสรุปผลการตรวจสอบโครงการต่อไปอีกนานแค่ไหน เช่นเดียวกับตอนที่นายพีระพันธุ์ ได้สั่งให้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ระงับโครงการจ้างขุด/ขนถ่านหินโรงไฟฟ้าแม่เมาะไว้ก่อนอ้างเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงราว 4 เดือน จนเกิดปัญหากับ กฟผ. ในการการขาดถ่านหินเพื่อป้อนโรงไฟฟ้า 

ทั้งนี้ ส่งผลให้ บริษัท สหกลอิควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SQ ผู้ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ชนะการประกวดราคาจ้างเหมาขุด-ขน ดินและถ่าน สัญญาที่ 8/1 จำนวน 2 รายการ มูลค่าสัญญารวม 7,170 ล้านบาท ได้ส่งหนังสือถึง กฟผ. โดยแจ้งว่าจะฟ้องผู้เกี่ยวข้องหาก กฟผ. ไม่ลงนามในสัญญาภายใน 15 วัน ทำให้นายพีระพันธุ์ ยอมให้ กฟผ. เดินหน้าทำสัญญาว่าจ้างกับผู้ชนะการประมูล

แหล่งข่าว กล่าวต่อว่า ถึงแม้ว่าสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา จะเคยตอบข้อซักถามของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ว่า คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) สามารถสั่งให้ 3 การไฟฟ้า (กฟผ. กฟน. และกฟภ.) ชะลอการรับซื้อไฟฟ้าเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนดำเนินการต่อได้ แต่กฤษฎีกาเห็นว่า ต้องมีแนวทางการตรวจสอบที่ชัดเจน และกำหนดกรอบระยะเวลาให้แน่นอน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ได้รับการคัดเลือก

ทั้งนี้ การสกัดไม่ให้ กฟผ. และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) รับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนดังกล่าว ซึ่งถูกกว่าราคาซื้อไฟฟ้าหมุนเวียนในปัจจุบันมากนั้น ได้ถูกตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม และพลังงานลมที่ได้รับประโยชน์จากสัญญาซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ที่ทำกันมาตั้งแต่ปี 2553 - ปัจจุบัน ที่ได้รับค่าอุดหนุน Adder หน่วยละ 6.5 - 8 บาท สำหรับไฟฟ้าโซลาร์และหน่วยละ 3.50 บาท สำหรับไฟฟ้าพลังลมเป็นเวลา 10  ปี ราคารับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่นายพีระพันธุ์ สั่งระงับไฟฟ้าโซลาร์หน่วยละ 2.16 บาท พลังงานลมหน่วยละ 3.10 บาท ไม่มีค่า Adder 

ในขณะที่ ราคารับซื้อไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มปัจจุบัน ช่วง Peak หน่วยละ 4.51 บาท บวกค่า Adder หน่วยละ 6.50 บาท เท่ากับ 11.01 บาท แพงกว่าราคาไฟฟ้าโซลาร์ที่นายพีระพันธุ์ สั่งชะลอการรับซื้อถึงหน่วยละ 9 บาท แม้จะไม่มีค่า Adder แล้ว ถือว่าแพงกว่าหน่วยละ 2 บาท เพราะต้นทุนไฟฟ้าโซลาร์ปัจจุบันลดลงมากแล้ว แต่โรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มยังขายไฟได้ในราคาแพง เพราะเป็นสัญญาเดิมที่มีการต่ออายุอัตโนมัติทุก 5 ปี

นอกจากนี้ สำนักงาน กกพ.เคยเสนอให้ กพช. ทบทวนสัญญารับซื้อไฟฟ้าหมุนเวียนใหม่ โดยกำหนดราคารับซื้อที่สะท้อนต้นทุนแท้จริง เพราะโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่ได้ค่า Adder 10 ปีคุ้มทุนได้กำไรไปหมดแล้ว แต่ยังคงขายไฟในราคาที่สูง ไม่เป็นธรรมกับประชาชน โดย สำนักงาน กกพ. ประเมินว่า การทบทวนสัญญารับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนจะทำให้ค่าไฟฟ้าผันแปร หรือค่า Ft ลดลงหน่วยละ 17 สตางค์ทันที ทำให้ค่าไฟฟ้าตลอดทั้งปีนี้ไม่เกิน 3.98 บาทต่อหน่วย คิดเป็นเงินที่ผู้ใช้ไฟฟ้าประหยัดได้ ตลอดปี 2568 มากถึง 33,150 ล้านบาท

ทั้งนี้ นายพีระพันธุ์ ไม่เห็นด้วย พร้อมกับเรียกเลขาธิการสำนักงาน กกพ. เข้าพบเพื่อสั่งให้ยกเลิกข้อเสนอนี้ โดยอ้างว่าการทบทวนสัญญาทำไม่ได้ อาจถูกคู่สัญญาฟ้องร้อง ถึงแม้เลขาธิการ กกพ. จะชี้แจงว่าทำได้ เพราะ พระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ.2550 มาตรา 65 ให้อำนาจในการแก้ไขสัญญาให้ราคารับซื้อสะท้อนต้นทุนที่สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยไม่กระทบต่อผู้ประกอบการ 

"ในอดีตสัญญาขายไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน มีราคาคิดกันเป็นเมกะวัตต์ คือ เมกะวัตต์ละ 1 ล้านบาท ตอนนี้มีข่าวในวงการพลังงานว่า ราคาได้ปรับขึ้นเป็นเมกะวัตต์ละ 3-5 ล้านบาท แลกกับการได้ต่อสัญญาขายไฟฟ้าราคาแพงไปชั่วนิรันดร์"

 

 

 


พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์