จัดทัพขุนพล 10 รัฐวิสาหกิจ เป้าหมายรับโจทย์ ‘นโยบายรัฐบาล’

จัดทัพขุนพล 10 รัฐวิสาหกิจ เป้าหมายรับโจทย์ ‘นโยบายรัฐบาล’

รัฐบาลจัดทัพผู้บริหาร 10 รัฐวิสาหกิจ หลังทยอยครบวาระ และลาออก “รฟม. - บขส. - บวท. - เอ็กซิมแบงก์ - กฟผ. - กนอ. - กยท.” เข้าสู่กระบวนการสรรหา

KEY

POINTS

  • รัฐบาลจัดทัพผู้บริหาร 10 รัฐวิสาหกิจ หลังทยอยครบวาระ และลาออก "รฟม. - บขส. - บวท. - เอ็กซิมแบงก์ - กฟผ. - กนอ. - กยท." เข้าสู่กระบวนการสรรหา ทยอยแสดงวิสัยทัศน์
  • สังกัดคมนาคมรื้อใหญ่ หลัง "กีรติ" ยื่นใบลาออกเอ็มดี ทอท.ก่อนครบวาระ เปิดทางรัฐบาลหาผู้ตอบโจทย์ จับตาพายุหมุนอีกรอบ เปลี่ยนผู้อำนวยการการท่าเรือฯ 
  • ด้าน "เบญจรงค์ - สิทธิกร" ชิงเก้าอี้กรรมการผู้จัดการคนใหม่เอ็กซิมแบงก์  ส่วน "2 รองผู้ว่า" ชิงเก้าอี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย คาดได้ตัวภายใน พ.ค.นี้

หลังจากที่รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เข้าบริหารราชการแผ่นดินได้กำหนดให้รัฐวิสาหกิจมีความสำคัญการขับเคลื่อนการลงทุนภาครัฐ รวมถึงขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล ผู้บริหารสูงสุดรัฐวิสาหกิจหลายแห่งครบวาระหรือลาออกไปแล้วหรือมีแรงกดดันให้ลาออกจึงทำให้มีรัฐวิสาหกิจ 10 แห่ง ที่กำลังจะมีการสรรหาผู้บริหารสูงสุด

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงคมนาคม กำลังจะถูกปรับเปลี่ยนหลายแห่ง โดยนอกจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ที่อยู่ระหว่างตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัคร และรอสัมภาษณ์เพื่อแสดงวิสัยทัศน์ ปัจจุบัน บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ยังอยู่ระหว่างสรรหากรรมการผู้จัดการใหญ่คนใหม่ โดยรับสมัครถึงวันที่ 17 เม.ย.68 นี้

ขณะเดียวกันบริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) หรือ ทอท.ที่ปัจจุบันมีนายกีรติ กิจมานะวัฒน์ เป็นกรรมการผู้อํานวยการใหญ่ ทอท.กำลังจะยื่นหนังสือลาออก ซึ่งจะเป็นการลาออกก่อนครบวาระ หลังจากเข้ารับตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.ไปเมื่อราวเดือน เม.ย.2566 และจะครบวาระในเดือนเม.ย.2570

อย่างไรก็ดี คาดการณ์ว่าการยื่นหนังสือลาออกก่อนครบวาระของกรรมการผู้อํานวยการใหญ่ ทอท.ครั้งนี้ สืบเนื่องจากแรงกดดันจากฝ่ายการเมือง เพราะนายกีรติ เข้ามารับตำแหน่งดังกล่าวในสมัยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดังนั้นจึงอาจมีประเด็นผลประโยชน์ที่ยึดโยงกับขั้วการเมืองเก่า

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา นายกีรติได้มีความพยายามในการเจรจาต่อรองแล้ว แต่เนื่องจากเป็นคำสั่งเด็ดขาดจากระดับสูงสุดของฝ่ายการเมืองพรรคเพื่อไทย แม้กระทั่งนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ก็ยังไม่สามารถออกตัวช่วยเหลือได้ ดังนั้นคงต้องจับตาดูว่าการประชุมคณะกรรมการ ทอท.วันที่ 23 เม.ย.นี้ จะยื่นหนังสือลาออกของนายกีรติหรือไม่

จับตาแรงกดดันผู้อำนวยการ กทท.

รายงานข่าวยังระบุด้วยว่า อีกหนึ่งรัฐวิสาหกิจที่ผู้บริหารระดับสูงกำลังจะหมดวาระ คือ การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เนื่องจากปัจจุบัน นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข เข้ารับตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการ กทท.เป็นระยะเวลา 3 ปี นับจากวันที่ลงนามหนังสือจ้างเมื่อวันที่ 1 ก.พ.2565 ซึ่งอยู่ในช่วงของขั้วการเมืองเก่า และกำลังจะครบวาระในตำแหน่งวันที่ 1 ก.พ.2569 ทำให้ต้องจับตาดูว่าในช่วงการปรับเปลี่ยนผู้บริหารระดับสูงของรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงคมนาคม ครั้งนี้ จะใช้โอกาสปรับเปลี่ยนผู้อำนวยการ กทท.ที่กำลังจะหมดวาระด้วยหรือไม่

จัดทัพขุนพล 10 รัฐวิสาหกิจ เป้าหมายรับโจทย์ ‘นโยบายรัฐบาล’

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าของการสรรหาผู้บริหารระดับสูงของรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงคมนาคม ที่กำลังดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน ในส่วนของ บขส.ได้ปิดรับสมัครไปเมื่อวันที่ 17 เม.ย.68 ที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายชื่อผู้สมัคร โดยคาดว่าหนึ่งในนั้นจะมี นายอรรถวิท รักจำรูญ บอร์ด บขส.ทำหน้าที่รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ (กจญ.) เนื่องจากนายอรรถวิทได้ลาออกจากบอร์ด และรักษาการ กจญ.ไปก่อนหน้านี้

ขณะเดียวกัน บวท.เป็นอีกรัฐวิสาหกิจที่กำลังสรรหากรรมการผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่ โดยมีผู้ยื่นสมัคร 3 ราย ได้แก่ 1. นายเมฆินทร์ เพ็ชรพลาย อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วอยซ์ทีวี จำกัด 2. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พัฒนพงษ์ วันจันทึก อดีตรักษาการ อธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม และ 3. นายมนตรี สุคนธมาน รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บวท. โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัคร

4 รายชิงผู้ว่าฯ รฟม.คนใหม่

ส่วน รฟม. ถืออีกหนึ่งหน่วยงานที่ต้องจับตามอง เพราะมีโครงการเตรียมประมูลอยู่ในมือจำนวนมาก ปัจจุบันได้ครบกำหนดให้ยื่นใบสมัครแล้ว โดยมีผู้ยื่นสมัครจำนวน 4 ราย ประกอบด้วย 1. นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้บริหารรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง 

2.นายกาจผจญ อุดมธรรมภักดี รองผู้ว่าการฝ่ายกลยุทธ์ และแผนงาน การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) 3.นายกิตติกร ตันเปาว์ รองผู้ว่าการ (วิศวกรรมและก่อสร้าง) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) 4.นายวิทยา พันธุ์มงคล รองผู้ว่าการ (ปฏิบัติการ) รักษาการแทน ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) 

ทั้งนี้กระบวนการในขณะนี้ทั้ง 4 รายชื่อผ่านขั้นตอนตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว อยู่ระหว่างเตรียมเข้าแสดงวิสัยทัศน์ในวันที่ 25 เม.ย.68 นี้

จับตา “สุเมธ” ตัวเต็งผู้ว่าฯ กนอ.

รายงานข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรมระบุว่า การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดประกาศรับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ กนอ.โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.ถึง 28 เม.ย.2568 โดยมีนายสุเมธ ตั้งประเสริฐ กรรมการ กนอ.และรักษาการผู้ว่าฯ กนอ.เป็นตัวเต็งที่จะได้รับการสรรหา

สำหรับโจทย์ความท้าทายของใหญ่ผู้ว่าฯ กนอ.คนใหม่นั้น ปี 2568 ต้องเพิ่มยอดขาย/ให้เช่าพื้นที่ 3,000-4,000 ไร่ จากพื้นที่ ที่ยังมีอยู่ประมาณ 25,215 ไร่ และต้องใช้เวลาในการเปลี่ยนสี เช่น การประกาศเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษจะต้องมีพื้นที่พร้อมรองรับการลงทุน เพราะการเปลี่ยนสีจะเจอพื้นที่สาธารณะ หรือพื้นที่ ส.ป.ก. และการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ที่ต้องใช้เวลากว่า 2 ปี

จับตา 2 ตัวเต็งชิงผู้ว่าฯ กฟผ.

นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ลงนามคำสั่งเมื่อวันที่ 19 มี.ค.2568 แต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) คนใหม่ (คนที่ 17) แทนนายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ที่จะเกษียณอายุครบ 60 ปี วันที่ 31 ก.ค.2568

รายงานข่าวจากกระทรวงพลังงาน ระบุว่า จะเสนอรายชื่อให้คณะกรรมการ กฟผ.อนุมัติภายในเดือนพ.ค.2568 ให้ผู้ได้รับสรรหาเป็นผู้ว่าการ กฟผ.คนที่ 17 มีเวลาเตรียมตัว โดยตัวเต็งเป็นการชิงดำกันระหว่าง นายนิทัศน์ วรพนพิพัฒน์ รองผู้ว่าการประจำสำนักผู้ว่าการ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และนายธวัชชัย สำราญวานิช รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์

ส่วนนายวิภู พิวัฒน์ รองผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า และ นายธีรวุฒิ เวทะธรรม รองผู้ว่าการพัฒนาระบบส่ง กฟผ.หากลงสมัครแข่งขันด้วยถือว่าเป็นแคนดิเดตที่น่าจับตา เนื่องจากทั้งคู่ทำงานประสานกับฝ่ายการเมืองพรรครัฐบาล และพนักงานระดับปฏิบัติการของ กฟผ.ได้ดี

สรรหา 2 เอ็มดี “EXIM Bank - ธอส.”

รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในปี 2568 สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ (SFIs) 2 แห่ง ต้องสรรหากรรมการผู้จัดการคนใหม่ ได้แก่ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือ EXIM BANK เพื่อแทนนายรักษ์ วรกิจโภคาทร ซึ่งดำรงตำแหน่งครบวาระ 4 ปี วันที่ 31 มี.ค.2568 และธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ซึ่งนายกลภพ วีรพละ จะพ้นจากตำแหน่งวันที่ 22 ธ.ค.2568 เมื่อมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์

สำหรับกระบวนการสรรหากรรมการผู้จัดการของ EXIM Bank ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายชื่อ และคุณสมบัติผู้สมัครหลังจากปิดรับสมัครเมื่อวันที่ 21 มี.ค.2568 โดยมีตัวเต็ง คือ ดร.เบญจรงค์ สุวรรณคีรี รองกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK และนายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)

ส่วนกระบวนการสรรหากรรมการผู้จัดการ ธอส.ตามหลักการจะเริ่มภายใน 1-2 เดือน ก่อนที่กรรมการผู้จัดการคนปัจจุบันจะหมดวาระ ซึ่งคาดว่าประกาศรับสมัครเดือนต.ค. - พ.ย. นี้

กทย.แสดงวิสัยทัศน์ 22 เม.ย.

รายงานข่าวจากการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยว่า ตำแหน่งผู้ว่าการ กยท.ว่างลงเนื่องจากนายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ครบวาระเมื่อวันที่ 15 ก.ค.2567 โดยคณะกรรมการ กยท.แต่งตั้งนายสุขทัศน์ ต่างวิริยกุลรอง ผู้ว่าการด้านปฏิบัติการ กยท.ขึ้นรักษาการแทน ซึ่งรักษาการได้เพียง 1 ปี

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 26 มี.ค.2568 กทย.ประกาศสรรหาผู้ว่าการ กยท.คนใหม่ มีผู้สมัคร 4 คน ผลการคัดเลือกเบื้องต้น ผ่านคุณสมบัติ 3 คน ประกอบด้วยนายศรัณย์พงศ์ ฟุ้งเกียรติ, นายกวิน พันธุ์ศิริ และนายปรีดา ยังสุขสถาพร โดยจะเข้ารับการสัมภาษณ์ และแสดงวิสัยทัศน์วันที่ 22 เม.ย.2568 ซึ่งคาดว่าจะมีการแต่งตั้งให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 15 ก.ค.2568 ซึ่งเป็นวันสถาปนา กยท.

สำหรับภารกิจสำคัญของ กยท.เป็นการผลักดันยางพาราเป็นสินค้าระดับพรีเมียม รวมทั้งต้องรักษาเสถียรภาพราคายางเพื่อยกระดับรายได้เกษตรกร ในขณะที่มีการระบาดของโรคใบยางร่วงที่เริ่มกระจายไปภาคอีสานเป็นเรื่องเร่งด่วนของผู้ว่าการ กยท.คนใหม่

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์